​“สุชาติ”หนุนผู้ประกอบการข้าวอินทรีย์ เตรียมใช้ประโยชน์ FTA ส่งสินค้าขายยุโรป

img

“สุชาติ”พบหารือผู้ประกอบการข้าวอินทรีย์ แนะใช้ประโยชน์จาก FTA ในการทำตลาด เผยล่าสุดสามารถส่งออกไป 4 ประเทศในยุโรป สวิตเซอร์แลนด์ นอร์เวย์ ไอซ์แลนด์ และลิกเตนสไตน์ ภายใต้ FTA ไทย-EFTA และกำลังเจรจากรอบ ไทย-EU ที่คาดว่าจะจบภายในปี 68 นี้ พร้อมรับช่วยหาตลาดให้กับผ้าทองพื้นเมือง
         
นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในช่วงการเข้าร่วมประชุม ครม. สัญจร ที่ จ.นครพนม ตนได้ลงพื้นที่พบหารือกับผู้ประกอบการ บริษัท ข้าวคุณแม่ ฟู้ดแอนด์เบเวอร์เรจ จำกัด อ.ธาตุพนม ซึ่งเป็นผู้ส่งออกข้าวอินทรีย์ไปตลาดฮ่องกงและสิงคโปร์ และนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมายกระดับการผลิตข้าวให้มีคุณภาพและมาตรฐาน ทำให้ผลผลิตที่ออกมามีตลาดรองรับและจำหน่ายได้ราคาสูง โดยผู้ประกอบการแจ้งว่า ต้องการขยายการส่งออกไปตลาดสหภาพยุโรป ซึ่งตนได้แจ้งว่า มีโอกาสในการทำตลาด เพราะไทยได้ลงนามความตกลงการค้าเสรี (FTA) ไทย - เอฟตา หรือสมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป (EFTA) ประกอบด้วย 4 ประเทศ คือ สวิตเซอร์แลนด์ นอร์เวย์ ไอซ์แลนด์ และลิกเตนสไตน์ไปแล้ว และอยู่ระหว่างกระบวนการภายในประเทศเพื่อให้ความตกลงมีผลบังคับใช้

สำหรับเอฟตาเป็นกลุ่มประเทศในยุโรปที่มีกำลังซื้อสูง โดยสินค้าส่งออกสำคัญของไทยที่จะได้ประโยชน์ อาทิ อัญมณีและเครื่องประดับ นาฬิกาและส่วนประกอบ เหล็กและผลิตภัณฑ์ อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป เครื่องใช้สำหรับเดินทาง เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ แผงควบคุมกระแสไฟฟ้า เครื่องสำอาง เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์พลาสติก รวมถึงสินค้าข้าว



นอกจากนี้ ไทยยังอยู่ระหว่างการเจรจา FTA ไทย-สหภาพยุโรป (EU) คาดว่าจะสามารถสรุปผลการเจรจาได้ภายในปี 2568 จึงถือเป็นโอกาสดีที่ผู้ประกอบการไทย จะสามารถเข้าถึงตลาดสหภาพยุโรป 27 ประเทศ ซึ่งจะช่วยสร้างแต้มต่อทางการค้า และเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยให้ไทยยืนหนึ่งในเวทีการค้าโลก และเป็นเครื่องมือในการแข่งขันทางการค้ากับประเทศอื่น ๆ ได้อย่างยั่งยืน

นายสุชาติกล่าวว่า ยังได้ประชุมกับผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชนทอผ้าพื้นเมืองบ้านหนองสังข์ แบรนด์ กะเลิงคราฟ อ.นาแก ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าผ้าทอและผลิตภัณฑ์ เช่น ผ้าคลุมไหล่ลายขิดย้อมไม้มงคล ผ้าซิ่นมัดหมี่ ซิ่นมัดหมี่ย้อมคราม ผ้าสไบลายขิด ผ้ามุกลายขิด ผ้าฝ้าย ผ้าพื้นหลากสี และผ้าฝ้ายย้อมคราม เป็นต้น โดยผ้าทอที่นี่มีความโดดเด่น มีลวดลายการทอโบราณที่สืบสานและถ่ายทอดภูมิปัญญาท้องถิ่นมากว่า 100 ปี เป็นผ้าลายขิดโบราณที่ย้อมด้วยสีธรรมชาติจากพืชสมุนไพรและไม้มงคล อาทิ ไม้ประดู่ ไม่สัก กันเกรา แก่นขนุน และดอกคำแสด ใช้วัตถุดิบและกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมตามโมเดลเศรษฐกิจ BCG ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดปัจจุบัน ซึ่งผู้ประกอบการต้องการตลาดจำหน่ายเพิ่มเติม ตนได้มอบหมายให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดและหน่วยงานในกระทรวงพาณิชย์ร่วมกันส่งเสริมผู้ประกอบการให้เข้าถึงตลาดออนไลน์และออฟไลน์ทั้งในและต่างประเทศ และควบคู่กับการประชาสัมพันธ์สินค้าของดีในพื้นที่ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง
         
“กระทรวงพาณิชย์มุ่งผลักดันนโยบาย Soft Power ของรัฐบาล ที่มีน.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี อย่างเต็มที่ โดยจะพัฒนาผู้ประกอบการสินค้าท้องถิ่น ทั้งเกษตรแปรรูปและสินค้าอัตลักษณ์ไทยให้เติบโต และช่วยหาตลาดรองรับ ซึ่งหนึ่งในตลาดที่จะช่วยผลักดัน คือ ตลาดคู่เจรจา FTA ที่ไทยทำกับประเทศคู่ค้าต่าง ๆ และยังจะช่วยเตรียมความพร้อมผู้ประกอบการไทยใช้ FTA ฉบับใหม่ ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เพื่อนำสินค้าแบรนด์ไทยเข้าสู่ตลาดใหม่ เช่น สหภาพยุโรป เกาหลีใต้ และแคนาดา เป็นต้น”นายสุชาติกล่าว

ติดตามข่าวสารแบบฉับไว
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
ติดตามข่าวสารผ่าน Twitter
กดคลิก Follow ด้านล่าง