​“มะม่วงอบแห้ง” ปรุงรสหลากหลายรสชาติ โดดเด่นด้วยนวัตกรรม บริโภคได้ทันที

img

มะม่วงอบแห้ง ใคร ๆ ก็เคยกิน แต่การพัฒนามะม่วงอบแห้งให้มีรสชาติที่หลากหลาย และเป็นรสชาติแบบไทย ๆ ที่คนไทยคุ้นเคย ไม่น่าจะมีขายที่ไหนมาก่อน แต่วันนี้ มีขายแล้ว และได้รับความนิยมทั้งตลาดในประเทศ และเริ่มโกอินเตอร์ออกไปสู่ตลาดต่างประเทศแล้ว และที่สำคัญ เป็นฝีมือการคิดค้นพัฒนาของผู้ประกอบการคนไทย ที่มีชื่อว่า นางธนาภัค เต็งเจริญยิ่ง เจ้าของสวนมะม่วงโชคอนันต์ จ.กำแพงเพชร และเจ้าของโรงงาน ซีซ่า ฟู้ดส์ โรงงานแปรรูปผลไม้อบแห้ง
         
นางธนาภัคเล่าให้ฟังว่า เริ่มแรกเป็นสวนมะม่วงอยู่ที่ จ.กำแพงเพรช ปลูกมะม่วงโชคอนันต์พื้นที่ร้อยไร่ แล้วก็เอามาแปรรูป โดยที่ว่ามะม่วงนั้น ได้ GAP มาแล้ว เป็นเกษตรปลอดภัย ทีนี้มันเยอะมาก จนเราคิดว่ามันต้องแปรรูป ก็เลยเอามาแปรรูปเป็นมะม่วงอบแห้ง แต่เดิมทีเป็นโรงงานบรรจุภัณฑ์อาหาร เป็นพวกกระปุกน้ำพริก แล้วทีนี้โรงงานเป็นโรงงานที่ใส่อาหารอยู่แล้ว เลยมีการเอามะม่วงมารีแพ็กบ้าง จนวันนึงที่มะม่วงมีมากพอ ก็เลยคิดว่ามันเยอะเกินไปที่จะมาแจกแล้ว ก็เลยเอามาแปรรูปที่โรงงาน ก็มาสร้างโรงงานแปรรูป
         
แนวคิดหลักในการทำสินค้า เห็นว่า ถ้านำมาแปรรูปให้ดี สามารถทำมูลค่าเพิ่มขึ้นได้ จากมะม่วงชาวสวนไม่กี่บาท ถ้าแปรรูปออกมา ขายได้กิโลกรัม 200–300 บาท ก็เลยเอามะม่วงมาแปรรูปเป็นพวกปรุงรส เน้นรสชาติที่สามารถขายคนไทย ของเราจะเป็นคอนเซ็ปต์พวกรถเข็น ก็เลยเอามะม่วงมามิกซ์ให้เสร็จเลย อบให้เสร็จ และสามารถพร้อมทานได้เลย ตอนนี้ออกมาทั้งหมด 8 รสชาติ เป็นรสดั้งเดิม รสบ๊วย คลุกพริก พริกเกลือ น้ำปลาหวาน แจ่วปลาร้า ยำแซ่บ กะปิไฮโซ
         
สำหรับจุดเด่นของสินค้า ปกติมะม่วงน้ำปลาหวาน ส่วนมากก็ต้องมาจิ้ม แต่เราสามาถที่จะเคลือบให้มันเสร็จอยู่ในชิ้นเดียวได้เลย แล้วสามารถใส่ปากทานได้เลย สามาถพกพาได้ทุกที่ทุกเวลา แล้วเก็บได้นานขึ้น ปกติเก็บได้ประมาณ 9 เดือน หลังจากที่อบแล้ว สามารถมาแปลงกายให้มันมีรสชาติ ทานได้ทุกที่ทุกเวลา สะดวกสบายขึ้น แล้วอย่างพวกยำแซ่บมันก็แซ่บนัว แจ่วปลาร้าที่ตอนนี้คนกำลังฮิตมาก ก็เลยคิดว่านำมาทำเป็นมะม่วงคลุกแจ่วปลาร้าได้ และกะปิไฮโซ ไฮไลต์เลย เรามาเคลือบให้เสร็จ หนึ่งคำมันเป็นเหมือนกับอาหารว่างที่มีประโยชน์
         


