ยุคนี้ เป็นยุคหนึ่งที่ “กระทรวงพาณิชย์” ให้ความสำคัญกับ “คนตัวเล็ก” มากเป็นพิเศษ
         
เพราะเศรษฐกิจจะเติบโตได้อย่างมั่นคง ก็ต้องพึ่ง “ฐานราก” ที่เข้มแข็ง
         
อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในนโยบายที่ “นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์” ให้ความสำคัญ

โดยคนตัวเล็กในที่นี้ หมายถึง “เกษตรกร ผู้ผลิตสินค้าชุมชน ผู้ประกอบการรายย่อย ผู้ประกอบการรายจิ๋ว และ Gen Z หรือคนรุ่นใหม่”
         
ปัจจุบันการขับเคลื่อนนโยบายช่วยคนตัวเล็ก หลายกรมในกระทรวงพาณิชย์ ต่างเร่งลงมือทำกันอย่างขะมักเขม้น
         
วันนี้ มีความคืบหน้ามากพอสมควร
         
ที่เห็นเป็นรูปธรรมชัดเจน มีผลงานจับต้องได้ ก็ “กรมพัฒนาธุรกิจการค้า” ที่ได้เร่งช่วยเหลือคนตัวเล็ก ให้มีโอกาสทำธุรกิจ มีโอกาสเพิ่มรายได้
         
มีโครงการสำคัญ ๆ ที่ดำเนินการแล้ว หลายโครงการ
         
ยกตัวอย่างเช่น โครงการอบรม “เทคนิคการตลาดออนไลน์” ที่ได้ดำเนินการจัดอบรม เกษตรกร ผู้ประกอบการชุมชน รายย่อย และประชาชนทั่วไป ที่ “มีความสนใจอยากทำการค้าออนไลน์”

ฝึกอบรมไปแล้วกว่า 2,000 ราย
         
สอนตั้งแต่ช่องทางออนไลน์มีอะไรบ้าง ควรจะใช้ช่องทางไหน ใช้เฟซบุ๊ก หรือไลน์ หรือเว็บไซต์ หรืออาศัยแพลตฟอร์มออนไลน์ที่มีอยู่ รวมทั้งควรจะใช้เทคนิคการตลาดยังไง เพื่อจับกลุ่มลูกค้าให้อยู่หมัด
         
ไม่เพียงแค่นั้น ยังได้สอน “ผู้ประกอบการรุ่นใหม่” ที่สนใจค้าขายออนไลน์ ไม่จำกัดว่าจะเป็นใคร แค่มีใจรักทำการค้าออนไลน์ ให้เป็น “เทรดเดอร์ออนไลน์”
         


เทรดเดอร์ออนไลน์เหล่านี้ จะเข้ามาทำหน้าที่ช่วยนำ “สินค้าเกษตร สินค้าชุมชน” ไปขายออนไลน์ โดยที่เกษตรกร ผู้ผลิตสินค้าชุมชน ทำหน้าที่แค่ผลิต
         
ปัจจุบัน มีเกษตรกร ผู้ผลิตสินค้าชุมชน มีสินค้าเข้าไปจำหน่ายบนแพลตฟอร์มออนไลน์แล้ว 406 ราย
         
จากนั้น ยังได้ร่วมมือกับกรมส่งเสริมสหกรณ์ ผลักดัน “สหกรณ์” ขายออนไลน์ ทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ ผ่านแพลตฟอร์มกลางที่มีอยู่  
         
ในประเทศ ร่วมมือกับแพลตฟอร์ม Phenixbox.com ทำข้อมูลสินค้าเกษตร จำนวน 28 สหกรณ์ มีสินค้า 37 รายการ เช่น ข้าวสาร นมโค ผลไม้ และสินค้าอุปโภคบริโภคอื่นๆ
         
เปิดหน้าเฉพาะให้กับสินค้าจากสหกรณ์ เพื่อให้คนเข้ามาเลือกซื้อ
         
แล้วยังมีแผนจะจัดเจรจาจับคู่ธุรกิจออนไลน์ กับบริษัทในเครือ TCC Group ซึ่งประกอบธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร รวมถึงเครือข่ายพันธมิตรต่างๆ ของบริษัทแอสเสท เวิร์ด คอร์ป จำกัด (มหาชน) ในเดือน ส.ค.2564
         
