“จับคู่กู้เงิน”มาถูกที่ถูกเวลา นายกฯ ชมเพิ่มทางรอดร้านอาหาร

img

นับตั้งแต่เกิดสถานการณ์โควิด-19 ตั้งแต่รอบแรก รอบที่ 2 จนมารอบที่ 3 หลายธุรกิจได้รับผลกระทบจากคำสั่งรัฐบาลให้ปิดกิจการ และแม้ภายหลังจะผ่อนปรนในบางกิจการ แต่หลายธุรกิจก็ยังคงได้รับผลกระทบ และยังไม่ฟื้นตัว ไม่เว้นกระทั่งธุรกิจร้านอาหาร ที่ไม่ว่าจะระบาดกี่รอบ ก็ได้รับผลกระทบไปทุกรอบ แม้หลาย ๆ รายจะปรับตัวหันมาขายผ่านช่องทางออนไลน์ แต่ผลกระทบก็ยังคงมีอยู่ หลายรายขาดสภาพคล่อง หลายรายขาดเงินทุนหมุนเวียน ทำให้ธุรกิจไปต่อไม่ได้
         
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้เล็งเห็นถึงปัญหา และได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกรมการค้าภายใน กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ไปร่วมกันพิจารณาหามาตรการช่วยเหลือร้านอาหารให้อยู่รอดได้ในยุคโควิด-19 อย่างเร่งด่วน จนในที่สุด ก็มีมาตรการช่วยเหลือออกมา 2 มาตรการ ซึ่งนายจุรินทร์ เรียกว่า เป็นภาค 1 และภาค 2
         
สำหรับมาตรการช่วยเหลือภาค 1 เป็นเรื่องของโครงการพาณิชย์ลดราคา! ช่วยประชาชน Lot ที่ 11 ที่เป้าหมาย คือ การลดภาระค่าครองชีพให้ประชาชน แต่ครั้งนี้ นอกจากช่วยเหลือประชาชนแล้ว ยังขยายขอบเขตมาช่วยเหลือผู้ประกอบการร้านอาหารด้วย

โดยการดำเนินการ ได้มีการประสานแพลตฟอร์มที่ให้บริการรับส่งอาหารออนไลน์ 5 แพลตฟอร์ม ประกอบด้วย Robinhood , Gojek , Lineman , Grab และ Foodpanda เข้ามาช่วยลดภาระค่าครองชีพให้กับผู้บริโภค และช่วยร้านอาหารไปพร้อม ๆ กัน โดยในส่วนผู้บริโภค ลดราคาอาหารสูงสุดถึง 60% และลดค่าส่งอาหารให้กับผู้บริโภคจาก 3-5 กิโลเมตร ลดจาก 40 บาทเหลือ 0 บาท ยกเว้น Lineman ส่วนร้านอาหาร ได้ลด GP จาก 30-35% เหลือ 25% เพื่อช่วยร้านอาหารให้มีรายได้เพิ่มขึ้น และบางแพลตฟอร์ม ไม่มีการเก็บค่า GP ด้วย
         
ส่วนภาค 2 เป็นเรื่องของการช่วยเหลือด้านสภาพคล่อง ได้มีการประสานสถาบันการเงินจัดแคมเปญเฉพาะกิจ เพื่อปล่อยสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษ ให้แก่ผู้ประกอบการร้านอาหาร ทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล โดยได้รับความร่วมมือจากบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) และสถาบันการเงินของรัฐ เช่น ธนาคารกรุงไทย ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารออมสิน ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME D Bank) เข้ามาช่วยเหลือ
         


ปัจจุบันกำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการ โดยได้มีการจัดกิจกรรม “จับคู่กู้เงิน สถาบันการเงินกับร้านอาหาร” ที่กระทรวงพาณิชย์ในส่วนกลาง และในส่วนภูมิภาค บริหารจัดการโดยสำนักงานพาณิชย์จังหวัด กำหนดจัดตั้งแต่วันที่ 7-20 มิ.ย.2564 ซึ่งขณะนี้ ยังพอมีเวลา หากผู้ประกอบการรายอาหารรายใด ที่สนใจจะเข้าร่วมโครงการ “จับคู่กู้เงิน” ก็เข้าไปติดต่อได้
         
