“พาณิชย์” หารือสิงคโปร์ ผลักดันความร่วมมือการค้า การลงทุน รับมือความท้าทายเศรษฐกิจโลก สานต่อความร่วมมือด้านเกษตร อาหาร การท่องเที่ยวเรือสำราญ การคุ้มครองผู้บริโภคออนไลน์ การตรวจสอบสิทธิบัตร การส่งเสริมอุตสาหกรรมฮาลาล เศรษฐกิจดิจิทัล พร้อมชวนลงทุนภาคบริการและอุตสาหกรรมใหม่ใน EEC ก่อนชงการประชุมรัฐมนตรีการค้าในเดือน มี.ค.นี้ ฉลองความสัมพันธ์ครบ 60 ปี
น.ส.โชติมา เอี่ยมสวัสดิกุล อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงผลการประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสกรอบความร่วมมือเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างไทยและสิงคโปร์ (STEER) ครั้งที่ 7 ร่วมกับ Ms.Wong Yoke Hui อธิบดีกรมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนีย กระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมของสิงคโปร์ เมื่อวันที่ 16 ม.ค.2568 ที่ผ่านมา ณ ประเทศสิงคโปร์ ว่า ได้นำคณะผู้แทนภาครัฐของไทยเข้าร่วมประชุมกับฝ่ายสิงคโปร์ เพื่อหารือแนวทางการขยายมูลค่าการค้าและการลงทุนสองฝ่ายให้เพิ่มขึ้น โดยไทยและสิงคโปร์เห็นพ้องใช้เวทีทวิภาคีผลักดันความร่วมมือทางเศรษฐกิจให้ครอบคลุมมากขึ้น เพื่อรับมือความท้าทายจากสถานการณ์เศรษฐกิจโลก พร้อมสานต่อความร่วมมือด้านการค้า ขยายการลงทุน และเสริมความร่วมมือเศรษฐกิจใหม่ ๆ โดยจะเร่งดำเนินการผลักดันให้มีผลลัพธ์สำคัญ และเตรียมเสนอให้มีการประชุมรัฐมนตรีการค้าไทย-สิงคโปร์ ครั้งที่ 7 ในเดือน มี.ค.2568 เพื่อร่วมเฉลิมฉลองโอกาสครบรอบ 60 ปีของความสัมพันธ์ระหว่างไทยและสิงคโปร์ในปีนี้
สำหรับการประชุม STEER ครั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายมุ่งเสริมความร่วมมือที่สำคัญ อาทิ การเกษตรและอาหาร เพื่อขยายโอกาสการส่งออกสินค้าเกษตรของไทยและเสริมสร้างความมั่นคงทางอาหารของสิงคโปร์ การท่องเที่ยวเรือสำราญเพื่อเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานรองรับการท่องเที่ยวใหม่ ๆ พร้อมกับขยายจำนวนนักท่องเที่ยวเข้ามายังภูมิภาค การคุ้มครองผู้บริโภคเพื่อบรรเทาปัญหาจากการซื้อสินค้าและบริการออนไลน์ การเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจสอบสิทธิบัตรระหว่างกันเพื่อส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากทรัพย์สินทางปัญญา การส่งเสริมอุตสาหกรรมฮาลาลโดยสร้างโอกาสทางธุรกิจและขยายตลาดในภูมิภาค ตลอดจนผลักดันการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจดิจิทัล พัฒนาการค้าดิจิทัล สร้างความปลอดภัยและเชื่อมั่นรองรับเทรนด์ธุรกิจแห่งอนาคตร่วมกัน
ปัจจุบันสิงคโปร์เป็นนักลงทุนอันดับ 1 ของไทยในอาเซียนมาอย่างต่อเนื่อง จึงได้หารือถึงโอกาสในการลงทุนใหม่ ๆ ทั้งในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และการลงทุนในภาคบริการและอุตสาหกรรมใหม่ ๆ อาทิ บริการด้านการเงิน อุตสาหกรรมดิจิทัล พลังงานสีเขียว โครงสร้างพื้นฐานของพื้นที่เมืองใหม่น่าอยู่อัจฉริยะ ตลอดจนการขยายความร่วมมือใหม่ ๆ ด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และแรงงานสำหรับอนาคต เพื่อเสริมทักษะแรงงานในภาคอุตสาหกรรมที่ต้องการความเชี่ยวชาญเฉพาะ ซึ่งทั้งสองฝ่ายจะเร่งหารือการดำเนินการร่วมกัน ก่อนเสนอให้มีการประชุม STEER ครั้งที่ 7 ระหว่างรัฐมนตรีการค้าของไทย-สิงคโปร์ ในเดือนมี.ค.2568
ทางด้านการค้า สิงคโปร์เป็นคู่ค้าอันดับที่ 4 ของไทยในอาเซียน และอันดับที่ 10 ของไทยในโลก โดยในปี 2566 การค้าระหว่างไทย-สิงคโปร์ มีมูลค่า 18,368.02 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 0.59% เป็นการส่งออก มูลค่า 10,240.04 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 0.39% และเป็นการนำเข้า มูลค่า 8,127.97 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 0.85% และในช่วง 11 เดือนของปี 2567 (ม.ค.–พ.ย.) การค้าระหว่างไทย-สิงคโปร์ มีมูลค่า 16,111.39 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 5.27% สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ อัญมณีและเครื่องประดับ น้ำมันสำเร็จรูป แผงวงจรไฟฟ้า และเครื่องคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ สินค้านำเข้าสำคัญ ได้แก่ เคมีภัณฑ์ เครื่องคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ ทองคำ แผงวงจรไฟฟ้า และพืชและผลิตภัณฑ์จากพืช
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
กดคลิก Follow ด้านล่าง