ทางด้านกำลังการผลิต วันนึงผลิตได้ประมาณ 1 ตัน ถ้าคิดเป็นกระปุกก็ประมาณ 500 กระปุก ส่วนการทำตลาด ได้ทำตลาดในประเทศ มีช่องทางการขายผ่านทางออนไลน์ ผ่านทางเพจของตัวเอง และก็มีทางช้อปปี้ ลาซาด้า ในห้างก็มีเดอะมอลล์ บิ๊กซี ไอคอนสยาม และเซเว่นอีเลฟเว่น ที่กำลังดิวอยู่ ส่วนตลาดส่งออก ตอนนี้มีลูกค้าส่งออกไปออสเตรเลีย อเมริกาก็มี และมั่นใจว่าอนาคตจะดีแน่ แต่ต้องใช้เวลา เพราะดูแล้วสินค้าของเรามันเป็นไทย เทสต์ คนต่างชาติอยากกินอยู่แล้ว
         
ส่วนแผนในอนาคต อยากได้พาร์ตเนอร์ที่เก่งเรื่องการตลาด เพราะโลกนี้ มันต้องแบ่งกันทำงาน จะทำทุกอย่างคนเดียวมันเป็นไปไม่ได้ สมมุติเราเชี่ยวชาญเรื่องการแปรรูป ก็อยากจะแปรรูป และเราเก่งที่จะหาวัตถุดิบ เก่งในเรื่องของการทำสูตร เก่งในเรื่องของการแปรรูปวัตถุดิบให้ดีที่สุด ก็อยากจะมุ่งทางนั้น แต่เราก็อยากได้พาร์ตเนอร์ที่เก่งในเรื่องของการทำตลาดเพื่อมาช่วยกันผลักดัน
         
ทั้งนี้ หากถามว่าผลิตภัณฑ์เข้าหลักเกณฑ์ของ BCG Model อย่างไรบ้าง นางธนาภัค ยืนยันว่า เข้าแบบ 100% เพราะว่าตัวออริจินัล มันไม่มีอะไรที่แตกต่างเลย แต่พอมาเติมรสชาติ ปรุงรส จากมูลค่าเท่านี้ สามารถเพิ่มมูลค่าขึ้นมาอีกเท่าตัว ที่มันเพิ่มคุณค่า เพราะว่ามันเป็นกระบวนการที่ผลิตดับเบิ้ล และมันปรุงรสเข้าไปอีก ยิ่งเพิ่มมูลค่าเข้าไปอีก มันเป็นความยากในการผลิต แต่เป็นความง่ายในการกิน และก็เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วย
         
อย่างไรก็ตาม อยากให้กระทรวงพาณิชย์ช่วยประชาสัมพันธ์ เพราะสินค้าเป็นสินค้านวัตรกรรม ที่มีการลงทุน มีการพัฒนา และได้ช่วยเพิ่มช่องทางขายไปต่างประเทศ เพราะถ้าขายได้ ก็สามารถช่วยเกษตรกรให้มีรายได้เพิ่มขึ้น เพราะใช้วัตถุดิบในประเทศ ส่วนการที่ได้เข้าร่วมโครงการ Local BCG Plus ของกระทรวงพาณิชย์ มั่นใจว่า จะเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการเปิดตัวสินค้ามะม่วงอบแห้งปรุงรสออกสู่ตลาด ทั้งในและต่างประเทศได้เพิ่มขึ้น






ติดตามข่าวสารแบบฉับไว
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
ติดตามข่าวสารผ่าน Twitter
กดคลิก Follow ด้านล่าง

ข่าวล่าสุด

ดูทั้งหมด