​“ศุภจี”ถกรัฐมนตรีพาณิชย์ซาอุดิอาระเบีย สบช่องดันไทยเป็นแหล่งความมั่นคงอาหาร

img

“ศุภจี”นำทีมพาณิชย์ถกรัฐมนตรีพาณิชย์ซาอุดิอาระเบีย เห็นพ้องยกระดับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าสองประเทศ ดันไทยเป็นแหล่งความมั่นคงอาหารให้ซาอุดิอาระเบีย ร่วมมือสาขาบริการ ทั้งท่องเที่ยว อาหาร สปา บริการสุขภาพ พร้อมหนุนวิสัยทัศน์ซาอุดิอาระเบีย ค.ศ.2030
         
นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.2568 ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่นซาอุดิอาระเบีย ตนพร้อมด้วย น.ส.กิริฎา เภาพิจิตร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ นางปิยนุช วุฒิสอน คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ น.ส.โชติมา เอี่ยมสวัสดิกุล อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ นายนพดล คันธมาศ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ และคณะผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ เข้าพบหารือกับ ดร.มาญิด บินอับดุลเลาะฮ์ อัลกอเศาะบี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเป็นรัฐมนตรีอาวุโสผู้ทรงอิทธิพลและได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในแวดวงเศรษฐกิจของซาอุดิอาระเบีย เพื่อหารือแนวทางยกระดับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างสองประเทศ พร้อมเร่งขยายโอกาสให้กับสินค้าเกษตรและอาหารของไทยในตลาดตะวันออกกลาง
         
ทั้งนี้ ซาอุดีอาระเบียเป็นประเทศแรกในตะวันออกกลางที่ตนเดินทางมาเยือนหลังรับตำแหน่ง ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ของซาอุดีอาระเบียต่อไทย โดยทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกระชับความร่วมมือในฐานะพันธมิตรระหว่างภูมิภาคที่เริ่มจากความเชื่อใจ (trust) ท่ามกลางความท้าทายของเศรษฐกิจโลก โดยวางเป้าหมายให้ซาอุดีอาระเบียเป็นประตูการค้าสู่ภูมิภาคตะวันออกกลางและกลุ่ม GCC



โดยในการหารือครั้งนี้ รัฐมนตรีซาอุดีอาระเบียได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการส่งเสริมสินค้าไทยในตลาดซาอุดิอาระเบีย และพร้อมสนับสนุนการนำเข้าสินค้าคุณภาพจากไทย เช่น ข้าว อาหารฮาลาล วัตถุดิบด้านอาหาร และผลไม้ รวมทั้งพร้อมหารือกับไทยถึงมาตรฐานสินค้า เพื่อให้ไทยสามารถผลิตสินค้าได้ตรงกับความต้องการ และเห็นว่าไทยสามารถเป็นแหล่งความมั่นคงทางอาหารให้แก่ซาอุดิอาระเบียได้ ขณะเดียวกัน ซาอุดิอาระเบียยังให้ที่ดินติดตั้งบูธ Thai Village เป็นการถาวร เพื่อส่งเสริมและสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับสินค้าและบริการของไทยในตะวันออกกลางด้วย

“ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะจัดทำแผนงานความร่วมมือด้านบริการในสาขาที่ไทยมีศักยภาพ เช่น การท่องเที่ยว ร้านอาหาร สปา และบริการด้านสุขภาพ รวมทั้งความร่วมมือด้านแรงงานมีฝีมือ อาทิ พ่อครัว พนักงานในสาขาท่องเที่ยว โดยไทยพร้อมแบ่งปันความรู้และประสบการณ์ตลอดจนสนับสนุนแรงงานมีฝีมือเข้าไปช่วยพัฒนาซาอุดีอาระเบียให้บรรลุตามเป้าหมายยุทธศาสตร์ “วิสัยทัศน์ซาอุดิอาระเบีย ค.ศ.2030” ซึ่งเป็นนโยบายหลักของประเทศในปัจจุบันที่กำลังพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศให้ลดการพึ่งพาน้ำมันและให้ความสำคัญกับภาคการท่องเที่ยว”นางศุภจีกล่าว
         
ปี 2567 ซาอุดีอาระเบียครองตำแหน่งคู่ค้าอันดับที่ 19 ของไทยในตลาดโลก และเป็นอันดับที่ 2 ในภูมิภาคตะวันออกกลาง ด้วยมูลค่าการค้ารวม 7,757.03 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นการส่งออก 2,856.68 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นำเข้า 4,900.36 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และในช่วง 9 เดือนปี 2568 (ม.ค.-ก.ย.) การค้าระหว่างกันมีมูลค่า 5,815.82 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นการส่งออกของไทย 1,949.00 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และการนำเข้า 3,866.81 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยสินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ 1.รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ 2.ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ 3.ผลิตภัณฑ์ยาง 4.อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป 5.เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ และสินค้านำเข้าสำคัญ ได้แก่ 1.น้ำมันดิบ 2.ปุ๋ยและยากำจัดศัตรูพืชและสัตว์ 3.เคมีภัณฑ์ 4.สินแร่โลหะอื่น ๆ เศษโลหะและผลิตภัณฑ์ 5.ก๊าซธรรมชาติ

ติดตามข่าวสารแบบฉับไว
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
ติดตามข่าวสารผ่าน Twitter
กดคลิก Follow ด้านล่าง