ผ่านมาแล้วกว่า 1 ปี ที่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้มอบนโยบายให้ “ทูตพาณิชย์” ทำตัวเป็น “เซลส์แมนประเทศ” และ “พาณิชย์จังหวัด” เป็น “เซลส์แมนจังหวัด”
         
ผลงานของเซลส์แมนประเทศ และเซลส์แมนจังหวัด หลายประเทศ หลายจังหวัดจับต้องได้ แต่หลายประเทศ หลายจังหวัด ยังจับต้องไม่ได้

หากจะพูดให้หนัก พูดให้แรง ก็คือ หลายประเทศ หลายจังหวัด ยังไม่มีผลงานเป็นชิ้นเป็นอัน
         
ปัจจุบัน มีทูตพาณิชย์ประจำอยู่ในประเทศต่างๆ ทั่วโลกถึง 58 แห่ง มีพาณิชย์จังหวัดอยู่ 76 จังหวัดทั่วประเทศ
         
นายจุรินทร์เคยให้นโยบายทูตพาณิชย์ว่า ต้องทำหน้าที่เป็นเซลส์แมนจริงๆ ไม่ใช่ทำแต่ในนาม ต้องวิ่งเข้าหาลูกค้า ต้องไปขายของ
         
การวัดผล ต้องดูที่ตัวเลขการส่งออกไปยังประเทศที่ตัวเองอยู่ เพิ่มขึ้นหรือไม่ ขายสินค้าอะไรได้บ้าง ช่วยแก้ไขปัญหาอุปสรรคการส่งออกอะไร แล้วมีการพาผู้ประกอบการหรือแนะนำการเจาะตลาดได้มากน้อยแค่ไหน
         
ผลงานเหล่านี้ จะต้องถูกนำมาใช้เป็นตัวชี้วัด ไม่ใช่ทำแค่รายงานข้อมูลการค้า รายงานสถานการณ์การค้า เท่านี้ไม่เพียงพอแล้วในยุคปัจจุบัน
         
ยิ่งในช่วงสถานการณ์โควิด-19 เป็นสถานการณ์ที่ไม่ปกติ ก็ยิ่งต้องทำงานหนัก เพราะทุกสถานการณ์วิกฤต มักจะมีโอกาสซ่อนอยู่



สินค้าไทยหลายๆ ตัว มีโอกาสที่จะส่งออกได้เพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเกษตร อาหาร สินค้าสนับสนุนการทำงานที่บ้าน และสินค้าป้องกันสุขภาพ

หากวางแผนให้ดี ก็มีโอกาสส่งออกได้เพิ่มขึ้น

หรือสินค้าอื่นๆ ก็มีโอกาสส่งออกเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน หากผลักดันได้ถูกทิศถูกทาง

ส่วนพาณิชย์จังหวัด ที่เป็นเซลส์แมนในระดับจังหวัด ก็ต้องทำหน้าที่เหมือนพ่อค้า คอยไปติดต่อค้าขาย ประสานงานให้เกิดการค้าขาย เชื่อมโยงการค้า

ทั้งนี้ จากการติดตามผลการทำงานที่ผ่านมา พบว่า ทูตพาณิชย์หลายประเทศมีการทำงานคืบหน้า มีการจัดกิจกรรมเจรจาธุรกิจออนไลน์ จัดงานแสดงสินค้าออนไลน์ จัดกิจกรรมทั้งออฟไลน์ ออนไลน์ ช่วยแก้ไขปัญหาอุปสรรคทางการค้า ช่วยหาช่องทางการค้าใหม่ๆ ผ่านการเจรจาจับคู่เป็นรายรัฐ รายมณฑล

แต่ก็ยังมีอีกหลายประเทศ ที่ไม่มีความเคลื่อนไหว

ขณะที่พาณิชย์จังหวัด ก็พบว่า หลายจังหวัดทำได้ดี มีการประสานงาน เชื่อมโยงการค้าขาย แต่ยังมีอีกหลายจังหวัด ที่การทำงานไม่มีความคืบหน้า
         
“เบื้องต้นจะสั่งการให้นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ รับไปดำเนินการต่อ และให้นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ไปกำชับการทำงานของทูตพาณิชย์ให้เป็นไปตามนโยบาย”นายจุรินทร์กล่าว
         


ทั้งนี้ นายจุรินทร์ ให้เป็นนโยบายว่า หากทูตพาณิชย์ทำไม่ได้ หรือไม่ทำ ก็ต้องเอาตัวกลับ ไม่ต้องรอให้อยู่ครบเทอม ถึงจะเอากลับ เพราะทำแบบนี้ ประเทศเสียหาย เสียประโยชน์ หรือหากอธิบดีไม่กำกับดูแล ก็จะพิจารณาการทำงานของอธิบดีด้วย

ในส่วนของพาณิชย์จังหวัดก็เช่นเดียวกัน ต้องมีตัวชี้วัด เพื่อวัดผลงาน ไม่เช่นนั้น จังหวัดที่ทำก็ทำ จังหวัดที่ไม่ทำ ก็ยังไม่ทำ และถ้าใครไม่ทำ ก็ต้องปรับเปลี่ยน 
         
นายจุรินทร์ ย้ำว่า ไม่ใช่คำขู่ แต่เป็นนโยบายการทำงาน เพราะรัฐบาลมีเวลาจำกัด ยิ่งเศรษฐกิจของประเทศประเทศอยู่ในสถานการณ์ที่เปราะบาง อะไรที่ช่วยกันขับเคลื่อนได้ และมีส่วนช่วยสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจได้ ก็ต้องร่วมมือกันทำ
         
ถึงเวลา อัปเกรดการทำงานของ “เซลส์แมนประเทศ” แล้ว
 
ซีเอ็นเอ