
สนค.เผยดัชนีราคาส่งออก เดือน เม.ย.68 กลับมาฟื้นตัว 0.3% จากความต้องการสินค้าอุตสาหกรรม ที่มีการเร่งส่งออกก่อนการปรับขึ้นภาษีของสหรัฐฯ แต่สินค้าเกษตร ข้าว มันสำปะหลังลด จากการแข่งขันและความต้องการลดลง ส่วนดัชนีนำเข้า ลด 1% จากการลดลงของราคาสินค้าเชื้อเพลิงเป็นหลัก ขณะที่กลุ่มทุน วัตถุดิบ และอุปโภคบริโภค ยังคงเพิ่มขึ้นตามความต้องการใช้และการส่งออก
นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) และโฆษกกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาส่งออกเดือน เม.ย.2568 เท่ากับ 110.9 เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 0.3% กลับมาฟื้นตัวขึ้น จากความต้องการสินค้าอุตสาหกรรม เนื่องจากอยู่ในช่วงการเร่งส่งออกก่อนการปรับขึ้นภาษีของสหรัฐฯ ส่วนดัชนีราคานำเข้า เท่ากับ 114.2 ลดลง 1% จากการลดลงของราคาสินค้าเชื้อเพลิงเป็นสำคัญ แต่กลุ่มสินค้าทุน วัตถุดิบ และอุปโภคบริโภค ยังขยายตัวตามความต้องการใช้ภายในประเทศและส่งออก
สำหรับรายละเอียดดัชนีราคาส่งออก ที่เพิ่มขึ้น มาจากการเพิ่มขึ้นของหมวดสินค้าอุตสาหกรรม 1.6% ได้แก่ ทองคำ ตามความต้องการถือครองสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโลก และความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ตามความต้องการคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ เพื่อรองรับการทำงานของ AI และเร่งนำเข้าก่อนจะมีการประกาศภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ และเครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ ตามความต้องการที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หมวดสินค้าอุตสาหกรรมการเกษตร เพิ่ม 1.4% ได้แก่ อาหารสัตว์เลี้ยง ตามความนิยมเลี้ยงสัตว์เลี้ยงทั่วโลก และความต้องการอาหารสัตว์เลี้ยงคุณภาพสูง อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป เครื่องดื่ม และผลไม้กระป๋องและแปรรูป ตามแนวโน้มการบริโภคอาหารพร้อมรับประทานเพิ่มขึ้น
โดยหมวดสินค้าที่ดัชนีราคาส่งออกปรับตัวลดลง ประกอบด้วย หมวดสินค้าแร่และเชื้อเพลิง ลด 17.4% โดยเฉพาะน้ำมันสำเร็จรูป ตามทิศทางราคาน้ำมันดิบตลาดโลกที่ปรับตัวลดลง และหมวดสินค้าเกษตรกรรม ลด 3.3% ได้แก่ ข้าว เนื่องจากอุปทานข้าวโลกยังอยู่ในระดับสูง ประกอบกับการเผชิญกับการแข่งขันจากประเทศคู่แข่ง และผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง จากปริมาณผลผลิตที่ออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้น รวมถึงความต้องการจากตลาดหลัก อาทิ จีน มีแนวโน้มลดลง เนื่องจากมันสำปะหลังจากประเทศเพื่อนบ้านของไทยมีราคาถูกกว่า
ส่วนดัชนีราคานำเข้าที่ลดลง มาจากหมวดสินค้าเชื้อเพลิง ลด 14.3% โดยเฉพาะราคาน้ำมันดิบ ซึ่งเป็นผลจากอุปทานส่วนเกิน และความต้องการที่ชะลอตัว แต่หมวดสินค้าอุปโภคบริโภค เพิ่ม 8.0% ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน ผลิตภัณฑ์เวชกรรมและเภสัชกรรม เครื่องประดับอัญมณี และผัก ผลไม้ และของปรุงแต่งที่ทำจากผัก ผลไม้ ตามความต้องการเพื่อใช้ในการอุปโภคบริโภคของประเทศ และการขยายตัวของการท่องเที่ยว หมวดสินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป เพิ่ม 4.6% โดยเฉพาะทองคำ ตามทิศทางราคาตลาดโลกที่สูงขึ้น เนื่องจากเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่า ทำให้ความต้องการถือครองทองคำเพื่อกระจายความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น อุปกรณ์ส่วนประกอบเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ โดยเฉพาะแผงวงจรไฟฟ้า และสินแร่โลหะอื่น ๆ เศษโลหะและผลิตภัณฑ์ ตามความต้องการนำเข้าเพื่อใช้ในการผลิตสินค้าอุตสาหกรรมต่าง ๆ ภายในประเทศ และส่งออก หมวดสินค้าทุน เพิ่ม 4.1% ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ และเครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เพื่อรองรับการพัฒนาอุตสาหกรรม และเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันของประเทศ หมวดยานพาหนะและอุปกรณ์การขนส่ง ดัชนีราคาไม่เปลี่ยนแปลง แต่มีการเปลี่ยนแปลงในบางกลุ่มสินค้าสำคัญ อาทิ ส่วนประกอบและอุปกรณ์ยานยนต์ ตามความต้องการชิ้นส่วนยานยนต์ เพื่อการผลิตและประกอบรถยนต์ภายในประเทศและส่งออก และสินค้าที่มีราคาลดลง คือ รถยนต์โดยสารและรถบรรทุก เนื่องจากความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงิน ประกอบกับมีการแข่งขันจากรถยนต์ไฟฟ้าราคาถูกในตลาดโลก
นายพูนพงษ์กล่าวว่า แนวโน้มดัชนีราคาส่งออกและดัชนีราคานำเข้า เดือน พ.ค.2568 คาดว่าจะขยายตัวชะลอลงอีก เพราะฐานราคาปี 2567 ในช่วงครึ่งปีแรก อยู่ในระดับต่ำกว่าปี 2568 การเร่งนำเข้าสินค้าไทยจากประเทศคู่ค้า ก่อนจะมีการบังคับใช้มาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariff) เต็มรูปแบบ ทำให้มีความต้องการสินค้าในระยะสั้นเพิ่มขึ้น สินค้าเกษตรแปรรูปส่วนใหญ่ยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง สินค้าอุตสาหกรรมหลัก โดยเฉพาะสินค้าที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยียังขยายตัว และต้นทุนการผลิตมีแนวโน้มปรับสูงขึ้น
ขณะที่ปัจจัยเสี่ยงที่ควรเฝ้าระวัง ได้แก่ การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ยังมีแนวโน้มยืดเยื้อในหลายภูมิภาค ความไม่แน่นอนจากนโยบายการค้าและภาษีของสหรัฐฯ ราคาสินค้าเกษตรสำคัญบางกลุ่มยังมีทิศทางลดลง จากปัญหาอุปทานส่วนเกิน การแข่งขันทางด้านราคามีแนวโน้มสูงขึ้น และความผันผวนของค่าเงินบาท
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
กดคลิก Follow ด้านล่าง