ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา “กระทรวงพาณิชย์” มีโครงการช่วย “ลดภาระค่าครองชีพ” ให้กับประชาชน ออกมา 2 โครงการติด ๆ กัน
         
โครงการแรก “พาณิชย์ลดราคา! ช่วยประชาชน Lot 17 Back to School” และโครงการที่ 2 “พาณิชย์ลดราคา! ช่วยประชาชน 4 มุมเมือง Lot 18”
         
โดยโครงการพาณิชย์ลดราคา! ช่วยประชาชน Lot 17 Back to School เป็นโครงการที่กระทรวงพาณิชย์ร่วมมือกับผู้ผลิต ห้างสรรพสินค้า ห้างค้าปลีกค้าส่ง และร้านค้า นำสินค้า 7 หมวดกว่า 5,000 รายการ มาลดราคาสูงสุด 65%
         
สินค้าที่ว่า เป็นสินค้า “จำเป็น” ต่อบุตร หลาน ที่กำลังจะไปโรงเรียน  
         
ประกอบด้วย 1.ชุดนักเรียน 3,345 รายการ ลดราคาสูงสุด 50% 2.รองเท้า ถุงเท้า 185 รายการ ลดสูงสุด 34% 3.กระเป๋านักเรียน 61 รายการ ลดสูงสุด 65% 4.ตำราเรียนและหนังสือเรียน 523 รายการ ลดสูงสุด 30% 5.เครื่องเขียน 59 รายการ ลดสูงสุด 50% 6.สื่อการเรียนการสอน 187 รายการ ลดสูงสุด 20% 7.อื่น ๆ เช่น กระติกน้ำ กล่องกล่อง ข้าวโต๊ะนักเรียน สมาร์ทวอทช์ 732 รายการ ลดสูงสุด 65%
         
มีทั้งสิ้น 7 ยี่ห้อให้เลือก ประกอบด้วย 1.ศึกษาภัณฑ์ 2.น้อมจิตต์ 3.สมใจนึก 4.ตราสมอ 5.บาจา 6.พีเอสจูเนียร์ และ 7.นันยาง
         
ส่วนสินค้าที่ “ไม่ได้ร่วมลดราคา” จะ “ตรึงราคาจำหน่ายเดิม” ต่อไป ไม่มีการปรับขึ้นราคา
         
ทั้งนี้ สามารถไปซื้อได้ในห้าง และร้านค้า 10 แห่ง ทุกสาขาทั่วประเทศ ได้แก่ 1.บิ๊กซี 2.แม็คโคร 3.โลตัส 4.The Mall 5.เซ็นทรัล 6.โรบินสัน 7.B2S 8.Office Mate 9.Power Buy และ 10.Supersports
         
จะลดราคาไปจนถึงสิ้นเดือนมิ.ย.2565
         
ส่วนโครงการพาณิชย์ลดราคา! ช่วยประชาชน 4 มุมเมือง Lot 18 กระทรวงพาณิชย์ได้ร่วมมือกับผู้ผลิตและผู้จำหน่าย นำสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพ 10 หมวดสำคัญ เกือบ 2,000 รายการ มาลดราคาสูงสุด 75%
         


จัด “ครั้งแรก” ไปแล้ว เมื่อวันที่ 13-15 พ.ค.2565 ที่ “ห้างเซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์”
         
ส่วนครั้งที่ 2 จะจัดที่ “ศูนย์เคหะชุมชนห้วยขวาง” วันที่ 27-29 พ.ค.2565 ครั้งที่ 3 จัดที่ “สนามฟุตบอลเคหะชุมชนร่มเกล้า” วันที่ 3-5 มิ.ย.2565 และครั้งที่ 3 จัดที่ “ศูนย์ลานกีฬาบางขุนเทียน เคหะชุมชนธนบุรี 3” วันที่ 10-12 มิ.ย.2565
         
สินค้าที่นำไปจำหน่ายมี 10 หมวด ได้แก่ 1.อาหารสำเร็จรูป ลดราคา 13-67% 2.ซอสปรุงรส เครื่องเทศ ลด 15-50% 3.สินค้าชำระร่างกาย ลด 16-69% 4.ซักล้าง ลด 24-55% 5.ของใช้ภายในบ้าน ลด 20-72% 6.เครื่องแต่งกาย เช่น เสื้อผ้า ชุดนักเรียน กระเป๋า รองเท้า ลด 22-75% 7.สินค้า OTOP ลด 14-41% 8.เครื่องใช้ไฟฟ้า 9.อาหารสด ประกอบด้วยหมูเนื้อแดง 160 บาท/กิโลกรัม (กก.) น่องไก่ติดสะโพก 65 บาท/กก. น้ำตาลทราย ถุงละ 1 กก. ราคา 18 บาท น้ำมันปาล์ม ขวดละ 59 บาท ไข่เบอร์ M ฟองละ 3.16 บาท ข้าวหอมมะลิ ถุงละ 5 กก. 120 บาท ข้าวขาว 5% ถุงละ 5 กก. ราคา 89 บาท และ 10.ผลไม้สด เพื่อสนองนโยบายโครงการ พาณิชย์ Fruit Festival 2022 นำผลไม้สดจากหลายแหล่งทั่วประเทศ เช่น ทุเรียนหมอนทองจันทบุรี กก.ละ 160 บาท มะม่วง R2E2 มะม่วงแดงจักรพรรดิ มะม่วงจินหงส์ กก.ละ 15 บาท เงาะโรงเรียน จากจังหวัดตราด กก.ละ 35 บาท สับปะรดภูแล กก.ละ 10 บาทเป็นต้น
         
