ปัจจุบันภาคธุรกิจบริการได้มีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มมากขึ้น และมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทย โดยในปี 2559 ที่ผ่านมา มูลค่าการค้าบริการโลกมีการขยายตัวเพียงแค่ 2.5% แต่การส่งออกภาคบริการของไทยขยายตัวได้มากถึง 10.4% ขณะที่ภาคการส่งออก ที่เคยเป็นแหล่งรายได้หลักให้กับประเทศ ยังขยายตัวได้เพียง 0.45% ซึ่งชี้ให้เห็นว่า ภาคบริการของไทยเติบโตมากกว่าโลก และยังเติบโตได้มากกว่าการส่งออก
         
ขณะนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้ทำแผนส่งเสริมและผลักดันธุรกิจบริการให้มีการขยายตัวมากขึ้น ทั้งการส่งออกธุรกิจบริการออกไปขายยังต่างประเทศ หรือการออกไปลงทุนทำธุรกิจบริการในต่างประเทศ รวมถึงการพัฒนาและผลักดันให้เกิดธุรกิจบริการใหม่ๆ เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ โดยเฉพาะธุรกิจบริการที่สอดคล้องกับนโยบายไทย Thailand 4.0
         
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้สั่งการให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ทำการศึกษาว่ามีธุรกิจบริการอะไรบ้างที่มีโอกาสเติบโตสูง เป็นธุรกิจบริการที่ยังมีโอกาสทำเงิน และเป็นธุรกิจบริการที่สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม หรือที่เรียกว่าเป็นธุรกิจบริการ S-Curve และ New S-Curve ก่อนที่จะจัดทำแผนผลักดัน เพื่อให้ธุรกิจบริการเหล่านี้เติบโตขึ้น และสร้างรายได้ให้กับประเทศมากขึ้น
 

        
ล่าสุด นางสาวบรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้ทำคัดเลือกกลุ่มธุรกิจบริการเดิมที่เห็นว่ามีโอกาสในการขยายตัวได้ต่อเนื่อง และธุรกิจบริการใหม่ ที่มีโอกาสเติบโตได้แล้ว
         
สำหรับธุรกิจบริการเดิมที่มีศักยภาพอยู่แล้วและสามารถพัฒนาให้มีการเติบโตได้มากขึ้น หรือธุรกิจบริการ S-Curve เช่น ธุรกิจบริการที่เกี่ยวเนื่องกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ , ธุรกิจบริการที่เกี่ยวเนื่องกับอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ , ธุรกิจบริการที่เกี่ยวเนื่องกับอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ , ธุรกิจบริการด้านการศึกษา มุ่งสู่การเป็น Training Hub บุคลากรด้านการบริการของภูมิภาค , ธุรกิจบริการด้านนวัตกรรม , ธุรกิจก่อสร้าง และธุรกิจบันเทิง
         
ส่วนกลุ่มธุรกิจบริการใหม่เพื่อรองรับอนาคต หรือธุรกิจบริการ New S-Cueve ได้แก่ ธุรกิจบริการ Social Media ธุรกิจให้คำปรึกษา (Consulting) ธุรกิจบริการดิจิทัล และธุรกิจบริการด้านสิ่งแวดล้อม เช่น ธุรกิจกำจัดของเสีย เป็นต้น
         
นายสนธิรัตน์ ระบุว่า ธุรกิจบริการทั้งที่เป็น S-Curve และ New S-Curve ล้วนแต่เป็นธุรกิจบริการที่มีศักยภาพ มีโอกาสในการเติบโตได้สูง ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ได้ทำแผนพัฒนาผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมบริการเหล่านี้ให้มีขีดความสามารถเพิ่มขึ้น ผลักดันให้ผู้ประกอบการมีการพัฒนาและเติบโตขึ้น
         
สำหรับผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจบริการอยู่ในข่ายที่เป็น S-Curve และ New S-Curve หากต้องการที่จะพัฒนาธุรกิจให้เติบโตมากขึ้น และปรับปรุงธุรกิจให้ดีขึ้น สามารถติดต่อขอรับคำปรึกษา หรือเข้ารับการฝึกอบรมได้กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า โดยสอบถามรายละเอียดได้ที่สายด่วน 1570