
“พิชัย” สั่งหน่วยงานพาณิชย์ลุย 7 มาตรการเร่งด่วน ผลักดันราคาข้าวเปลือก หลังได้รับผลกระทบจากอินเดียกลับมาส่งออก อินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ลดการนำเข้า เริ่มจากประชุมอนุ นบข. 20 ก.พ. ออกมาตรการช่วยเหลือ เปิดตลาดนัดข้าวเปลือก 20 จังหวัด ขายข้าวแอฟริกาเป้า 3 แสนตัน ดันจีนซื้อจีทูจีที่เหลือ 2.8 แสนตัน ถก EXIM Bank ให้สินเชื่อเสริมสภาพคล่อง จัด TRC เพิ่มโอกาสขาย และลุยขยายตลาดส่งออกทั้งสหรัฐฯ ยุโรป ฟิลิปปินส์ มั่นใจดันราคาข้าวขึ้นแน่
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกระทรวงพาณิชย์ ทั้งกรมการค้าภายใน กรมการค้าต่างประเทศ และกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ดำเนินมาตรการเชิงรุกเพื่อแก้ไขปัญหาราคาข้าวเปลือกเจ้าตกต่ำ โดยมี 7 มาตรการ ที่จะดำเนินการทันที และดำเนินการต่อเนื่อง เพื่อช่วยยกระดับราคาข้าวให้กับเกษตรกร ที่ได้รับผลกระทบจากราคาข้าวเปลือกที่ลดลงจากการกลับมาส่งออกของอินเดีย หลังหยุดไป 2 ปี รวมถึงแนวโน้มการนำเข้าที่ลดลงจากอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์
สำหรับมาตรการแรก ได้สั่งการให้กรมการค้าภายในเร่งประชุมคณะอนุกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติด้านการตลาด ในวันที่ 20 ก.พ.2568 เพื่อพิจารณามาตรการช่วยเหลือเกษตรกร ก่อนเสนอให้คณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) พิจารณา
2.เปิดตลาดนัดข้าวเปลือกใน 20 จังหวัดลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อช่วยให้เกษตรกรขายข้าวได้ราคาสูงขึ้น คาดว่าราคาข้าวเปลือกจะเพิ่มขึ้น 100-200 บาทต่อตัน โดยเริ่มที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ระหว่างวันที่ 16-20 ก.พ.2568 ไปแล้ว และจะจัดอีก 14 ครั้ง จนถึงเดือน เม.ย.2568
3.ขยายตลาดส่งออก โดยได้เตรียมจัดคณะผู้แทนการค้าข้าว เดินทางไปแอฟริกาใต้ เพื่อลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ส่งออกข้าว 300,000 ตัน มูลค่ากว่า 5,250 ล้านบาท เพื่อเพิ่มอุปสงค์ในตลาดโลก
4.ผลักดันการซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (G2G) กับจีน อีก 280,000 ตัน เพื่อลดอุปทานข้าวส่วนเกินในประเทศ
5.สนับสนุนสินเชื่อพิเศษ โดยหารือกับ EXIM Bank เพื่อให้สินเชื่อแก่ผู้ประกอบการและผู้ส่งออกข้าว ช่วยให้สามารถรับซื้อและสต๊อกข้าวจากเกษตรกรได้มากขึ้น
6.จัดกิจกรรมส่งเสริมตลาดข้าวไทยในเวทีสากล ผ่านงานประชุม Thailand Rice Convention (TRC) โดยจะเชิญผู้ซื้อ ผู้นำเข้าข้าวจากทั่วโลก มาร่วมแลกเปลี่ยนข้อมูลและเจรจาธุรกิจ
7.ขยายตลาดส่งออกระยะยาว โดยมุ่งเปิดตลาดใหม่ในสหรัฐฯ ยุโรป และฟิลิปปินส์ และการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าระดับนานาชาติ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในคุณภาพข้าวไทย
“ราคาข้าวที่ลดลง เป็นผลจากปัจจัยภายนอก ทั้งการกลับมาส่งออกของอินเดีย และแนวโน้มการนำเข้าที่ลดลงจากอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์กำลังเร่งดำเนินมาตรการช่วยเหลือ โดยจะมีการประชุมอนุ นบข. ในวันที่ 20 ก.พ.2568 เพื่อพิจารณาแนวทางร่วมกับตัวแทนเกษตรกร สมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย และยังเร่งผลักดันการส่งออกข้าว ทั้งเจรจากับจีน เพื่อให้รับซื้อข้าวเพิ่มอีก 280,000 ตัน จะไปขายข้าวที่แอฟริกาใต้ เพื่อเปิดตลาดใหม่ โดยเชื่อว่า หากผลักดันมาตรการทั้งหมดนี้ได้สำเร็จ ราคาข้าวจะปรับตัวดีขึ้น”นายพิชัยกล่าว
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
กดคลิก Follow ด้านล่าง