​จาก “หน้ากากทุเรียน” สู่ “ผู้สาวขาเลาะ” แผนการตลาดยุค 2560 “พาณิชย์” ดึงคนเด่น คนดัง คนฮอต ช่วยโปรโมตผลไม้ไทย

img

เรียกว่าต้องพลิกตำรากันครั้งใหญ่ สำหรับมาตรการช่วยเหลือสินค้าเกษตรของรัฐบาล หลังจากที่กระทรวงพาณิชย์ได้ปรับรูปแบบการช่วยเหลือและสร้างแรงกระตุ้นในการบริโภคผลไม้ด้วยเทคนิคการตลาดรูปแบบใหม่ อย่างการดึงคนเด่น คนดัง คนที่กำลังเป็นข่าว คนที่กำลังเป็นที่สนใจในสังคม ให้เข้ามาช่วยเหลือและช่วยกระตุ้นให้เกิดการบริโภคผลไม้ของไทย
       
ก่อนหน้านี้ ช่วงที่ “ทุเรียน” ภาคตะวันออก กำลังออกสู่ตลาด และเป็นช่วงจังหวะเดียวกันกับที่รายการ “The Mask Singer หน้ากากนักร้อง” กำลังดัง และ “หน้ากากทุเรียน” ได้เป็นผู้ชนะเลิศในการประกวด กระทรวงพาณิชย์ได้ส่งคนไปเจรจากับบริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) เพื่อขอตัวหน้ากากทุเรียนมาช่วยโปรโมตทุเรียน เพราะมีแผนที่จะทำแคมเปญเกี่ยวกับทุเรียนในหลากหลายมิติ
       
ในครั้งนั้น นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ บอกว่า อยากได้หน้ากากทุเรียนมาเป็นพรีเซนเตอร์ เพราะปีนี้อยากทำแคมเปญเกี่ยวกับทุเรียน จึงส่งคนไปคุยกับเวิร์กพอยท์ ซึ่งเวิร์กพอยท์ก็ให้ความร่วมมือ และได้ตัวหน้ากากทุเรียนมาช่วยโปรโมตทุเรียนในที่สุด
       
ผลจากการสร้างกระแส และกระตุ้นให้เกิดความต้องการในการบริโภคทุเรียน ประกอบกับกรมการค้าภายใน ได้ดำเนินการเปิดตลาดเฉพาะสินค้า (Magnet Market) เพื่อกระตุ้นให้เกิดการบริโภคทุเรียน โดยได้เปิดไปแล้ว 4 แห่ง ได้แก่ ที่เชียงใหม่ ภูเก็ต กรุงเทพฯ และอุดรธานี ซึ่งสามารถกระตุ้นให้มีการบริโภคทุเรียนได้เพิ่มขึ้น และทำให้ในปีนี้ ทุเรียนไม่มีปัญหาด้านราคาตกต่ำ ทั้งๆ ที่ผลผลิตออกสู่ตลาดมากกว่าปีก่อนด้วยซ้ำ
       
ปีนี้ ทุเรียนภาคตะวันออก มีปริมาณ 4.2 แสนตัน ออกสู่ตลาดแล้ว 97% ทุเรียนใต้ มีปริมาณ 1.76 แสนตัน ออกสู่ตลาดแล้ว 5.05% และขณะนี้กำลังเริ่มออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้น และคาดว่า ไม่น่าจะมีปัญหาด้านราคาเกิดขึ้น
       
สำหรับผลไม้ชนิดอื่น เริ่มจากมังคุดภาคตะวันออก มีปริมาณ 1.47 แสนตัน ออกสู่ตลาดแล้ว 90% มังคุดภาคใต้ ปริมาณ 5.78 หมื่นตัน ออกสู่ตลาดแล้ว 9.5% แต่ที่มีปัญหาด้านราคาอยู่ช่วงหนึ่งนั้น เพราะปีนี้ผลผลิตมังคุดภาคตะวันออกออกล่าช้ากว่าปกติ และเมื่อมาชนกับมังคุดใต้ที่ออกมาในช่วงเดียวกัน ก็เลยกระทบต่อราคา แต่ขณะนี้มังคุดภาคตะวันออกออกสู่ตลาดเกือบหมดแล้ว ทำให้ราคาปรับตัวดีขึ้น  

