​ส่งออกอัญมณี มี.ค.68 เพิ่ม 52.53% ขายทองคำเก็งกำไร ดันยอดพุ่ง 269.55%

img

ส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับ มี.ค.68 พุ่งต่อ มูลค่า 1,054.19 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่ม 52.53% ขยายตัว 5 เดือนติด หากรวมทองคำ เพิ่ม 131.04% ยอดรวม 3 เดือน ไม่รวมทองคำ เพิ่ม 102.38% รวมทองคำ เพิ่ม 109.88% เผยเฉพาะทองยังแรงต่อ เพิ่ม 269.55% จากการขายเก็งกำไร เหตุคนวิ่งหาสินทรัพย์ปลอดภัย ส่วนตลาดสหรัฐฯ โตต่อ จากการเร่งนำเข้าหนีอัตราภาษีใหม่
         
นายสุเมธ ประสงค์พงษ์ชัย ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ GIT เปิดเผยว่า การส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับ ไม่รวมทองคำ เดือน มี.ค.2568 มูลค่า 1,054.19 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 52.53% ขยายตัวเป็นบวกต่อเนื่อง 5 เดือนติดต่อกัน หากรวมทองคำ มูลค่า 2,502.15 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 131.04% และการส่งออกรวม 3 เดือนของปี 2568 (ม.ค.-มี.ค.) ไม่รวมทองคำ มูลค่า 5,086.40 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 102.38% รวมทองคำ มูลค่า 8,635.86 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 109.88%

ทั้งนี้ การส่งออกเฉพาะทองคำในเดือน มี.ค.2568 มีมูลค่า 1,447.95 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 269.55% จากการส่งออกไปเก็งกำไร และการหาซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย เพราะมีความกังวลเกี่ยวกับมาตรการภาษีของสหรัฐฯ การตอบโต้ของคู่ค้าหลายประเทศ ทำให้ราคาทองคำทำสถิติสูงสุดที่ 3,115.10 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ส่วนยอดรวมส่งออกทองคำ 3 เดือน มีมูลค่า 3,549.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 121.65% และแยกเป็นรายเดือน ม.ค.2568 มูลค่า 1,167.87 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 148.95% ก.พ.2568 มูลค่า 933.63 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 26.395%

สำหรับตลาดส่งออกสำคัญ สหรัฐฯ ยังคงส่งออกได้เพิ่มขึ้นสูงถึง 23.85% จากการเร่งนำเข้า เพื่อลดความเสี่ยงจากมาตรการภาษี ฮ่องกง เพิ่ม 5.44% เยอรมนี เพิ่ม 5.56% อิตาลี เพิ่ม 0.32% สหราชอาณาจักร เพิ่ม 19.47% สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพิ่ม 10.30% ญี่ปุ่น เพิ่ม 30.49% สวิตเซอร์แลนด์ เพิ่ม 33.66% ส่วนเบลเยี่ยม ลด 28.53%  
         


ส่วนการส่งออกสินค้า แพลทินัม ยังเพิ่มสูงถึง 149,133.67% จากการส่งออกไปอินเดียเกือบทั้งหมด เครื่องประดับเงิน เพิ่ม 12.47% เครื่องประดับทอง เพิ่ม 5.39% เครื่องประดับแพลทินัม เพิ่ม 115.79% พลอยเนื้อแข็งเจียระไน เพิ่ม 20.42% พลอยเนื้ออ่อนเจียระไน เพิ่ม 8.68% ส่วนพลอยก้อน ลด 56.22% เพชรก้อน ลด 9.69% เพชรเจียระไน ลด 33.33% เนื่องจากการส่งออกไปยังฮ่องกง เบลเยียม อินเดีย อิสราเอลลดลง และเครื่องประดับเทียม ลด 1.22%
         
นายสุเมธกล่าวว่า การส่งออกในช่วง 3 เดือนของปี 2568 สินค้าอัญมณีและเครื่องประดับยังเติบโตได้ดีในเกือบทุกตลาดสำคัญ แม้การส่งออกจะขยายตัวดี แต่ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการเร่งนำเข้าสินค้าของคู่ค้าก่อนมาตรการภาษีใหม่ของสหรัฐฯ จะเริ่มมีผลบังคับใช้ ในช่วงเวลานี้ผู้ส่งออกควรใช้โอกาสในการเร่งการส่งมอบสินค้าและสรุปคำสั่งซื้อกับลูกค้าในสหรัฐฯ ให้มากที่สุดก่อนหมดระยะเวลา 90 วัน และต้องมีการวางแผนกระแสเงินสด เตรียมรับมือกับต้นทุนที่อาจเพิ่มขึ้นในอนาคตจากภาษี เพื่อให้เกิดความยืดหยุ่นทางการเงิน รวมทั้งบริหารห่วงโซ่อุปทานด้วยการพิจารณาการใช้วัตถุดิบ การผลิตและการกระจายสินค้า ไปยังประเทศที่มีแนวโน้มความเสี่ยงจากอัตราภาษีน้อยกว่า ร่วมกับการใช้ประโยชน์จาก FTA ในการขยายตลาดส่งออก เพื่อบริหารความเสี่ยงทางการค้าในระยะสั้น และวางรากฐานการปรับตัวระยะยาว เพื่อลดการพึ่งพาตลาดเดียว และสร้างเสถียรภาพทางธุรกิจในยุคความไม่แน่นอนของการค้าโลก
         
อย่างไรก็ตาม GIT คาดว่าแนวโน้มการส่งออกในเดือน เม.ย.2568 และก่อนที่สหรัฐฯ จะเพิ่มอัตราภาษีนำเข้าตามกำหนดใน 90 วัน คือ เดือน ก.ค.2568 การส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับไปสหรัฐฯ จะยังคงขยายตัวเพิ่มขึ้น เพราะผู้นำเข้าเร่งนำเข้าก่อนภาษีบังคับใช้ และรัฐบาลกำลังอยู่ระหว่างการเจรจากับสหรัฐฯ เพื่อบรรเทาผลกระทบจากภาษี หากได้ข้อยุติที่ดี ก็จะส่งผลดีต่อการส่งออกในอนาคต แต่ก็ยังต้องระวังในเรื่องความไม่แน่นอนของนโยบายการค้าและอัตราภาษีสหรัฐฯ การเพิ่มขึ้นของราคาทองคำ ที่จะส่งผลให้ความต้องการซื้อเครื่องประดับทองลดลง และความผันผวนของค่าเงินบาท ที่จะทำให้ขีดความสามารถในการแข่งขันลดลง

ติดตามข่าวสารแบบฉับไว
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
ติดตามข่าวสารผ่าน Twitter
กดคลิก Follow ด้านล่าง