สำหรับร้านอาหารที่ต้องการเข้าร่วมโครงการ สามารถประสานงานผ่าน 7 สมาคม ได้แก่ 1.สมาคมร้านอาหารไทยและสตรีทฟู๊ด 2.สมาคมภัตตาคารไทย 3.สมาคมร้านอาหารและธุรกิจท่องเที่ยวรายย่อย 4.สมาคมผู้ประกอบการร้านอาหาร 5.สมาคมการค้าธุรกิจร้านอาหาร 6.สมาคมเชียงใหม่ภัตตาคารร้านอาหารและบันเทิง และ 7.สมาคมร้านอาหารไทยจังหวัดกระบี่ รวมทั้งกลุ่มร้านอาหารอื่นๆ ทั่วทั้งประเทศ
         
นายจุรินทร์กล่าวว่า ปัจจุบัน ประเทศไทยมีผู้ประกอบการร้านอาหารในระบบทั้งสิ้น จำนวน 118,967 ราย แบ่งเป็นนิติบุคคล 15,967 ราย คิดเป็น 13.43% และบุคคลธรรมดา 103,000 ราย คิดเป็น 86.57% ซึ่งทั้ง 118,967 ราย สามารถเข้ามาร่วมโครงการเจรจากับสถาบันการเงินทั้ง 5 แห่งได้ทั้งในส่วนกลางส่วนภูมิภาค
         
“โครงการนี้ มีวัตถุประสงค์ที่ต้องการช่วยให้ร้านอาหารสามารถเข้าถึงแหล่งเงินกู้ หรือเข้าถึงสถาบันการเงินโดยมีดอกเบี้ยราคาพิเศษและปลอดหลักทรัพย์ในบางกรณี และเงื่อนไขผ่อนปรนอื่น ๆ เพราะรัฐบาลมีวงเงินให้สถาบันการเงินเหล่านี้ในการปล่อยกู้ให้ภาคธุรกิจบริการ รวมทั้งเอสเอ็มอีและไมโครเอสเอ็มอีอยู่แล้ว”
         
นอกจากนี้ หลังจากที่นายจุรินทร์ได้คิกออฟเปิดตัวโครงการไปแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้ใช้โอกาสในช่วงการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ผ่านระบบวิดีโอ คอนเฟอเรนซ์ เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.2564 ที่ผ่านมา เอ่ยปากชมโครงการ “จับคู่กู้เงิน” ของกระทรวงพาณิชย์ ที่ผลักดันโดยนายจุรินทร์ โดยระบุว่า เป็นโครงการที่ดี ที่ออกมาช่วยเหลือผู้ประกอบการ พร้อมกับบอกรัฐมนตรีกระทรวงอื่น ๆ ว่า หากใครมีโครงการดี ๆ แบบนี้ ให้นำมานำเสนอได้ พร้อมที่จะให้การสนับสนุน

โครงการ “จับคู่กู้เงิน” สามารถช่วยเหลือผู้ประกอบการได้จริง เพราะเป็นการดิวตรง คุยกับสถาบันการเงินตรง มีปัญหา มีข้อติดขัดตรงไหน ก็คุยกันได้เลย เพราะเป็นการจับเข่าคุยกัน และสถาบันการเงินเอง ก็พร้อมที่จะปล่อยเงินกู้ อัตราดอกเบี้ยพิเศษ และผ่อนปรนหลาย ๆ เงื่อนไข เพราะรัฐบาลไฟเขียว และมีเงินที่รัฐบาลสนับสนุนไว้อยู่แล้ว

สรุปจบตรงนี้ หากร้านอาหารรายใดที่กำลังประสบปัญหาขาดสภาพคล่อง ไม่มีเงินทุนหมุนเวียนทำธุรกิจ สามารถเข้าร่วมโครงการได้ แต่รีบ ๆ หน่อย เหลือเวลาอีกไม่มาก ถึงวันที่ 20 มิ.ย.2564 นี้เท่านั้น

ติดตามข่าวสารแบบฉับไว
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
ติดตามข่าวสารผ่าน Twitter
กดคลิก Follow ด้านล่าง