กรมการค้าภายในลงพื้นที่ตรวจสอบการซื้อขายข้าวเปลือกเจ้านาปรัง จ.ฉะเชิงเทรา ที่ข้าวเปลือกเริ่มออกสู่ตลาด หลังเกษตรกรร้องเรียนราคาตก เหตุอินเดียกลับมาส่งออกข้าวขาวอีกครั้ง เผยราคาลดลงจริง แต่ใกล้เคียงราคาปี 65 ก่อนที่อินเดียงดส่งออก ส่วนผลผลิตลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ที่จะออกมากช่วง มี.ค.-เม.ย. เตรียมจัดตลาดนัดข้าวเปลือก เพิ่มช่องทางจำหน่าย ดันราคาให้เกษตรกร พร้อมส่งสายตรวจออกตรวจสอบการซื้อขาย เครื่องชั่ง ป้องกันการเอาเปรียบ  
         
นายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยถึงกรณีเกษตรกรร้องเรียนปัญหาราคาข้าว มีการปรับตัวลดลง หลังอินเดียหันมาส่งออกข้าวขาวอีกครั้ง ว่า เรื่องนี้ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้มอบหมายให้กรมติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จึงได้มอบหมายให้นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน ลงพื้นที่ตรวจสอบการซื้อขาย ณ จังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นพื้นที่ ที่ข้าวเปลือกเจ้านาปรัง เริ่มออกสู่ตลาดแล้ว ในขณะที่ในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา จะเริ่มออกสู่ตลาดมากในเดือน มี.ค.-เม.ย.2568 เป็นต้นไป โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ คาดการณ์ว่าผลผลิตข้าวเปลือกเจ้านาปรัง 2568 จะมีประมาณ 6.53 ล้านตัน
         
ทั้งนี้ ได้รับรายงานผลการลงพื้นที่ว่า ได้มีการตรวจสอบโรงสี 2 แห่ง ได้แก่ โรงสี ช.สิริยี่สิบไพบูลย์ และโรงสีวัจณสุรัตน จังหวัดฉะเชิงเทรา พบว่า ข้าวเปลือกในพื้นที่ออกสู่ตลาดมาแล้วกว่า 70% เกษตรกรนำข้าวมาขายได้ 7,400-7,800 บาท/ตัน (ข้าวแห้ง 8,700-9,100 บาท/ตัน) ปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับราคาเฉลี่ยปี 2567 ที่ราคา 11,000 บาท/ตัน แต่ราคาขายข้าวที่เกษตรกรขายได้ในขณะนี้ ใกล้เคียงเมื่อเทียบกับปี 2565 ที่เฉลี่ย 8,200 บาท/ตัน ซึ่งเป็นราคาก่อนที่อินเดียงดส่งออก
         
“สถานการณ์ข้าวเปลือกเจ้านาปรัง กว่า 90% เป็นข้าวเปลือกเจ้า ที่ต้องพึ่งพาตลาดส่งออก ซึ่งขณะนี้ ได้รับผลกระทบจากประเทศคู่แข่ง เช่น อินเดีย หันกลับมาส่งออกข้าว เนื่องจากมีสต็อกข้าวเพียงพอสำหรับบริโภคภายในประเทศ จึงส่งผลให้ราคาข้าวขาว มีราคาตลาดปรับตัวลงมาใกล้เคียงกับราคาก่อนอินเดียมีนโยบายงดการส่งออก”นายวิทยากรกล่าว
         


นายวิทยากรกล่าวว่า สำหรับข้าวเปลือกเจ้า ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ที่จะออกสู่ตลาดมากช่วงเดือน มี.ค.-เม.ย.นั้น กรมจะติดตามสถานการณ์ราคาและการซื้อขายข้าวอย่างใกล้ชิด และได้เตรียมจัดกิจกรรมการจัดตลาดนัดข้าวเปลือก ปีการผลิต 2568 เพื่อเพิ่มช่องทางการจำหน่าย ให้เกิดการแข่งขัน ช่วยยกระดับราคาข้าวให้พี่น้องชาวนา และให้ได้รับความเป็นธรรมด้านราคาตามคุณภาพ
         
นอกจากนี้ ได้สั่งการให้สายตรวจเฉพาะกิจและสำนักงานชั่งตวงวัด ออกตรวจสอบการซื้อขาย การชั่งน้ำหนักให้ถูกต้องเที่ยงตรง เพื่อให้พี่น้องชาวนาขายข้าวได้ราคาตามคุณภาพ รวมทั้งเน้นย้ำเรื่องของการปิดป้ายแสดงราคารับซื้อ และตรวจสอบความถูกต้องของเครื่องชั่งน้ำหนักและเครื่องวัดความชื้น พร้อมขอความร่วมมือให้พี่น้องชาวนาดูแลคุณภาพข้าว เพื่อจะได้ราคาที่สูงขึ้น

อย่างไรก็ตาม หากเกษตรกรไม่ได้รับความเป็นธรรมในการซื้อขาย หรือพบเห็นว่าท่าข้าวหรือโรงสีใดมีพฤติกรรมใด ๆ ที่เป็นการเอารัดเอาเปรียบชาวนา สามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569  หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ หากตรวจพบผู้ประกอบการรายใดจงใจที่จะทำให้ปั่นป่วนซึ่งราคา จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