“อาลีบาบา”ไม่ได้ทิ้งไทย! “พาณิชย์”โชว์ล่าสุดส่ง “ลาซาด้า” ช่วย SMEs ทำการค้าออนไลน์-อบรมคนกระทรวงดีอี-พัฒนาโลจิสติกส์ให้ไปรษณีย์ไทย

img

ทุกวันนี้ ได้เกิดข้อสงสัย “อาลีบาบา” ทิ้งไทยไปมาเลเซียแล้วจริงหรือ? หลังจากที่อาลีบาบา ยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซของโลก ได้ลงนามในความตกลงกับมาเลเซีย ที่จะย้ายการลงทุนศูนย์บริการขนส่งและคลังสินค้าในมาเลเซีย แทนที่จะเป็นไทย จนทำให้หลายฝ่ายเกิดความเป็นห่วงและกังวล

แต่ล่าสุด ข้อสงสัยนี้ ได้รับการชี้แจงจาก “ลาซาด้า” ซึ่งเป็นบริษัทในเครืออาลีบาบาแล้วว่า การลงทุนในมาเลเซียแตกต่างจากไทย โดยในมาเลเซียเป็นการลงทุนนำแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซเชื่อมโยงสินค้าจากจีนไปมาเลเซีย แต่การลงทุนในไทยเป็นการลงทุนขนาดที่ใหญ่กว่า ครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ และอาลีบาบายังคงต้องการให้ไทยเป็นศูนย์กลางกระจายสินค้าไปยังกลุ่ม CLMV ก่อนไปอาเซียนและตลาดโลก

ไม่เพียงแค่นั้น ลาซาด้า ยังได้เข้ามาช่วยดำเนินการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก (SMEs) ของไทยให้สามารถดำเนินธุรกิจผ่านช่องทางการค้าออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังได้ช่วยพัฒนาประสิทธิภาพประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางด้านดิจิทัลของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตามที่ได้ตกลงกันไว้ก่อนหน้านี้ด้วย
       
นางอภิรดี  ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ล่าสุดตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2560 เป็นต้น บริษัท ลาซาด้า จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มบริษัทอาลีบาบา ได้ร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์ ภายใต้ สถาบันผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ (New Economy Academy หรือ NEA) ได้พัฒนาหลักสูตร “SMEs 4.0 เจาะตลาดออนไลน์” โดยได้ช่วยพัฒนาความรู้และพัฒนาศักยภาพด้านการค้าออนไลน์ให้กับ SMEs ของไทย และมีผู้เข้าร่วมหลักสูตรนี้แล้ว 4,273 ราย
       
“ทางลาซาด้า ได้ใช้ตัวอย่างความสำเร็จของอาลีบาบา ที่ได้เข้าไปช่วยเหลือเกษตรกรและผู้ประกอบการรายเล็กๆ ในชุมชนห่างไกลของจีนให้สามารถทำการค้าทางออนไลน์ผ่าน Platform ของอาลีบาบา มาช่วยพัฒนา SMEs ไทยให้สามารถใช้ช่องทางการค้าออนไลน์ในการค้าขาย และพร้อมที่จะสนับสนุน SMEs ที่มีขีดความสามารถในการเข้าไปค้าขายในช่องทางของลาซาด้าและอาลีบาบาต่อไป”
      
นอกจากนี้ ยังได้เข้าไปช่วยพัฒนาศักยภาพบุคลากรด้านดิจิทัลและเทคโนโลยี ให้กับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โดยได้ช่วยสร้างวิทยากร (Train the trainers) แล้วจำนวน 250 ราย และขณะนี้กำลังมีการจัดส่งวิทยากรลงไปอบรมบุคคลากร ณ ศูนย์ดิจิทัลชุมชนจำนวน 600 ศูนย์ทั่วประเทศต่อไป
       
ส่วนการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ในประเทศ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ได้มีการจัดตั้งคณะทำงานผลักดันความร่วมมือ และจัดตั้งคลังสินค้าทัณฑ์บน (Bonded Warehouse) ร่วมกับกลุ่มธุรกิจในเครืออาลี บาบา และหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมศุลกากร เพื่อการดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมและเกิดการบูรณาการมากขึ้น โดยกลุ่มธุรกิจในเครืออาลีบาบา ได้ให้แนวทางแก่บริษัท ไปรษณีย์ไทย เกี่ยวกับการพัฒนาระบบการจัดการคลังสินค้าและการให้บริการ Fulfillment สำหรับธุรกรรม e-Commerce ระหว่างประเทศ โดยนำรูปแบบของกลุ่มธุรกิจในเครืออาลีบาบา มาปรับใช้กับการวางระบบงานคลังสินค้าทัณฑ์บนของไปรษณีย์ไทย
       
นางอภิรดีกล่าวว่า สำหรับการลงทุนของอาลีบาบาในไทย รัฐบาลได้มีการเชิญชวนให้อาลีบาบา มาลงทุนในโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor Development : EEC) ซึ่งล่าสุดได้มีการนำลาซาด้า ไปเยี่ยมชม 3 นิคมอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพในโครงการ EEC ได้แก่ 1.นิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง (จ.ชลบุรี) 2.เหมราชอีสเทิร์น ซีบอร์ด (จ.ชลบุรี) และ 3.อมตะซิตี้ (จ.ระยอง)
         
“ลาซาด้า ได้มีการหารือถึงแนวทางการพัฒนาโครงการ e-Commerce Park ในไทย ซึ่งเป็นการแสดงถึงความมุ่งมั่นในการลงทุนในไทยในอีกหลายปีข้างหน้า โดยโครงการนี้จะเป็นศูนย์รวมของระบบโครงสร้างด้านโลจิสติกส์และเทคโนโลยีขั้นสูง และ Ecosystem ครบวงจรสำหรับผู้ประกอบการ SMEs ผู้ผลิต ผู้ให้บริการ และพันธมิตรทางโลจิสติกส์ เป็นการเปิดช่องทางสู่ตลาดโลกและประเทศเพื่อนบ้านของไทย สามารถช่วยเหลือผู้ประกอบการรุ่นใหม่ได้ตรงตามแนวทางเศรษฐกิจ 4.0 ของรัฐบาลไทย”นางอภิรดีกล่าวในที่สุด 
 

ติดตามข่าวสารแบบฉับไว
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
ติดตามข่าวสารผ่าน Twitter
กดคลิก Follow ด้านล่าง