ในต่างประเทศ ได้คัดสหกรณ์ที่มีกำลังการผลิตเพียงพอเพื่อส่งออก นำร่อง 9 สหกรณ์ มีสินค้า 45 รายการ เช่น ข้าว นม และโคเนื้อ เป็นต้น

เปิดหน้าเฉพาะให้นำสินค้าขึ้นไปจำหน่ายผ่านแพลตฟอร์ม Thaitrade.com เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ซื้อ ผู้นำเข้าจากต่างประเทศเข้ามาชมและเลือกซื้อสินค้า และยังจะช่วยจัดการเจรจาธุรกิจออนไลน์ให้ด้วย

นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะทำการคัดเลือกสินค้าชุมชน ของดีของเด่นประจำจังหวัด จากผู้ประกอบการฐานรากที่มีศักยภาพจาก 18 กลุ่มจังหวัด ครอบคลุมทั้ง 77 จังหวัด

เมื่อคัดมาได้แล้ว ก็จะนำเข้าสู่กระบวนการให้ความรู้ และผลักดันสินค้าเข้าสู่แพลตฟอร์มออนไลน์

เป้าหมายส่วนนี้ 1,260 ราย เริ่มดำเนินการตั้งแต่บัดนี้ ถึงธ.ค.2564
         


ส่วนกรมอื่น ๆ ที่มีผลงานเด่นชัด ก็คือ “กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ” ได้ทำการฝึกอบรมกลุ่ม Gen Z ที่เป็นนิสิต นักศึกษา ประชาชนทั่วไป เพื่อผลักดันให้เป็นผู้ประกอบการรุ่นใหม่
         
โครงการนี้ เดิมตั้งเป้าไว้ที่ 12,000 คนทั่วประเทศ แต่ขณะนี้ มียอดสมัครเรียนในโครงการ “From Gen Z to be CEO” แล้วเกือบ 15,000 ราย
         
อบรมไปแล้วเกือบ 4,000 ราย ที่เหลืออีกหมื่นกว่าคน ตั้งเป้าอบรมจบภายในปีนี้
         
โดยตั้งความหวังเอาไว้ว่า เด็กรุ่นใหม่เหล่านี้ เมื่อผ่านการอบรม ก็จะก้าวไปเป็น “ซีอีโอ” ทำธุรกิจ ทำการค้า ทำการส่งออกได้ในอนาคต
         
วันนี้ นอกจากกระทรวงพาณิชย์จะปลุกปั้น “คนตัวเล็ก” ให้เป็นผู้ประกอบการ ยังมีนโยบายที่จะช่วยคนตัวเล็ก แบบจัดเต็มให้ด้วย
         
ไม่ใช่แค่ฝึกอบรมแล้ว ก็จบไป แต่ยังพร้อมช่วยต่อเนื่อง ช่วยทั้งหาตลาดในประเทศ และต่างประเทศ  

แถมให้สิทธิพิเศษ ที่ไม่เคยมีใครให้มาก่อน

ยกตัวอย่างเช่น เปิดโอกาสให้คนตัวเล็ก มีโอกาสเข้าร่วมงานแสดงสินค้าทั้งในและต่างประเทศ เพื่อให้มีพื้นที่ได้นำสินค้ามาจัดแสดง

จะกันที่ไว้ให้สูงสุด 15% ของพื้นที่รวม

แล้วยังจะพาออกไปเปิดตลาดต่างประเทศ เช่น CLMV และตลาดอื่น ๆ ด้วย

นี่ เป็นเพียงแค่น้ำจิ้ม เพราะหน่วยงานในกระทรวงพาณิชย์ ยังมีแผนช่วยพัฒนา ช่วยสร้างโอกาส ช่วยคนตัวเล็กทำมาค้าขายอีกนับไม่ถ้วน

เห็นว่า จะทยอยออกมาเรื่อย ๆ

รอติดตามได้เลย
 
ซีเอ็นเอ