​กรมพัฒน์ผนึกพาณิชย์จังหวัด ลุยปราบต่างชาติใช้คนไทยเป็นนอมินีทำ 6 ธุรกิจเสี่ยง

img

กรมพัฒนาธุรกิจการค้าหารือร่วมสำนักงานพาณิชย์จังหวัด 11 แห่ง ที่มีข้อมูลมีนิติบุคคลประกอบธุรกิจในกลุ่มความเสี่ยงสูง 6 ธุรกิจ โดยใช้คนไทยเป็นตัวแทนอำพราง (นอมินี) เพื่อชี้แจงแนวทางการตรวจสอบแบบพุ่งเป้าและเชิงลึก ป้องกันการใช้นอมินีทำธุรกิจ พร้อมใช้ระบบ IBAS ช่วยคัดกรอง ก่อนนำไปตรวจสอบ หากพบทำผิดจริง ส่งต่อ ปปง. สตช. และดีเอสไอจัดการต่อ
           
นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้ประชุมร่วมกับสำนักงานพาณิชย์จังหวัด 11 จังหวัด ได้แก่ ชลบุรี สมุทรปราการ นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรสาคร เชียงใหม่ สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต ประจวบคีรีขันธ์ ระยอง และกระบี่ ที่มีข้อมูลว่ามีนิติบุคคลที่ประกอบธุรกิจความเสี่ยงสูงโดยใช้คนไทยเป็นตัวแทนอำพราง (นอมินี) ใน 6 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ 1.ธุรกิจท่องเที่ยวและที่เกี่ยวเนื่อง อาทิ ภัตตาคาร ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก 2.ธุรกิจค้าที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ 3.ธุรกิจ e-Commerce ขนส่ง และคลังสินค้า 4.ธุรกิจโรงแรม รีสอร์ต 5.ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการเกษตร และ 6.ธุรกิจก่อสร้างทั่วไป เพื่อชี้แจงแนวทางการคัดกรอง การตรวจสอบนิติบุคคลแบบพุ่งเป้าและเชิงลึก ตามแนวทางของกรม เพื่อให้กระบวนการตรวจสอบมีประสิทธิภาพเป็นไปในทิศทางเดียวกันและสามารถป้องกันการใช้นอมินีในการประกอบธุรกิจได้อย่างเป็นรูปธรรม
         
ทั้งนี้ กรมยังได้รับฟังปัญหา อุปสรรค และแลกเปลี่ยนข้อมูล รวมถึงแนวทางการตรวจสอบระหว่างกรมและสำนักงานพาณิชย์จังหวัด ในการป้องกันและปราบปรามนอมินีให้มีประสิทธิภาพ โปร่งใส และเป็นธรรมยิ่งขึ้น ควบคู่กับการอำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบธุรกิจที่ดำเนินธุรกิจโดยสุจริต และถูกต้องตามกฎหมาย
         


โดยกรมมีนโยบายที่ชัดเจน และเอาจริงกับการปราบปรามนอมินี เพราะพฤติกรรมดังกล่าวไม่เพียงแต่สร้างความเสียเปรียบให้กับผู้ประกอบการไทยที่สุจริต หากแต่ยังเป็นอุปสรรคต่อการแข่งขันที่เป็นธรรมในระบบเศรษฐกิจของประเทศด้วย โดยกรมจะเพิ่มความเข้มงวดกับการใช้ช่องว่างของกฎหมายหลบเลี่ยงการที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายมากยิ่งขึ้น และจะดำเนินการตรวจสอบเอกสารและข้อมูลที่อยู่ภายใต้ความรับผิดชอบอย่างเข้มงวด รวมทั้งดำเนินคดีกับนิติบุคคลที่ไม่ส่งเอกสารประกอบการลงบัญชีตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งเป็นการกระทำผิดกฎหมายเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบและมีความเสี่ยงต่อการเป็นนอมินี
         
นายพูนพงษ์กล่าวว่า ปัจจุบัน กรมได้มีการพัฒนาระบบวิเคราะห์แนวโน้มพฤติกรรมของนิติบุคคล (Intelligence Business Analytics System : IBAS) เพื่อใช้สำหรับคัดกรองนิติบุคคลกลุ่มเสี่ยง และนำไปตรวจสอบในเชิงลึก ซึ่งจะคัดกรองนิติบุคคลในพื้นที่กรุงเทพมหานครและพื้นที่ในส่วนภูมิภาคไปพร้อมกัน โดยกรมจะจัดทำรายชื่อและส่งข้อมูลนิติบุคคลกลุ่มเป้าหมายที่ผ่านการคัดกรองให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดช่วยตรวจสอบเพิ่มเติม และสำหรับนิติบุคคลกลุ่มเสี่ยงที่ผ่านการตรวจสอบแล้วพบว่ากระทำความผิดจริง จะประสานส่งต่อข้อมูลให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
         
“กรมจะเพิ่มความเข้มงวดในการปราบปรามนอมินี และมุ่งมั่นที่จะแก้ไขช่องโหว่ต่าง ๆ แต่ยังคงเน้นการอำนวยความสะดวกให้แก่ภาคเอกชน เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่โปร่งใส เป็นธรรม และสกัดกั้นผู้ที่ไม่สุจริต เพื่อให้ผู้ประกอบการไทยสามารถแข่งขันได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนในระบบเศรษฐกิจโลกต่อไป”นายพูนพงษ์กล่าว

ติดตามข่าวสารแบบฉับไว
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
ติดตามข่าวสารผ่าน Twitter
กดคลิก Follow ด้านล่าง