เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา “กระทรวงพาณิชย์” ได้มีโอกาสขึ้นติดเทรน “อันดับหนึ่ง” ของแอปพลิเคชัน X ด้วยแฮชแท็ก #MOCxBOC ซึ่งถือเป็นเรื่องที่เกิดขึ้น “ได้ยาก” สำหรับหน่วยงานรัฐ แต่ก็ “เกิดขึ้นแล้ว”
         
โดย “ปรากฎการณ์ดังกล่าว” เกิดจากการผนึกกำลังกันระหว่าง “กระทรวงพาณิชย์” กับ “บริษัท บี ออน คลาวด์ จำกัด – Be On Cloud - BOC” ผู้ผลิตภาพยนตร์และซีรีส์วายระดับโลก เปิดตัว “โปรเจกต์ยักษ์” รับปี 2567
         
โปรเจกต์ที่ว่า คือ การลงนามทำ “บันทึกแสดงเจตจำนง” หรือ Memorandum of Intent – MOI เพื่อร่วมมือกันส่งเสริม “สินค้า” และ “บริการ” ของไทย ด้วย “Marketing Platform” รูปแบบใหม่ ผ่าน “ภาพยนตร์” และ “ซีรีส์วาย” ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมและได้รับการยอมรับเพิ่มมากขึ้น
         
สำหรับ “รูปแบบความร่วมมือ” สองฝ่ายจะสนับสนุนการนำสินค้าและบริการของไทย มาใช้ในการ “ถ่ายทำ” โปรเจกต์ของบี ออน คลาวด์ โดยกระทรวงพาณิชย์จะจัดกิจกรรมให้บี ออน คลาวด์ มาคัดเลือกสินค้าในกลุ่มต่าง ๆ ของผู้ประกอบการ SMEs ที่กระทรวงพาณิชย์ต้องการ “ผลักดัน” ไม่ว่าจะเป็น “อาหาร , ผลไม้ , สินค้า GI , สินค้าแฟชันและเครื่องประดับ , สินค้า BCG และสินค้าจากชุมชน” ที่ได้รับการพัฒนาจากกระทรวงพาณิชย์

ตลอดจน Brands ต่าง ๆ ที่กระทรวงพาณิชย์ต้องการส่งเสริม เช่น ร้านอาหาร Thai SELECT ทั้งในและต่างประเทศ ตรา Demark , T-Mark เป็นต้น
         
นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ยังจะให้การสนับสนุนผลงานของบริษัท “ด้านทรัพย์สินทางปัญญา” ทั้งการพัฒนา ส่งเสริม และคุ้มครอง และยังจะช่วยส่งเสริม “การตลาดทั่วโลก” ในฐานะที่กระทรวงพาณิชย์เป็น “หน่วยงานเดียว” ที่มีสำนักงานทั้งในส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และต่างประเทศครอบคลุมทั่วโลก โดยจะช่วยพา “เข้าร่วมกิจกรรม” ทั้ง Pitching นำเสนอกับผู้ซื้อลิขสิทธิ์ทั่วโลก และยังมีแผนนำผลงานเข้าร่วม “งานแสดงสินค้า” ที่มีศักยภาพที่สุด ทั้ง Tokyo International Film Festival (TIFFCOM) ประเทศญี่ปุ่น , งาน Hong Kong Film Market (FILMART) เมืองฮ่องกง , Cannes Film Festival เมืองคานส์ ฝรั่งเศส , และ American Film Market (AFM) นครลอสแอนเจลิส สหรัฐฯ
         


“นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์” กล่าวว่า โปรเจกต์นี้ เป็นการเชื่อมโยงตลาดในรูปแบบใหม่และเป็นการส่งเสริมสินค้าและบริการไทยได้อย่างแนบเนียน และยังถือเป็นจุดเริ่มต้นของความร่วมมือและการสนับสนุนอย่างจริงจังจากรัฐบาลชุดนี้ โดยกระทรวงพาณิชย์ยังพร้อมร่วมมือกับผู้ผลิตภาพยนตร์และซีรีส์รายอื่น ๆ ด้วย

