“พิชัย”เคาะ 3 มาตรการ ช่วยข้าวนาปรัง เป้าชาวนาได้เงินตันละ 8,000-8,500 บาท

img

“พิชัย”ประชุมคณะอนุกรรมการ นบข. ด้านการตลาด เคาะ 3 มาตรการช่วยข้าวนาปรัง ให้สินเชื่อเก็บข้าวตันละ 1,500 บาท ชดเชยดอกเบี้ยโรงสี 6% แต่ต้องซื้อข้าวบวกเพิ่มตันละ 200 บาท และเปิดจุดรับซื้อ ช่วยค่าบริหารจัดการตันละ 500 บาท แต่ต้องซื้อข้าวบวกเพิ่มตันละ 300 บาท เป้าหมายดูดซับผลผลิตรวม 3.8 ล้านตัน เตรียมชง นบข.อนุมัติสัปดาห์หน้า พร้อมจับมือห้าง กระตุ้นการบริโภค ขอ EXIM Bank ช่วยปล่อยสินเชื่อให้ผู้ส่งออก “นภินทร” เผยมาตรการนี้ จะช่วยชาวนาได้เงินตันละ 8,000-8,500 บาท        
         
นายพิชัย นริพทะพันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะอนุกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติด้านการตลาด เพื่อพิจารณามาตรการแก้ไขปัญหาราคาข้าวเปลือกนาปรังตกต่ำ ว่า ที่ประชุมได้มีมตินำเสนอมาตรการรักษาเสถียรภาพราคาข้าวเปลือกนาปรัง  ปี 2568 ซึ่งเป็นมาตรการพิเศษ ที่ปกติจะใช้เฉพาะการดูแลข้าวเปลือกนาปี โดยจะนำมาใช้ดูแลข้าวเปลือกนาปรัง มีจำนวน 3 มาตรการ ซึ่งจะนำเสนอให้คณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) พิจารณาอนุมัติในสัปดาห์หน้า
         
สำหรับ 3 มาตรการ ได้แก่ 1.สินเชื่อชะลอนาปรัง ช่วยค่าฝากเก็บ 1,500 บาทต่อตัน หากเกษตรกรเก็บไว้ในยุ้งฉางของตัวเอง และได้ 1,000 บาทต่อตัน หากเก็บที่สหกรณ์ โดยสหกรณ์ได้ 500 บาทต่อตัน ต้องเก็บข้าวไว้ 1-5 เดือน เป้าหมาย 1.5 ล้านตัน 2.ชดเชยดอกเบี้ยให้กับผู้ประกอบการโรงสี 6% ต้องเก็บสต๊อกไว้ 2-6 เดือน และต้องซื้อข้าวสูงกว่าราคาตลาด 200 บาทต่อตันขึ้นไป เป้าหมาย 2 ล้านตัน และ 3.เปิดจุดรับซื้อข้าวเปลือก โดยรัฐสนับสนุนค่าบริหารจัดการ 500 บาทต่อตัน และผู้ประกอบการต้องรับซื้อข้าวสูงกว่าตลาด 300 บาทต่อตัน เป้าหมาย 3 แสนตัน ใช้งบประมาณรวม 1,893.53 ล้านบาท
         
นอกจากนี้ จะร่วมมือกับห้างค้าปลีก โมเดิร์นเทรด ห้างท้องถิ่น จัดจุดจำหน่ายราคาไม่เกิน 100 บาท เพื่อกระตุ้นการบริโภค เป้าหมาย 5 แสนตัน และมาตรการส่งเสริมการส่งออกข้าวไทย โดยขอความร่วมมือ EXIM Bank จัดสินเชื่อพิเศษให้ผู้ส่งออกข้าวในอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง เพื่อช่วยลดต้นทุน และเร่งผลักดันการส่งออก รวมทั้งจะเดินหน้าผลักดันการส่งออกข้าว ซึ่งได้หารือกับจีน เพื่อให้เร่งซื้อข้าวจีทูจีในส่วนที่เหลือ 2.8 แสนตัน และจะไปเจรจาขายข้าวให้แอฟริกาใต้ เป้าหมาย 3 แสนตันในเดือน มี.ค.นี้
         


นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า เกษตรกรต้องการขายข้าวเปลือกเจ้าให้ได้ราคาไม่ต่ำกว่า 8,000 บาทต่อตัน เป็นข้าวสด ซึ่งมาตรการที่ออกมา จะช่วยให้เกษตรกรขายข้าวได้ 8,000 บาท หากตอนนี้ ราคาข้าวเกี่ยวสดได้ 7,000 บาท หากได้เงินเพิ่มจากมาตการฝากเก็บ ก็จะได้ 1,000-1,500 บาทต่อตัน ก็จะได้เงิน 8,000-8,500 บาท ซึ่งเป็นไปตามที่ชาวนาต้องการ ส่วนการเปิดจุดรับซื้อ หากขายไม่ได้ 8,000 บาท เกษตรกรก็ไม่ต้องขาย
         
ส่วนข้อเสนอที่เกษตรกร ขอให้ชดเชยเรื่องต้นทุน เรื่องการไม่เผาฟางข้าว เป็นเรื่องคณะอนุกรรมการด้านการผลิต จะต้องพิจารณา ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นเจ้าภาพเรื่องนี้
         
นายปราโมทย์ เจริญศิลป์ นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย กล่าวว่า มีความพอใจมาตรการที่ออกมาระดับหนึ่ง เพราะหากรัฐบาลสามารถผลักดันราคาข้าวสดได้ถึงตันละ 8,500 บาทได้จริง ก็ถือเป็นราคาที่เกษตรกรพออยู่ได้ เนื่องจากปัจจุบันชาวนามีต้นทุน 5,500-6,000 บาทต่อตัน หากขายได้ตันละ 8,500 บาทก็พอใจ แต่ก็อยากให้รัฐบาลช่วยดูเรื่องปัจจัยการผลิตอื่นเพิ่มเติม ทั้งการจัดหาแหล่งน้ำ เมล็ดพันธุ์ข้าว รวมถึงช่วยค่ายาปราบศัตรูพืช ค่าปุ๋ย เพื่อช่วยลดต้นทุนชาวนา

ติดตามข่าวสารแบบฉับไว
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
ติดตามข่าวสารผ่าน Twitter
กดคลิก Follow ด้านล่าง