เมื่อวันที่ 20 ธ.ค.2560 ที่ผ่านมา นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมามอบนโยบายการทำงานให้กับผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ถึงที่ทำงาน โดยมีนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค ปลัดกระทรวงพาณิชย์ และผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงพาณิชย์ให้การต้อนรับ
         
ในการเดินทางมามอบนโยบายการทำงานในครั้งนี้ พิเศษกว่าครั้งก่อน ก็คือ นายสมคิด เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนได้เข้าร่วมฟังการมอบนโยบายด้วย แบบว่า ฟังกันไปพร้อมๆ กับข้าราชการเลย จึงเป็นที่มาของรายงานแบบเจาะลึกว่าเขามีพิธีการกันแบบไหน ทำงานกันอย่างไร สั่งการกันแบบไหน ก่อนที่จะลงไปสู่ภาคปฏิบัติ
         
บรรยากาศในห้องประชุม นายสมคิด เป็นประธาน นั่งหัวโต๊ะ ด้านข้างขวาซ้าย ประกบด้วยนายสนธิรัตน์ น.ส.ชุติมา จากนั้นเป็นทีมผู้บริหาร ลดหลั่นกันไปตามตำแหน่ง
         
จากนั้น ได้เข้าสู่วาระการมอบนโยบาย นายสนธิรัตน์ได้สรุปงาน และแผนงานที่จะดำเนินการแบบย่อให้นายสมคิดฟัง ซึ่งมีงานที่จะทำ ได้แก่ การดูแลค่าครองชีพ ที่จะเน้นการดูแลปัญหาปากท้องประชาชน การเพิ่มทางเลือกซื้อสินค้าราคาถูกผ่านร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ การขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก ที่จะเน้นให้ผู้มีรายได้น้อยมีการมีงานทำ การขับเคลื่อนการส่งออก ที่จะเน้นผลักดัน SMEs ให้ส่งออกได้มากขึ้น การปกป้องคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาที่จะดำเนินการต่อเนื่อง และปิดท้ายด้วยการปฏิรูปกระทรวงพาณิชย์ แบบว่า ต้องทำให้หนุ่มให้สาวขึ้น เพื่อเป็นผู้สนับสนุนในทุกๆ ด้าน
         
ต่อมา น.ส.ชุติมา ได้สรุปงานที่จะดำเนินการ โดยจะเน้นการเจรจาหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจกับประเทศคู่ค้าหลักๆ การใช้ประโยชน์จาก FTA การแก้ปัญหาจดสิทธิบัตรล่าช้า การนำทรัพย์สินทางปัญญามาใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ การยกระดับสินค้าเกษตรสู่สินค้านวัตกรรม การส่งเสริมให้มีบริการใหม่ๆ รองรับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 เช่น ไบโอเทคโนโลยี บริการด้านการเกษตร
         
ส่วน นางนันทวัลย์ สรุปว่า จะเน้นการบูรณาการการทำงานระหว่างส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค ในและนอกประเทศ และทำงานร่วมกับภาคเอกชน โดยพาณิชย์จังหวัดจะต้องเป็นที่พึ่งของผู้ว่าด้านเศรษฐกิจ การเพิ่มและขยายการค้าออนไลน์ทั้งในและต่างประเทศ ขณะเดียวกันจะมีการวิเคราะห์และจัดทำแผนงานที่เป็นประโยชน์ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้เพิ่มมากขึ้น
         
เมื่อสรุปจบ นายสนธิรัตน์ ก็ได้ขอให้นายสมคิดมอบนโยบายการทำงานให้กับข้าราชการ
         
นายสมคิดเริ่มต้นด้วยการบอกว่า ปีนี้สินค้าเกษตรราคาดี ข้าวไม่เป็นปัญหา ดูแลได้ดี ข้าวหอมมะลิราคาดีมาก ยางพารา มีมาตรการดูแลแล้ว เข้า ครม. แล้ว ต่อไปต้องไปดู สินค้าที่มีสต๊อก เหมือนปาล์มอยู่ดีๆ สต๊อกเพิ่ม 5.19 แสนตัน ถ้าจำเป็น เอาควบคุมไปเลย ส่วนสินค้าเกษตร ข้าว มัน ปาล์ม ยาง ต้องมีคนดูแล มีคนประกบ ถ้าทำไม่ได้ ไม่ดี เปลี่ยน แล้วที่พาณิชย์จะพบกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นนิมิตหมายที่ดี ต้องไปด้วยกัน ตอนนี้ ข้าวไทยดังมาก อย่างข้าวจีไอ (สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์) ต้องเข้าไปช่วย ทำแบรนด์ ทำตลาด
         
เรื่องส่งออก ถ้าเดือนธ.ค. ส่งออกได้ 2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ทั้งปีแตะ 10% การส่งออกให้รัฐมนตรี ปลัดไปดู โครงสร้างเดิมๆ ใช้ไม่ได้ วางแผนตั้งทีม ทำงานร่วมกับทูตพาณิชย์ รุกเข้าไป อย่างจีนรุกได้ ฮ่องกงต้องไป เช็กความสำคัญ จีน อินเดีย อียู เพราะสมัยก่อนใช้วิธีคุย FTA ตอนนี้ต้องเป็น Partnership เราทำกับจีน ญี่ปุ่น อาเซียนแล้วดี ต่อไปเจาะยุโรป ดูเลยจะเจาะฝรั่งเศส เยอรมนี อังกฤษยังไง เริ่มใครก่อน ลองปลดล็อคก่อน คนได้ประโยชน์คือเขา ถ้าไม่เอา เขาเสียเอง
         
