​เปิดทุกเงื่อนไข ตอบทุกข้อสงสัย อยากขาย “ทุเรียน” ผ่านเว็บไซต์ TMall ในเครืออาลีบาบา ต้องเริ่มยังไง ทำแบบไหน หาคำตอบได้ที่นี่

img

กลายเป็นปรากฎการณ์ที่ฮือฮาเป็นอย่างมาก สำหรับการจำหน่าย “ทุเรียน” ของไทยผ่าน Tmall.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์ในเครือ “อาลีบาบา” โดยใช้เวลาแค่ 1 นาที กับยอดจำหน่ายที่สูงถึง 8 หมื่นลูก ทำให้เกิดคำถามว่า ถ้าอยากเข้าไปมีส่วนร่วม อยากขายทุเรียนผ่าน TMall ต้องทำยังไง มีเงื่อนไขอะไรบ้าง รวมถึงข้อสงสัยความร่วมมือที่เกิดขึ้น จะทำให้อาลีบาบาได้ฐานข้อมูลของไทย และอาลีบาบาจะทำการผูกขาดการค้าออนไลน์หรือไม่นั้น สำนักข่าว CNA จะมาไขคำตอบ และตอบทุกข้อสงสัย ผ่านรายงานพิเศษชิ้นนี้
         
ก่อนอื่นขอพาไปรู้จักที่มาที่ไปของความร่วมมือนี้กันก่อนว่าเป็นมาเป็นไปอย่างไร

เริ่มแรก กระทรวงพาณิชย์ได้ร่วมมือกับอาลีบาบา จัดทำโครงการส่งเสริมสินค้าเกษตรจากเกษตรกรไทยไปขายยังตลาดจีน จึงเป็นที่มาของโครงการ Thai Flagship Store on TMall ซึ่งสินค้าเกษตรที่ผ่านการคัดเลือก จะถูกนำเข้าไปขายผ่าน TMall.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่อยู่ในเครืออาลีบาบา โดยเป็นเว็บไซต์ B2C ที่ใหญ่ที่สุดในจีน ขายสินค้าที่มีแบรนด์ สินค้าคุณภาพ และมีราคาเหมาะสม
         
สำหรับการนำสินค้าเข้าไปจำหน่าย กระทรวงพาณิชย์ได้คัดเลือกสินค้าเกษตรของไทยจากผู้ประกอบการที่เป็นสมาชิก Thaitrade.com และสินค้าเกษตรนั้นๆ ต้องมีคุณภาพ มีมาตรฐาน และได้รับการรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และนำไปเข้าร่วมกิจกรรมจับคู่ธุรกิจกับหน่วยงานนำเข้าของ TMall หรือผู้ซื้อที่ TMall คัดเลือกมา ซึ่งได้ดำเนินการไปแล้วกับสินค้าข้าว และทุเรียน จนสร้างปรากฎการณ์อย่างที่รู้กัน
         
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ยังมีแผนที่จะร่วมกับ TMall เพิ่มจำนวนรายการสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์เกษตรอื่นๆ เข้าร่วมโครงการอีกมาก

ทีนี้มาดูกันว่า หากต้องการที่จะเข้าไปร่วมขายสินค้าเกษตรใน TMall จะต้องทำยังไง มีเงื่อนไขอะไรบ้าง เริ่มจากตัวเกษตรกร โดยแยกเป็นกลุ่มที่ไม่มีความพร้อมและยังไม่เป็นนิติบุคคล จะต้องรวมกลุ่มจัดตั้งเป็นสหกรณ์ หรือจัดตั้งเป็นนิติบุคคลขึ้นมาก่อน เพราะตรงนี้สำคัญ ถือเป็นการสร้างการมีตัวตน และสร้างความน่าเชื่อถือ จากนั้น กรมพัฒนาธุรกิจการค้าจะเข้าไปช่วยบ่มเพาะการทำธุรกิจ พัฒนาศักยภาพการทำการค้าออนไลน์ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์มีแพลตฟอร์มรองรับ ทั้ง Thaicommercestore.com และเว็บของดีดอทคอม และเมื่อมีความพร้อม ก็จะผลักดันให้เข้าไปเป็นสมาชิก Thaitrade.com และเข้ากระบวนการต่อยอดสู่การค้าระหว่างประเทศ ผลักดันเข้า Thai Flagship Store ต่อไป

