ขณะนี้ “โครงการประกันรายได้” พืชเกษตร 5 ชนิด ได้แก่ ข้าว ปาล์มน้ำมัน ยางพารา มันสำปะหลัง และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์” บางโครงการได้สิ้นสุดโครงการไปแล้ว และบางโครงการกำลังอยู่ระหว่างดำเนินการ แต่ส่วนใหญ่ใกล้จะจบโครงการแล้ว
         
แต่เพื่อไม่ให้ขาดช่วง “นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์” ได้เตรียมความพร้อมเดินหน้าโครงการประกันรายได้ปี 2 ต่อทันที
         
ด้วยการสั่งเตรียมความพร้อม จัดทำรายละเอียดโครงการ เสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องเป็นการล่วงหน้า
         
ล่าสุด คณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ ได้มีมติเมื่อวันที่ 1 มิ.ย.2563 เห็นชอบให้เดินหน้าโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยางระยะที่ 2 ต่อ เพื่อดูแลเกษตรกรชาวสวนยางพารา
         
ถัดมา คณะกรรมการนโยบายและบริการข้าวแห่งชาติ (นบข.) เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.2563 ได้มีมติอนุมัติในหลักการโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวปี 2563/64 แล้ว จะเริ่มโครงการวันที่ 1 ก.ย.2563-31 พ.ค.2564 โดยใช้แนวทางดำเนินการเหมือนปีที่ผ่านมา แต่ให้ดูราคาและปริมาณที่จะประกันรายได้ให้เหมาะสม เพื่อดูแลเกษตรกรผู้ปลูกข้าวให้สอดคล้องกับต้นทุน
         
ขณะนี้ กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาราคาและปริมาณ หากได้ตัวเลข ก็จะเสนอ คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอนุมัติต่อไป
         


ส่วนโครงการประกันรายได้มันสำปะหลังปี 2563/64 คณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการมันสําปะหลัง (นบมส.) ได้เห็นชอบเมื่อวันที่ 8 ก.ค.2563 โดยใช้ราคาและปริมาณประกันรายได้เท่ากับปีที่ผ่านมา คือ มันสำปะหลังเชื้อแป้ง 25% กิโลกรัม (กก.) ละ 2.50 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 100 ตัน
         
และคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ (นบขพ.) ได้เห็นชอบโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปี 2563/64 ที่ความชื้น 14.5% ราคา 8.50 บาท/กก. ปริมาณไม่เกินครัวเรือนละ 30 ไร่ และไม่ซ้ำแปลง
         
ทำให้จนถึงขณะนี้ โครงการประกันรายได้พืชเกษตร 5 ชนิด ผ่านการอนุมัติจากคณะกรรมการที่กำกับดูแลแล้ว 4 ชนิด คือ ข้าว ยางพารา มันสำปะหลังและข้าวโพดเลี้ยงเหลือ เหลือปาล์มน้ำมัน ที่จะตามมาในเร็วๆ นี้
         
ขั้นตอนต่อไป จะเป็นการเสนอเรื่องให้ ครม. พิจารณาอนุมัติการดำเนินโครงการ ซึ่งในวันที่ 14 ก.ค.2563 กระทรวงพาณิชย์จะเสนอโครงการประกันรายได้มันสำปะหลังและข้าวโพดให้ ครม. พิจารณา
         
ถือเป็นข่าวดีสำหรับเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังที่มีเกษตรกรอยู่ราว 5.2 แสนราย และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์อีก 4.5 แสนราย ที่จะได้ประโยชน์จากโครงการ
         
แต่เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ที่มีอยู่ 4.31 ล้านราย ปาล์มน้ำมัน 3 แสนราย และยางพารา 1.71 ล้านราย ไม่ต้องกังวล เพราะกำลังเตรียมนำเรื่องเสนอ ครม. เช่นเดียวกัน
         


นายจุรินทร์ ย้ำว่า โครงการประกันรายได้ เดินหน้ามาครบ 1 ปีแล้ว และกำลังจะนำเสนอโครงการปี 2 เข้าสู่การพิจารณาของ ครม. เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร 7.2 ล้านครัวเรือน ส่วนเกษตรกรที่เพาะปลูกพืชเกษตรชนิดอื่นๆ กระทรวงพาณิชย์ก็มีมาตรการดูแลที่เหมาะสม ไม่ต้องกังวล เพราะปัจจุบันได้เดินหน้าโครงการ “เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด” ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการ และมีการขับเคลื่อนอย่างเต็มที่  
         
สรุปความได้ว่า เกษตรกรผู้ปลูกพืชเกษตร 5 ชนิด จะได้รับการดูแลต่อ ส่วนเกษตรกรผู้ปลูกพืชเกษตรอื่น ก็จะได้รับการดูแลเช่นเดียวกัน แต่ต่างวิธีกัน
         
โดยมีเป้าหมายสุดท้าย คือ เกษตรกรขายผลผลิตได้คุ้มต้นทุน และมีรายได้เพิ่มขึ้น
 
ซีเอ็นเอ