งานเร่งด่วน เดือนม.ค.2561 จะคุยกับรองนายกรัฐมนตรีจีน อยากให้คิด จะคุยกับเขาเรื่องอะไร เจรจาซื้อขายข้าว ยางไม่เอา เราไม่ใช่ขอทาน ต้องดูจีนมีวันเบลวันโรด จะเจาะอะไรยังไง ตอนนี้เปิดสะพานเชื่อม 3 เมือง ฮ่องกง มาเก๊า จูไห่ (เขตเศรษฐกิจพิเศษจูไห่) จะเอาไปเชื่อมกับ EEC ยังไง เราต้องการอะไรจากจีน บริการ ดิจิตอล ตอนเขามา จะเจรจาอะไร ลงนามอะไร คิดล่วงหน้า คิดในมุมนโยบายมีอะไร แล้วจะเจรจาอะไร ที่สำคัญต้องเอาจีนมาสนับสนุน EEC ต้องดึงเข้ามา เพราะจีนก็ให้ความสำคัญกับ EEC ประธานาธิบดี สีจิ้นผิง ก็พูดถึง EEC ถ้าเรามีญี่ปุ่น มีจีน ที่เหลือเรื่องเล็ก ฝากไว้จริงๆ สำคัญ
         
เรื่องบริการ ก็สำคัญ ท่องเที่ยวคิดเป็น 20% ของจีดีพี ต้องส่งเสริมให้เกิดธุรกิจบริการ ต้องลงไปช่วย ส่งออกต่อไป ต้องวัดจาก SMEs จะช่วยยังไง รายใหญ่ไม่ต้องไปช่วยเขาๆ ช่วยตัวเองได้ ตอนนี้ได้คุยแบงก์รัฐ ให้เข้ามาสนับสนุน คนชั้นกลางมีโอกาสเป็นนักธุรกิจได้
         
การช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก เกษตร พาณิชย์ ท่องเที่ยว ต้องทำด้วยกัน เกษตรชี้เป้า ตรงไหน ปลูกอะไร เมื่อมีผลผลิตแล้ว พาณิชย์ต้องเข้าไปช่วยหาตลาด อย่างตลาดประชารัฐ ต้องเป็นตัวช่วยรับสินค้า แล้วแหล่งผลิตสินค้าเกษตร ชุมชน โอทอป ต้องดันให้เป็นหมู่บ้านท่องเที่ยว ถ้าเกิดช่วยพัฒนาเศรษฐกิจ  แล้วสินค้าที่เกษตรผลิต ชุมชนผลิต โอทอป ร่วมมือกับมหาวิทยาลัย เอานักศึกษาเข้าไปช่วยพัฒนา แล้วร้านโชห่วย ต้องแปลงเป็นจุดรับซื้อขายของชุมชนผ่านจังหวัด ข้ามประเทศ มีไปรษณีย์เป็นคนส่งสินค้าให้ ซึ่งจะขยายร้านโชห่วยเข้าเป็นร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ กำลังเสนอคลังเอาเข้า ครม. ติดเครื่องรูดบัตรเพิ่ม
         
เรื่องออนไลน์ ต้องการแพลตฟอร์มใหญ่ ต้องทำ ไทยเทรดดอทคอม ให้เป็นแมส ถ้าทำไม่ได้จ้างมาทำ ต้องช่วยให้ SMEs มีโอกาสค้าขาย ก่อนถามหา ใครรับผิดชอบงานนี้ แล้วก็ฝากให้ทำให้สำเร็จ
         
ส่วนเรื่องการพัฒนาส่งเสริมธุรกิจ นายสมคิดบอกว่า เอกชนส่วนใหญ่มีหน่วยพัฒนาธุรกิจใหม่ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ก็ต้องไปดู ไปทำ ไปทำคลอดมาให้ได้ เรื่องอาชีพสงวน ต้องดูอะไรไม่ควรสงวน ต้องเอาออกไป ส่วนเรื่องไอพี สำคัญ ต้องพัฒนา ต้องส่งเสริมให้เกิดการจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญาให้มากขึ้น อย่างสินค้าจีไอ ต้องทำต่อ
         
สำหรับเรื่องคน ตอนนี้เศรษฐีไทย เก็บอดีตผู้บริหารพาณิชย์ไปหมด การุณ กิตติสถาพร เกริกไกร จีระแพทย์ จันทรา บูรณฤกษ์ ต้องเอามาเป็นที่ปรึกษา ต้องใช้ ต้องอาศัยผู้ใหญ่เหล่านี้เพื่อเข้าถึง เพราะบางประเทศเด็กเข้าไม่ถึง ใครเป็นคู่กัดใคร เลิกไปก่อน ใช้บุคลากรให้เกิดประโยชน์
         
ก่อนปิดท้าย ผมให้เวลา 3 เดือน จะกลับมาฟังความคืบหน้า