ที่พิเศษ มีการนำ “คาร์ชีท” ราคาประหยัดไปจำหน่ายด้วย

ใครใกล้ที่ไหน ก็ไปหาซื้อได้ที่นั่น
         
นายจุรินทร์ บอกว่า การลดราคาชุดนักเรียน และอุปกรณ์การเรียน จะเป็นการช่วยแบ่งเบาภาระให้กับผู้ปกครอง ในยามที่ค่าครองชีพสูงขึ้น
         
แล้วปีนี้ เป็นปีที่เปิดเรียนออนไซต์ 100% หลังจากที่ติดสถานการณ์โควิด-19 มากว่า 2 ปี
         
ช่วยลดค่าครองชีพได้ ก็ต้องช่วยกัน
         
ส่วนสินค้าอื่น ๆ ได้จัดโครงการพาณิชย์ลดราคา! ช่วยประชาชน 4 มุมเมือง เป็นโครงการที่นำมาเสริมโครงการ “Mobile พาณิชย์...ลดราคา! ช่วยประชาชน” ที่ทำอยู่แล้วกว่า 100 จุด ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ทั้ง “จุดถาวร” และ “รถโมบายเคลื่อนที่”
         


สำหรับในต่างจังหวัด นายจุรินทร์ ได้มอบหมายให้ “พาณิชย์จังหวัด” เป็นผู้พิจารณาว่า จะจัดที่ไหน เมื่อไร ตามความเหมาะสม โดยเน้นพื้นที่ชุมชนเมือง และพื้นที่ ๆ มีประชากรอยู่หนาแน่น  
         
ก็อย่างที่รู้ ๆ กัน ปัจจุบัน ประเทศอยู่ในภาวะ “วิกฤตซ้อนวิกฤต”
         
วิกฤตจาก “โควิด-19” ที่ยัง “ไม่คลี่คลาย” ก็มีวิกฤต “สงครามรัสเซีย-ยูเครน” เข้ามาซ้อน ทำให้ราคา “น้ำมัน” พุ่งสูงขึ้น “วัตถุดิบสำคัญ” พุ่งสูงขึ้น
         
จนวันนี้ หลาย ๆ ประเทศ ประสบภาวะ “เงินเฟ้อ” ทำสถิติ “สูงสุด” เป็นประวัติการณ์
         
ไม่เว้นแม้กระทั่ง “ไทย” ที่เงินเฟ้อทำสถิติสูงสุดในรอบ 13 ปี
         
แต่ “กระทรวงพาณิชย์” ก็ไม่ได้ “หยุดนิ่ง” ที่จะหาทางลดค่าครองชีพ ซึ่ง “เห็นได้” จากโครงการและมาตรการที่ทำมาต่อเนื่อง และยังยืนยันที่จะ “ทำต่อ”
         
ไม่ว่าจะเป็นโครงการพาณิชย์ลดราคา! ช่วยประชาชน ที่จะมี Lot ต่อ ๆ ไปอีก รวมถึงการ “กำกับ” ดูแลสถานการณ์สินค้า ที่ตอนนี้ทุกคน “กังวล” ถึงการ “ดาหน้า” ปรับขึ้นราคา
         
เรื่องนี้ นายจุรินทร์ พูดไว้ชัดเจนว่า จะพยายาม “ตรึง” ให้ได้นานที่สุด ถ้ายังตรึงราคาได้ หรือถ้าจำเป็น “ต้องขึ้น” ก็จะให้ขึ้นตาม “ต้นทุนจริง” ที่ปรากฏ ไม่ให้ “ค้ากำไรเกินควร”  
         
ทั้งหมดนี้ จะดำเนินการภายใต้ “วิน-วิน โมเดล” ที่ 3 ฝ่าย จะ “อยู่รอด” ได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น “เกษตรกร-ผู้ประกอบการ-ผู้บริโภค”
         
ที่อธิบายมายืดยาว ก็อยากให้เห็นว่า “กระทรวงพาณิชย์” มีความ “ตั้งใจ” และ “พยายาม” ที่จะช่วยลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชนจริง ๆ

ไม่ได้ออกมา “แก้ต่าง” หรือ “แก้ตัว” แทน
         
แค่เอา “ความจริง” และ “สิ่งที่กำลังเกิดขึ้น” มาเล่าให้ฟัง
 
ซีเอ็นเอ