“ที่ผ่านมา ได้ให้นโยบายกับกระทรวงพาณิชย์ไว้ว่า ให้คิดนอกกรอบ ถ้าคิดแบบเดิม ก็จะได้ผลแบบเดิม ให้คิดใหม่อย่างรอบคอบ ก็จะได้สิ่งใหม่ ๆ แตกต่างจากอดีตที่เคยเผชิญมา รัฐต้องสนับสนุน ไม่ใช่รัฐอุปสรรค ประสานงานกับทุกองคาพยพ เสริมความเข้มแข็งของเอกชน เป้าหมายเพื่อคนตัวเล็กไปถึงผู้ประกอบการรายใหญ่ เชื่อมโยงกันทำให้ประเทศไทยเดินหน้า”

สุดท้าย ผลจากการ “คิดนอกกรอบ” จึงเกิดโปรเจกต์นี้ขึ้นมา แล้วไม่ต้องใช้งบประมาณอะไร ใช้ “แค่ใจ-ความมุ่งมั่น” และ “จุดแข็ง” ที่แต่ละฝ่ายมีอยู่สนับสนุนซึ่งกันและกัน

“ผู้เขียน” เชื่อว่า จากที่ “กระทรวงพาณิชย์” มีศักยภาพในการส่งเสริมผู้ประกอบการ มีศักยภาพในการส่งเสริมสินค้าและบริการไทยออกสู่ตลาดโลก และ “บี ออน คลาวด์” มีศักยภาพในการสร้างภาพยนตร์-ซีรีส์ จึงถือเป็นการจับคู่ที่มา “ถูกที่ ถูกเวลา”  

แล้วยิ่ง บี ออน คลาวด์ มี “ดาราชื่อดัง” อยู่ในสังกัดอย่าง “มาย ภาคภูมิ ร่มไทรทอง” และ “อาโป ณัฐวิญญ์ วัฒนกิติพัฒน์” ที่ถือเป็น “แม่เหล็ก” ดึงดูด “แฟนคลับ” ได้จากทั่วทุกมุมโลก
         


ที่สำคัญกระทรวงพาณิชย์ ยังสามารถที่จะใช้ประโยชน์จาก “มาย-อาโป” ในการเป็น “อินฟลูเอนเซอร์” ช่วยโปรโมตสินค้าและบริการของไทย จนอยากติดแฮชแท็กให้ #พาณิชย์xมายอาโป แล้วทั้งคู่ต่างยืนยันว่า “พร้อมเต็มที่” และจะขอเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วย “ขับเคลื่อน-ผลักดัน” สินค้าและบริการของไทยออกสู่สายตาชาวโลก  
         
ส่วนที่ทุกคน “อยากรู้” จะร่วมมือกันอย่างไรภายใต้โปรเจกต์นี้ ล่าสุดได้มีการ “เฉลยแล้ว” ว่า จะเริ่มในซีรีส์เรื่องต่อไป คือ “ชาย (Shine)” ที่จะมีมายและอาโป มาร่วมแสดง และจะมีการนำ “สินค้าไทย” และ “บริการไทย” รวมถึง “ท่องเที่ยว” และ “วัฒนธรรม” ของไทยไปบรรจุเป็นส่วนหนึ่งในภาพยนตร์และซีรีส์วายอย่างแนบเนียน เพื่อให้ “ผู้ชม” ได้รู้จัก รับรู้ และเพิ่มการบริโภคสินค้าไทย ใช้บริการไทย และตามรอยซีรีส์ไทยต่อไปในอนาคต
         
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ คาดว่า ผลที่จะเกิดขึ้น จะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย 3 ล้านคน ครอบคลุม 100 ประเทศทั่วโลก และจะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้มากกว่า 2,000 ล้านบาท ภายในปี 2568 
         
ตอนนี้ เริ่มแล้ว #MOCxBOC   

ต่อไป กระทรวงพาณิชย์จะ “ร่วมมือ” กับใครอีก และคิด “นอกกรอบ” แบบไหน

น่าติดตาม
 
ซีเอ็นเอ