ส่วนการเตรียมแผนรับมือมังคุดใต้ กรมการค้าภายในได้เตรียมแผนระบายผลผลิตมังคุดออกสู่ตลาด โดยได้จัดสถานที่ให้เกษตรกรนำมังคุดไปจำหน่ายโดยตรง เช่น สถานที่ราชการ สถานีบริการน้ำมันของ ปตท. และตลาดสด

ทางด้านลำไย ปีนี้คาดว่าผลผลิตจะเพิ่มขึ้นจากปีก่อน โดยลำไยภาคเหนือมีปริมาณ 3.77 แสนตัน ออกสู่ตลาดแล้ว 5.2% ลำไยภาคตะวันออก 3.21 แสนตัน ยังไม่ออกสู่ตลาด และเดือนส.ค.เป็นต้นไป จะเป็นช่วงที่ผลผลิตออกมากที่สุด หรือช่วงพีค กรมการค้าภายในได้เตรียมมาตรการรองรับแล้ว ทั้งการหาตลาดภายในประเทศและผลักดันส่งออก

โดยตลาดในประเทศ ได้ประสานห้างค้าปลีกค้าส่งสมัยใหม่และห้างสรรพสินค้า ได้แก่ เทสโก้ โลตัส บิ๊กซี แมคโคร และท็อปซุปเปอร์มาร์เก็ต ช่วยรับซื้อผลผลิตจากแหล่งผลิต เช่น ลำพูน เชียงใหม่ ไปจำหน่ายในสาขาของห้างกว่า 2,800 สาขาทั่วประเทศ และยังได้ให้พาณิชย์จังหวัดหาสถานที่รองรับเพื่อจำหน่ายลำไย เน้นในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคใต้ ซึ่งไม่มีผลผลิตลำไย รวมทั้งผลักดันไปจำหน่ายในตลาดและร้านค้าที่อยู่ในการส่งเสริมของกรมการค้าภายใน เช่น ตลาดต้องชม ตลาดกลาง และฟาร์ม เอ้าท์เล็ต ที่มีอยู่กว่า 300 แห่งทั่วประเทศ  

นอกจากนี้ ยังมีแผนเร่งผลักดันส่งออก โดยล่าสุดผู้ซื้อลำไยจากต่างประเทศได้เดินทางเข้ามาเจรจาซื้อลำไยแล้ว เช่น จีน ฮ่องกง อินโดนีเซีย มาเลเซีย และประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะอินโดนีเซีย ที่มีข่าวดีที่รัฐบาลได้ออกใบอนุญาตนำเข้าให้แก่ผู้นำเข้ารายใหญ่ ทำให้เริ่มมีการสั่งซื้อลำไยเพื่อส่งออกไปยังอินโดนีเซียแล้ว

และล่าสุด กระทรวงพาณิชย์ได้เปิดแนวคิดที่จะทำการทาบทามนักร้องลูกทุ่ง “ลำไย ไหทองคำ” ซึ่งโด่งดังจากเพลง “ผู้สาวขาเลาะ” มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ในการจัดกิจกรรมโปรโมตผลไม้ลำไย ซึ่งขณะนี้กำลังรอการตอบรับกลับมาอยู่ เพราะจากนี้ไป กรมการค้าภายในมีแผนที่จะจัดกิจกรรมโปรโมตการบริโภคลำไยอีกไม่ต่ำกว่า 4-5 ครั้ง

หากทำได้สำเร็จ ก็จะเป็นการพลิกโฉมการช่วยเหลือผลไม้ไทย ที่ไม่จำเจกับการช่วยเหลือรูปแบบเดิมๆ อีกต่อไป 
 

ติดตามข่าวสารแบบฉับไว
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
ติดตามข่าวสารผ่าน Twitter
กดคลิก Follow ด้านล่าง