
เปิด 9 ผลงานเด่น “ฉันทวิชญ์ ตัณฑสิทธิ์” รัฐมนตรีอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองไทย เผยสามารถขับเคลื่อนงานที่มีส่วนวางรากฐานให้กับเศรษฐกิจการค้าของประเทศ เปิดโอกาสให้กับธุรกิจและประชาชนไทย และทำให้ไทยมีที่ยืนบนเวทีการค้าโลก
ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ ถึงผลการทำงานของนายฉันทวิชญ์ ตัณฑสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งเป็นรัฐมนตรีที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองไทย โดยมีอายุ 35 ปี เท่ากับที่กฎหมายกำหนดคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรีเอาไว้ ว่า ในช่วง 2 เดือนของการทำงาน นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง มีผลงานสำคัญที่ได้ร่วมดำเนินการ และผลงานภายใต้หน่วยงานที่กำกับดูแล ได้แก่ กรมการค้าต่างประเทศ กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) และสถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา (องค์การมหาชน) หรือ ITD โดยสามารถช่วยวางรากฐานให้กับเศรษฐกิจและการค้าของประเทศ เปิดโอกาสใหม่ให้กับธุรกิจและประชาชนไทย เพื่อให้เศรษฐกิจไทยมีที่ยืนอย่างแข็งแกร่งในเวทีการค้าโลก จำนวน 9 เรื่อง
ผลงานทั้ง 9 เรื่อง ได้แก่ 1.ร่วมวางกลยุทธ์เจรจาภาษีสหรัฐฯ โดยร่วมกำหนดกลยุทธ์การเจรจากับสหรัฐฯ จนสามารถบรรลุอัตราภาษีที่แข่งขันได้ สามารถลดทอนผลกระทบต่อธุรกิจไทย และยังได้ร่วมออกแบบมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการทั้งภาคเกษตรและอุตสาหกรรม ลดแรงกระแทกจากมาตรการกีดกันทางการค้า
2.เตรียมความพร้อมและเร่งรัดการเจรจาความตกลงการค้าเสรี (FTA) ไทย-สหภาพยุโรป เดินหน้าอย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ หาจุดสมดุลในข้อตกลงผ่านการหารือกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย นำไปสู่ผลลัพธ์ที่เกิดประโยชน์ต่อเศรษฐกิจ ประชาชนไทย และของประเทศ
3.วางรากฐานพัฒนาระบบตรวจสอบถิ่นกำเนิดสินค้าส่งออกไปสหรัฐฯ โดยริเริ่มพัฒนาระบบ RVC Up ที่สามารถตรวจสอบถิ่นกำเนิดสินค้าได้ในทุกการส่งออกอย่างแม่นยำและรวดเร็วขึ้น ส่งเสริมการใช้วัตถุดิบในประเทศ เพิ่มความน่าเชื่อถือของสินค้าไทย และเพิ่มศักยภาพการส่งออกสู่ตลาดสหรัฐฯ และตลาดอื่น ๆ
4.ขายมันสำปะหลังไทย ในช่วงการจัดงาน World Tapioca Conference 2025 (WTC 2025) และปิดดีลการค้ามันสำปะหลังปริมาณกว่า 1.48 ล้านตัน มูลค่ารวม 10,900 ล้านบาท ช่วยระบายผลผลิตในประเทศกว่า 3.57 ล้านตัน พร้อมผลักดันมันสำปะหลังไทยขึ้นแท่นสินค้าเกษตรศักยภาพในตลาดโลก
5.ผลักดัน “ยุทธศาสตร์การค้าชาติ” ฉบับแรกของประเทศไทย ผ่านคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (คคช.) เพื่อเป็นกรอบวิเคราะห์จุดแข็ง จุดอ่อน และแนวทางพัฒนาการค้าของไทยอย่างรอบด้านในระยะยาว
6.ขับเคลื่อนอาเซียนสู่ Digital Economy ผ่านความตกลง DEFA โดยมีบทบาทสำคัญในฐานะประธานการเจรจาของไทย เพื่อผลักดันความตกลง ASEAN Digital Economy Framework Agreement (DEFA) ให้สามารถลงนามได้ภายในปี 2569 เปิดประตูใหม่สู่การพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลของภูมิภาค
7.ขยายโอกาสสินค้าไทยบุกตลาดอินเดีย โดยเข้าร่วมการเจรจารัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน–อินเดียสมัยพิเศษ เพื่อเร่งผลักดันการทบทวนความตกลงการค้าเสรีอาเซียน–อินเดีย (AITIGA) ให้แล้วเสร็จภายในปี 2568 ขยายช่องทางการส่งออกสินค้าไทยเข้าสู่ตลาดอินเดียที่มีการเติบโตสูง
8.เผยแพร่ผลการศึกษา “Trade Diversion” ช่วยรัฐ–เอกชนกำหนดนโยบายเศรษฐกิจ ด้วยการขับเคลื่อนการศึกษาเชิงลึกเกี่ยวกับโอกาสการเบี่ยงเบนเส้นทางการค้า (Trade Diversion) จากการเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจโลกและมาตรการภาษี จนทำให้เกิดการไหลบ่าของสินค้านำเข้า (Import Flooding) เพื่อใช้เป็นข้อมูลสำคัญในการกำหนดนโยบายของภาครัฐ และเป็นเครื่องมือเชิงกลยุทธ์สำหรับภาคเอกชนไทย
9.ผลักดันเกษตรนวัตกรรมไทยสู่ตลาดโลก ด้วย Pop-up Counter “Nature for Future” เช่น เม็ดฟู่สมุนไพรกลิ่นผลไม้ไทย และครีมบำรุงจากข้าว เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภครุ่นใหม่ทั่วโลก และสร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้เกษตรไทยบนเวทีสากล
ทั้งนี้ ในด้านการทำงาน แม้นายฉันทวิชญ์จะเป็นรัฐมนตรีที่อายุน้อย แต่เป็นผู้นำรุ่นใหม่ ที่สามารถทำงานร่วมกับข้าราชการทุกช่วงวัยได้เป็นอย่างดี สร้างความเชื่อมั่นให้กับองค์กร จากการนำความรู้และประสบการณ์ของข้าราชการในกระทรวงมาผนวกกับวิสัยทัศน์ของคนรุ่นใหม่ ควบคู่กับการขับเคลื่อนงานแบบเน้นผลลัพธ์มากกว่าพิธีการ ทำให้ได้รับการยอมรับและความร่วมมือจากข้าราชการเป็นอย่างดี
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
กดคลิก Follow ด้านล่าง