ก้าวแรก Soft Power ไทย Netflix, WeTV, iQiyi ,VIU แห่ซื้อคอนเทนต์

img

นับตั้งแต่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้มีนโยบายในการขับเคลื่อนธุรกิจภาพยนตร์และอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่อง ภายใต้ยุทธศาสตร์ Soft Power เพื่อผลักดันจุดแข็งของประเทศไทย ทั้งอาหาร สถานที่ท่องเที่ยว วัฒนธรรม แหล่งวิถีชีวิตที่เป็นเอกลักษณ์ของไทยออกสู่สายตาของชาวโลก และสร้างรายได้เข้าประเทศ
         
ปัจจุบัน กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) ได้ดำเนินการตามนโยบาย มีการเปิดเวทีเจรจาธุรกิจภาพยนตร์และอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่องในโครงการ Content Pitching เมื่อวันที่ 27 ม.ค.2565 ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นก้าวแรกของการผลักดัน Soft Power ของไทย ทั้งภาพยนตร์ แอนิเมชัน และดิจิทัลคอนเทนต์ต่าง ๆ และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากแพลตฟอร์มชื่อดังระดับโลก
         


นายจุรินทร์ ระบุว่า การจัดงานครั้งนี้ เป็นครั้งแรกในการดึงผู้ให้บริการสตรีมมิ่งความบันเทิงชื่อดังอย่าง Netflix , WeTV , iQiyi และ VIU มาเจรจาการค้ากับผู้ประกอบการไทย 15 บริษัท จนสามารถสร้างรายได้รวมกว่า 815 ล้านบาท
         
“สิ่งที่เกิดขึ้น เกิดจากที่ได้มอบนโยบายผลักดันให้ธุรกิจดิจิทัลคอนเทนต์ เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ตามแนวคิด Creative Economy และส่งเสริมให้ไทยเป็น Hub ของอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ ซึ่งเป็นนโยบายสืบเนื่องจากปี 2564 ที่ให้ไว้ และปีนี้ 2565 ให้มุ่งเน้นการส่งเสริม Soft Power ให้ไทยให้ผงาดได้ในตลาดโลก โดยการส่งเสริมและสร้างเครือข่าย ขยายโอกาส เผยแพร่ผลงานไทยสู่ตลาดต่างประเทศมากขึ้น”
         
นายจุรินทร์ย้ำว่า นโยบาย Soft Power นอกจากจะเป็นการส่งเสริมกลุ่มธุรกิจดิจิทัลคอนเทนต์แล้ว ยังเป็นการกระตุ้นการพัฒนาธุรกิจที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ เช่น อาหาร สถานที่ท่องเที่ยว วัฒนธรรม ที่เป็นเอกลักษณ์ของไทยอีกด้วย
         


สำหรับความสำเร็จที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ผู้ประกอบการดิจิทัลคอนเทนต์ไทยทั้ง 15 บริษัท ได้รับโอกาสในการนำเสนอผลงานและบริการที่น่าสนใจให้กับผู้ให้บริการสตรีมมิ่งความบันเทิงชื่อดัง จนสามารถสร้างรายได้เข้าประเทศตามนโยบายของนายจุรินทร์ โดยคอนเทนต์ที่ได้รับความสนใจจากผู้ให้บริการสตรีมมิ่งความบันเทิงมากที่สุด 3 อันดับแรก คือ คอนเทนต์ทีวีซีรีส์ คอนเทนต์ภาพยนตร์ และคอนเทนต์แอนิเมชันซีรีส์
         
“แสดงให้เห็นว่าอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ไทยภายใต้ยุทธศาสตร์ Soft Power แบบไทย มีศักยภาพมาก และเป็นที่สนใจของผู้นำเสนอความบันเทิงระดับโลก”
         
โดยจากนี้ไป กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ จะเพิ่มความเข้มข้นในการส่งเสริมและสนับสนุนดิจิทัลคอนเทนต์ของไทยต่อไป เพราะในช่วงสถานการณ์โควิด-19 เป็นโอกาส เพราะประชาชนมีความเครียดต้องการเสพความบันเทิง และ Streaming ความบันเทิงอย่าง Netflix , WeTV , iQiyi และ VIU ซึ่งปัจจุบันเป็นตลาดใหญ่ที่คนทั่วโลกกำลังนิยม ประกอบกับเทรนด์ในปัจจุบันคนอยู่บ้านมากขึ้น จึงเป็นโอกาสของผู้ประกอบการโดยเฉพาะผู้ที่มีความคิดสร้างสรรค์ และผู้ให้บริการสตรีมมิ่งความบันเทิง  
         


นอกจากนี้ นายจุรินทร์ยังได้สั่งการให้เพิ่มโอกาสให้กับผู้ผลิตรุ่นใหม่ ๆ เข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น และขยายโอกาสต่อไป เพราะผู้ประกอบการไทยมีศักยภาพงานในการผลิตงานดิจิทัลคอนเทนต์ แต่ในการทำคอนเทนต์ต่าง ๆ อย่าลืมใส่ Soft Power ลงไปด้วย เพื่อช่วยขายจุดแข็งของประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นอาหารไทย ศิลปวัฒนธรรม วิถีชีวิต ซึ่งจุดแข็งเหล่านี้ จะต่อยอดทำเงิน สร้างรายได้ ได้อีกมหาศาล
         
สำหรับกิจกรรมสนับสนุนยุทธศาสตร์ Soft Power กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ มีแผนที่จะดำเนินการช่วยเหลือในรูปแบบอื่น ๆ เพิ่มเติม นอกจากการจัดเวทีเจรจาการค้า โดยจะช่วยขยายโอกาสในการดำเนินธุรกิจ ทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศผ่านช่องทางออนไลน์ การจัดนิทรรศการและการสัมมนาแลกเปลี่ยนความรู้ รวมไปถึงการจัดกิจกรรม Networking สร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างผู้ประกอบการ
         
คาดหวังว่ายุทธศาสตร์การผลักดัน Soft Power ของไทย จะเป็นตัวเปลี่ยนเกม พลิกโฉมหน้าการเพิ่มรายได้เข้าประเทศ ทั้งผ่านธุรกิจภาพยนตร์และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่อง รวมถึงผลดีที่จะเกิดขึ้นกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว การตามรอยภาพยนตร์ ตามรอยซีรีส์ การรู้จักอาหารไทย ศิลปวัฒนธรรม วิถีชีวิตของคนไทย เหมือนกับที่เกาหลีใต้เคยทำสำเร็จมาแล้ว

ติดตามข่าวสารแบบฉับไว
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
ติดตามข่าวสารผ่าน Twitter
กดคลิก Follow ด้านล่าง

ข่าวล่าสุด

ดูทั้งหมด