ขณะที่เกษตรกรที่เข้มแข็งแล้ว มีฐานะเป็นสหกรณ์ หรือเป็นนิติบุคคลแล้ว และมีขีดความสามารถในการทำธุรกิจมาแล้ว ก็สามารถสมัครเข้าเป็นสมาชิก Thaitrade.com ได้เลย และกระทรวงพาณิชย์จะช่วยในการคัดเลือกสินค้าเพื่อนำขึ้นไปวางจำหน่ายบน Thaitrade.com และผลักดันให้เข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาศักยภาพและกิจกรรมส่งเสริมการขายต่างๆ ที่มี รวมทั้งจะคัดเลือกสินค้าที่มีศักยภาพ เพื่อนำไปเสนอวางขายใน Thai Flagship Store บนเว็บไซต์ TMall ผ่านการเจรจาจับคู่ธุรกิจกับผู้นำเข้าของ TMall เพื่อนำสินค้าเกษตรของไทยเข้าไปจำหน่าย

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ที่ต้องกำหนดให้เกษตรกรที่อยากเข้าร่วมโครงการต้องเป็นนิติบุคคล เพราะการทำการค้าออนไลน์ ต้องมีความน่าเชื่อถือ โดยการเป็นนิติบุคคล ไม่ใช่แค่ตั้งเป็นบริษัท จะเป็นห้างหุ้นส่วน วิสาหกิจชุมชน หรือสหกรณ์ ก็ได้ และที่ต้องเริ่มจาก Thaitrade.com ก่อน เพราะต้องช่วยเตรียมความพร้อมให้กับเกษตรกร ไม่ใช่ว่ามีสินค้าแล้วจะโพสต์ขายกันเลย ถ้าเกิดสินค้าไม่ได้มาตรฐาน ซื้อไปแล้วมีปัญหา ความน่าเชื่อถือก็จะหมดไป จึงต้องเข้ามาช่วยคัดกรองก่อน

ส่วนเกษตรกรที่ยังไม่พร้อม ก็จะช่วยเตรียมความพร้อมให้ ไม่เป็นนิติบุคคล ก็จะผลักดันให้เป็นนิติบุคคล ไม่มีเครื่องหมายการค้า ก็จะช่วยแนะนำ เข้าไปช่วยพัฒนาสินค้าให้ได้มาตรฐาน และถ้าอยากขายออนไลน์ ก็จะเข้าไปช่วยสอน ไปแนะนำขั้นตอนและวิธีการ พอทำเป็นแล้ว ก็จะค่อยๆ ขยายออกไปต่างประเทศ
         
สำหรับข้อสงสัยที่ว่า อาลีบาบา จะได้ฐานข้อมูล (ดาต้าเบส) ของไทย และอาจส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคนั้น กระทรวงพาณิชย์ยืนยันว่า ข้อมูลผู้ประกอบการ สินค้าและบริการต่างๆ จะไม่สูญหาย หรือตกไปอยู่กับทางอาลีบาบาฝ่ายเดียวแน่นอน แต่ในทางกลับกัน ไทยจะได้ข้อมูลความต้องการซื้อจากฝั่งจีน ซึ่งเป็นข้อมูลที่ไทยไม่เคยมีมาก่อน โดยอาลีบาบาจะนำส่งข้อมูลที่จำเป็นในการวิเคราะห์ให้กระทรวงพาณิชย์ เพื่อเป็นองค์ความรู้สำคัญที่จะพัฒนาสินค้าและผู้ประกอบการไทย
         
ทางด้านประเด็นการเข้ามาผูกขาดธุรกิจค้าออนไลน์ของอาลีบาบา และจะกระทบต่อการจ้างงาน โรงงานผู้ผลิต ระบบธนาคาร และอุตสาหกรรม กระทรวงพาณิชย์มีข้อชี้แจงในเรื่องนี้ การค้าออนไลน์เป็นรูปแบบการค้าสมัยใหม่ ซึ่งผู้ประกอบการไทยต้องปรับตัวให้ทัน ซึ่งที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์ได้ช่วยเหลือผู้ประกอบการให้มีการปรับตัว พัฒนาผู้ประกอบการให้เข้าสู่การค้าออนไลน์อย่างต่อเนื่อง และยืนยันว่า กระทรวงพาณิชย์ไม่ได้ร่วมมือในด้านการทำการค้าออนไลน์กับอาลีบาบาเพียงเจ้าเดียว แต่ยังมีการร่วมมือกับแพลตฟอร์มค้าออนไลน์ระดับโลกอื่นๆ อีกเป็นจำนวนมาก เช่น Amazon.com และ eBay.com (ตลาดอเมริกาและยุโรป) ShopJJ.com (ตลาดสิงคโปร์และอาเซียน) Gosoko (ตลาดแอฟริกา) เป็นต้น ซึ่งมั่นใจได้ว่า จะไม่มีการผูกขาดเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
 

ติดตามข่าวสารแบบฉับไว
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
ติดตามข่าวสารผ่าน Twitter
กดคลิก Follow ด้านล่าง