
“พิชัย” เป็นสักขีพยานการลงนามระหว่างกรมทรัพย์สินทางปัญญากับบริษัท ฟลิปส์ อินโนเวทีฟ พัฒนาแพลตฟอร์ม Flips.IP ช่วยเจ้าของลิขสิทธิ์เพลง สามารถแปลงลิขสิทธิ์เพลงเป็นสินทรัพย์ดิจิทัล และสามารถนำไปใช้ในการระดมทุน มั่นใจช่วยให้ศิลปินมีเงินพัฒนาผลงาน ส่วนผู้ลงทุนได้ผลตอบแทน
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการพัฒนาแพลตฟอร์มเพื่อสนับสนุนการใช้ทรัพย์สินทางปัญญาเป็นเครื่องมือสำหรับการเข้าถึงแหล่งเงินทุน ระหว่างกรมทรัพย์สินทางปัญญา และบริษัท ฟลิปส์ อินโนเวทีฟ จำกัด ว่า ได้มีการจัดทำแพลตฟอร์ม Flips.IP ขึ้นมา ซึ่งจะเป็นนวัตกรรมทางการเงินที่ช่วยสร้างรายได้จากทรัพย์สินทางปัญญา โดยเปลี่ยนลิขสิทธิ์เพลงให้เป็นสินทรัพย์ที่จับต้องได้ จะช่วยให้ศิลปินไทยที่ต้องการเงินทุน สามารถใช้ผลงานสร้างสรรค์ของตนเองมาเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันสินเชื่อ ภายใต้ความร่วมมือจากธนาคารต่าง ๆ ของไทย จากปัจจุบัน ที่ผู้สร้างสรรค์ในอุตสาหกรรมเพลงของไทย มีปัญหาเข้าถึงแหล่งเงินทุน ทั้งเพื่อผลิตผลงานใหม่ จัดหาวัสดุอุปกรณ์ที่จำเป็นต่อการสร้างสรรค์ผลงาน หรือการโปรโมตผลงานเพลงให้เป็นที่รู้จัก
ทั้งนี้ แพลตฟอร์ม Flips.IP จะช่วยให้ศิลปินและค่ายเพลง สามารถนำผลงานลิขสิทธิ์มาแปลงเป็นสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset) หรือโทเคน โดยศิลปินสามารถออกโทเคนดิจิทัล ได้ 2 ประเภท คือ โทเคนที่ให้สิทธิ์ในการเข้าถึงบริการหรือสิทธิพิเศษ (Utility Token) เช่น การรับฟังเพลงก่อนเปิดตัว หรือการเข้าร่วมกิจกรรมพิเศษกับศิลปิน หรือโทเคนที่เปิดโอกาสให้ผู้ถือครองได้รับผลตอบแทนจากรายได้ของลิขสิทธิ์เพลง (Investment Token) ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานคณะกรรมการหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)
สำหรับอุตสาหกรรมเพลงไทย มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง สมาพันธ์ผู้ผลิตสิ่งบันทึกเสียงแห่งภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก (IFPI) ได้เผยแพร่รายงาน Global Music Report ปี 2567 ระบุว่า ปี 2566 ตลาดเพลงไทยมีมูลค่ารวมกว่า 3,600 ล้านบาท ใหญ่เป็นอันดับ 1 ของอาเซียน และเป็นอันดับที่ 26 ของโลก
นายดวงฤทธิ์ บุนนาค ที่ปรึกษาคณะอนุกรรมการพัฒนายุทธศาสตร์อุตสาหกรรมออกแบบ กล่าวว่า แพลตฟอร์ม Flips.IP จะเป็นตัวกลางในการลงทุนของเจ้าของลิขสิทธิ์เพลง เพื่อระดมทุนในการทำเพลง โดยจะเน้นศิลปินหน้าใหม่ ลักษณะเหมือนเป็นการระดมทุนของสตาร์ทอัป เพื่อหานักลงทุนที่สนใจ หรือชื่นชอบในผลงานของศิลปินนั้น ๆ ซึ่งก่อนการเปิดให้ลงทุน จะนำผลงานของเจ้าของลิขสิทธิ์เพลงมาประเมินมูลค่าทางการตลาด แล้วระดมทุน ส่วนการจะแปลงโทเคนดิจิทัลเป็นเงิน ก็จะมีธนาคารพาณิชย์เป็นตัวกลางอีกที โดยปัจจุบัน มูลค่าตลาดของเพลงอยู่ที่เกือบ 4,000 ล้านบาท และคาดว่า จะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หากมีการแปลงลิขสิทธิ์เพลงให้เป็นทุนได้มาก ๆ
น.ส.นุสรา กาญจนกูล อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กล่าวว่า ก่อนที่จะเปิดให้ลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล เจ้าของลิขสิทธิ์เพลง จะต้องมาจดแจ้งลิขสิทธิ์เพลงกับกรมทรัพย์สินทางปัญญาก่อน เพื่อให้มีข้อมูลว่าใครเป็นเจ้าของ เมื่อนำไปเปิดให้ลงทุนแล้ว ผู้ที่เป็นเจ้าของ จึงจะได้รับผลประโยชน์ อีกทั้งยังเป็นการปกป้องคุ้มครองสิทธิ์ ไม่ให้ผู้อื่นนำไปใช้หาประโยชน์ในเชิงไม่ชอบด้วย
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
กดคลิก Follow ด้านล่าง