กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) สำรวจตลาดสินค้าอาหารและเครื่องดื่มที่ยั่งยืนในอังกฤษ พบผู้บริโภคกลุ่ม Gen Z และ Millennials ให้ความสำคัญกับการบริโภคสินค้ากลุ่มนี้เพิ่มขึ้น และยอมจ่ายแพงกว่าเดิม แนะผู้ส่งออกไทยศึกษา ผลิตสินค้าไปขาย เน้นเรื่องการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม มีโอกาสรุ่งแน่
น.ส.สุนันทา กังวาลกุลกิจ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมได้มอบนโยบายให้ทูตพาณิชย์ที่ประจำอยู่ในประเทศต่าง ๆ ทำการสำรวจลู่ทางการค้า และโอกาสการส่งออกสินค้าไทยไปยังประเทศที่ประจำอยู่ ตามนโยบายนางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ล่าสุดได้รับรายงานจาก นายจิรกานต์ เพชรชาติ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร ถึงการเติบโตของสินค้าอาหารและเครื่องดื่มที่ยั่งยืนในอังกฤษ และโอกาสในการส่งออกอาหารและเครื่องดื่มกลุ่มดังกล่าวของไทยเข้าไปจำหน่าย เพื่อรองรับการเติบโตที่กำลังขยายตัว
โดยทูตพาณิชย์ได้รายงานข้อมูลว่า ปัจจุบันผู้บริโภคชาวอังกฤษให้ความสำคัญต่อประเด็นเรื่องความยั่งยืนของอาหารและเครื่องดื่ม โดยเฉพาะกลุ่ม Gen Z และ Millennials เป็นกลุ่มที่ให้ความเห็นว่ายินดีจ่ายค่าสินค้าเพิ่มขึ้น 50% หากเป็นสินค้าที่มีการผลิตอย่างยั่งยืน ในขณะที่ในการสำรวจของ OnePoll ชี้ให้เห็นว่ากว่า 2,000 คนจากกลุ่มตัวอย่างพร้อมจะใช้จ่ายมากขึ้นหากเป็นสินค้าพรีเมียมหรือเป็นอาหารที่มีการผลิตอย่างยั่งยืน และยังเลือกซื้อสินค้ามากขึ้น โดย 1 ใน 10 ของผู้ตอบแบบสอบถาม เห็นว่า พร้อมจะเลิกใช้สินค้ายี่ห้อเดิม เนื่องจากความกังวลเรื่องความยั่งยืน และเปลี่ยนไปใช้สินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

ทั้งนี้ การสื่อสารของแบรนด์ที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญในลำดับแรก ได้แก่ การลดขยะจากการผลิต ความเป็นมิตรกับโลก การสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับแบรนด์ ซึ่งจะช่วยให้ผู้บริโภคเขื่อถือและเพิ่มความสามารถการแข่งขันในตลาดได้ โดยจากผลการศึกษาพบว่า ร้อยละ 17 มีการตรวจดูตราสัญลักษณ์รับรองความยั่งยืน ร้อยละ 23 ให้ความสำคัญต่อสินค้าที่มีการปฏิบัติที่มีความยั่งยืน ร้อยละ 14 ตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าจากการโฆษณาเกี่ยวกับความยั่งยืน ร้อยละ 44 มีความกังวลต่อโลกในอนาคต ร้อยละ 25 พยายามมีส่วนร่วมในการลดคาร์บอน ฟุตพริ้นต์ และ 1 ใน 5 ให้ความสนใจในการซื้อสินค้ายั่งยืนเป็นอันดับแรก
อย่างไรก็ตาม ความยั่งยืนของแบรนด์อาจมีอุปสรรคสำคัญ คือ ราคาสินค้าที่เพิ่มขึ้น จากการสร้างความน่าเชื่อถือของแบรนด์ และผู้บริโภคอาจจะต้องเผชิญกับความพึงพอใจต่อการเปลี่ยนมาใช้สินค้าที่มีความยั่งยืนที่มีราคาสูงกว่าแบรนด์อื่น ซึ่งเป็นประเด็นที่เจ้าของแบรนด์จะต้องลงทุนในการสร้างการรับรู้ ให้แบรนด์มีความน่าเชื่อถือ
“ประเด็นเรื่องการผลิตอย่างยั่งยืนในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค เป็นประเด็นที่ผู้บริโภคชาวอังกฤษให้ความสำคัญ และมีความสนใจเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในกลุ่มผู้บริโภคที่มีอายุน้อยที่มีข้อมูลชี้ให้เห็นชัดเจนว่ามีความพร้อมในการใช้จ่ายสินค้าที่มีความยั่งยืน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและมีคุณธรรม ซึ่งกลุ่ม GenZ เป็นกลุ่มผู้บริโภคที่ให้ความสนใจในประเด็นเหล่านี้มากที่สุดและมีกำลังซื้อสินค้า และยังมีความสนใจในประเด็นเรื่องรีไซเคิล และการใช้พลาสติกแบบครั้งเดียวทิ้งให้น้อยลงอีกด้วย ซึ่งผู้ประกอบการไทย อาจใช้ประเด็นเรื่องการอนุรักษ์ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเข้ามาพิจารณาการพัฒนาสินค้าและบรรจุภัณฑ์ รวมถึงการสร้างการรับรู้ หรือใช้เป็นจุดเด่นในการสร้างตลาดใหม่ในสหราชอาณาจักรได้อีกทางหนึ่ง”น.ส.สุนันทากล่าว

ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
กดคลิก Follow ด้านล่าง

