​ใกล้รู้ตัว“ไอ้โม่ง” ชักใยทุจริตถุงมือยาง

img

ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์ถูกอภิปรายอยู่เรื่องเดียว คือ การทุจริตจัดซื้อถุงมือยาง มูลค่า 112,500 ล้านบาท
         
ผิดวิสัยที่เคยเป็นมา เพราะปกติกระทรวงพาณิชย์จะเป็นตำบลกระสุนตก มีเรื่องให้อภิปรายมากมาย โดยเฉพาะปัญหาราคาสินค้าแพง สินค้าเกษตรตกต่ำ ที่ต่างไม่เคยพลาด
         
แต่รอบนี้ ไม่มี นั่นแสดงว่า การบริหารจัดการ “เอาอยู่
         
เพื่อให้เห็นภาพ ตลอดปี 2563 ต่อเนื่องต้นปี 2564 “นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์” ลุยขับเคลื่อนลดราคาสินค้าแบบจริงๆ จังๆ  
         
ลดมาทั้งหมด 9 ล็อต ลดกันสูงสุด 70% 80% กันเลยทีเดียว มีสินค้าเริ่มจากหลัก 10 ไปจนถึงหลายหมื่นรายการ จนมาทะลุ 1 ล้านรายการ เมื่อล็อตที่ 9 ที่ร่วมมือกับแพลตฟอร์มออนไลน์
         
ทำให้ “ไม่มีปัญหาสินค้าแพง” มาต่อเนื่อง  
         
ส่วนสินค้าเกษตร มีโครงการประกันรายได้พืชเกษตร 5 ชนิด คือ ข้าว ปาล์มน้ำมัน มันสำปะหลัง ยางพารา และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ที่เป็นโครงการหลักดูแลราคาอยู่
         
ขณะที่สินค้าเกษตรอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นผัก ผลไม้ หรือพืชเกษตรอื่นๆ ก็มีมาตรการดูแลราคาล่วงหน้า หาตลาดให้ล่วงหน้า ปัญหาราคาตกต่ำก็ไม่เกิด
         
กลับมาเรื่อง “ทุจริตถุงมือยาง” แม้อภิปรายจบ แต่นายจุรินทร์ไม่จบ
         


นายจุรินทร์ ได้กำชับ สั่งการให้ “นายเกรียงศักดิ์ ประทีปวิศรุต ผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า (อคส.)” ติดตามการหาตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษโดยเร็ว และตามเงินที่ อคส. ได้จ่ายเป็นค่ามัดจำซื้อถุงมือยาง 2,000 ล้านคืนมาโดยเร็วที่สุด
         
ปัจจุบัน มีการตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงทางวินัยได้ดำเนินการแล้ว กำลังจะมีการชี้เป้าว่า “ผู้ใดมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด
         
เมื่อชี้เป้าแล้ว ขั้นตอนหลังจากนั้น จะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาอีก 2 ชัด ชุดแรก เพื่อชี้โทษว่าคนทำผิดจะโดนอะไร แค่ไหน อีกชุด จะเป็นการชี้ความรับผิดชอบที่จะต้องชดใช้ค่าเสียหายให้กับ อคส.
         
ไม่เพียงแค่นั้น นายจุรินทร์ยังได้สั่งการให้ ผอ.อคส. ให้ความร่วมมือกับ ป.ป.ช. อย่างเต็มที่ อยากได้ข้อมูลอะไร ส่วนไหน ให้รีบจัดส่งให้ เพื่อให้การเร่งรัดเอาตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษ และเอาเงินคืนมาได้เร็วที่สุด
         
ด้านนายเกรียงศักดิ์ ระบุถึงความคืบหน้าในเรื่องนี้ว่า คณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง กำลังจะสรุปผลการตรวจสอบ น่าจะมีความคืบหน้าในเร็วๆ นี้
         
จะได้รู้กันเสียที “ใครเกี่ยวข้อง ใครอยู่เบื้องหลัง
         
ก่อนที่จะมีข้อสรุป ไปดูกันว่า ใครเป็นตัวละครในเกมนี้ และถูกนำมาอภิปรายไม่ไว้วางใจกันบ้าง
         
คนแรก นายจุรินทร์ ถูกระบุว่าเป็นผู้กำกับดูแล ซึ่งการกำกับดูแลในทีนี้ คือ กำกับดูแล อคส. ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงพาณิชย์ แต่นายจุรินทร์ ก็แสดงความชัดเจนในทันทีว่า ตั้งแต่ทราบเรื่อง ก็ทำการ “ย้าย-สอบ-ระงับ-แจ้งจัดการ
         


ย้าย คือ ย้าย พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ พุทธิยาวัฒน์ อดีตรักษาการ ผอ.อคส. ทันที
         
สอบ คือ ตั้งกรรมการสอบทันที
         
ระงับ คือ ระงับสัญญาการซื้อขายทันที
         
แจ้งจัดการ คือ แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งป.ป.ช. ปปง. ดีเอสไอ จัดการทันที
         
เกิดความชัดเจน ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง
         
คนต่อมา นายสุชาติ เตชจักรเสมา ประธานบอร์ด อคส. ถูกระบุว่า มีส่วนเกี่ยวข้องในฐานะกำกับดูแลการบริหารงานของ อคส.
         
มีนายศรายุทธ สายคำมี คนใกล้ชิดที่เข้ามาเกี่ยวข้อง
         
มีพ.ต.อ.รุ่งโรจน์ และนายเกียรติขจร แซ่ไต๋ ผอ.ฝ่ายขาย ของอคส. เข้ามาเกี่ยวข้อง
         
ทั้งหมดนี้ ถูกระบุว่า เกี่ยวข้องกับการทำสัญญาซื้อขายถุงมือยาง 500 ล้านกล่อง มูลค่า 112,500 ล้านบาท มีบริษัท การ์เดียนโกลฟส์ จำกัด เป็นผู้ขาย (ซึ่งบริษัทนี้ รับเงินค่ามัดจำไปแล้ว 2,000 ล้านบาท) มี 7 บริษัท เป็นผู้ซื้อ
         
ที่ผ่านมา มีการออกมาพูดของผู้ที่เกี่ยวข้องบ้างแล้ว โดยนายสุชาติ ยืนยันว่า การจัดซื้อถุงมือยาง ไม่ได้เป็นนโยบายของตนเอง เป็นเรื่องของฝ่ายปฏิบัติ
         
ส่วน พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ ระบุว่า ทำตามนโยบาย
         
ก็ไม่รู้ ใครจริง ใครเท็จ
         
แต่ในที่สุด “ใครอยู่ในขบวนการ” และ “จะสาวถึงใครบ้าง” จะได้รู้กัน เมื่อผลสอบออก
         
อีกไม่นาน ใคร คือ “ไอ้โม่ง” ที่คอยชักใยอยู่เบื้องหลัง ก็จะเฉลยออกมา  
         
อดใจรออีกนิด
 
ซีเอ็นเอ

ติดตามข่าวสารแบบฉับไว
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
ติดตามข่าวสารผ่าน Twitter
กดคลิก Follow ด้านล่าง

ข่าวล่าสุด

ดูทั้งหมด