“พาณิชย์”แนะผู้ประกอบการขอ Form D ลดภาษีสินค้าส่งออกกว่า 1 หมื่นรายการไปเวียดนาม

img

กรมการค้าต่างประเทศแนะผู้ผลิตขอหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า Form D เพื่อใช้สิทธิ์ยกเว้นหรือลดภาษีสินค้าส่งออกกว่า 1 หมื่นรายการไปเวียดนาม เหตุเป็นตลาดส่งออกอันดับ 4 ของไทยในตลาดโลก และเป็นอันดับ 1 ในอาเซียน เผยสินค้าไทยมีโอกาสมากมาย จับตา “เครื่องดื่ม” มาแรง เหตุเวียดนามเป็นตลาดใหญ่อันดับ 3 ของโลก และสินค้าไทยเสียภาษี 0% แต่คู่แข่งโดน 27-41.5%
         
นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ มีข้อแนะนำให้ผู้ผลิต ผู้ส่งออกไทย ให้ความสำคัญกับการขยายตลาดสินค้าเข้าสู่ตลาดเวียดนาม เพราะปัจจุบันเวียดนามได้ยกเว้นและลดหย่อนภาษีนำเข้าให้แก่สินค้าที่ส่งออกและมีถิ่นกำเนิดในไทยภายใต้เขตการค้าเสรีอาเซียน (AFTA) จำนวน 10,250 รายการ หรือคิดเป็น 99.55% ของรายการสินค้าทั้งหมด ซึ่งในการขอใช้สิทธิ์ยกเว้นภาษีหรือลดหย่อนภาษีศุลกากรนำเข้าเวียดนาม ผู้ประกอบการต้องมีหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า Form D ไปสำแดงต่อศุลกากรเวียดนาม โดยสามารถขอได้ที่กรมฯ ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์
         
“เวียดนามเป็นตลาดส่งออกที่สำคัญของไทย โดยไทยส่งออกไปเวียดนามมีมูลค่าแตะ 1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐตั้งแต่ปี 2560 พอมาปี 2561 มูลค่าขึ้นไปถึง 12,836 ล้านเหรียญสหรัฐ ถือเป็นตลาดส่งออกอันดับ 4 รองจากจีน สหรัฐฯ และญี่ปุ่น และเป็นตลาดอันดับ 1 ในอาเซียน จึงถือเป็นตลาดส่งออกที่สำคัญของไทย”
         
สำหรับสินค้าส่งออกไปตลาดเวียดนามที่สำคัญ ประกอบด้วยน้ำมันปิโตรเลียม เครื่องปรับอากาศ รถปิกอัพ ผลไม้สดและแห้ง อะไหล่และส่วนประกอบยานยนต์ โพลีเอทิลีน ตู้เย็น เครื่องซักผ้า กุ้งแช่แข็ง ยางรถยนต์ ซึ่งสินค้าดังกล่าวได้รับเสียสิทธิ์เสียภาษีนำเข้าในอัตรา 0% และสินค้าที่มีแนวโน้มขยายตัวได้ดี เช่น สำเร็จรูป เครื่องสำอาง เสื้อผ้าสำเร็จรูป เครื่องประดับแฟชั่น รวมถึงของใช้สำหรับเด็ก ซึ่งเสียภาษีในอัตรา 0% เช่นเดียวกัน
         
นอกจากนี้ ยังพบว่าตลาดเครื่องดื่มในเวียดนาม เป็นตลาดที่มีโอกาสสำหรับผู้ประกอบการไทย เพราะเวียดนามเป็นตลาดใหญ่อันดับ 3 ของโลก คาดการณ์ว่าภายในปี 2563 ปริมาณความต้องการเครื่องดื่มของตลาดเวียดนามจะแตะระดับ 100,000 ล้านลิตร ซึ่งอัตราภาษีปกติสำหรับสินค้าเครื่องดื่มอยู่ระหว่าง 27-41.5% ขณะที่อัตราภาษีที่สินค้าเครื่องดื่มจากไทยจะถูกจัดเก็บอยู่ที่ 0% หากมีหนังสือรับรองฯ Form D 
         
นายอดุลย์กล่าวว่า ปัจจุบันการขอหนังสือรับรองฯ Form D สามารถยื่นผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ แต่ผู้ประกอบการยังคงต้องเดินทางมารับหนังสือรับรองฯ จากกรมฯ กรณีส่งออกไปเวียดนาม เนื่องจากอุปสรรคทางเทคนิค ทำให้การแลกเปลี่ยนข้อมูลหนังสือรับรองฯ Form D ทางอิเล็กทรอนิกส์ (e Form D) ระหว่างกรมฯ และศุลกากรเวียดนามยังไม่สามารถดำเนินการได้ ซึ่งกรมฯ จะเร่งรัดความร่วมมือเพื่อแก้ไขปัญหาทางเทคนิคกับฝ่ายเวียดนาม เพื่อให้ขจัดปัญหาที่เกิดขึ้นในขั้นตอนการรับข้อมูลของฝ่ายเวียดนาม เพื่อให้สามารถนำระบบ e Form D มาใช้อย่างเต็มรูปแบบ
         
ส่วนประเทศในอาเซียนที่มีการใช้ e Form D แล้ว คือ ไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย และสิงคโปร์ และกำลังจะใช้วาระที่ไทยเป็นประธานอาเซียนผลักดันให้สมาชิกอาเซียนที่เหลือไม่ว่าจะเป็น บรูไน ฟิลิปปินส์ ลาว กัมพูชา และเมียนมา ใช้ระบบ e Form D ให้ครบทุกประเทศต่อไป

***ติดตามข่าวสารพาณิชย์แบบฉับไว ส่งตรงถึงมือถือได้ที่ http://line.me/ti/p/%40uld0329i
***ติดตามข่าวสารพาณิชย์ ผ่านทวิตเตอร์ https://twitter.com/CNAOnlineTwit  
 

ติดตามข่าวสารแบบฉับไว
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
ติดตามข่าวสารผ่าน Twitter
กดคลิก Follow ด้านล่าง