“บรรจงจิตต์” ที่ปรึกษารัฐมนตรีพาณิชย์ หารือรัฐมนตรีช่วยพาณิชย์จีน ยกระดับความร่วมมือด้านอีคอมเมิร์ซ ขอช่วยเพิ่มศักยภาพผู้ประกอบการไทยเข้าสู่ตลาดจีน พร้อมขอเร่งตรวจสินค้าโคมีชีวิต เปิดทางส่งออกไปจีน เห็นพ้องช่วยกันประชาสัมพันธ์การใช้ประโยชน์ความตกลงอัปเกรด FTA อาเซียน-จีน หลังลงนามกันไปแล้ว

น.ส.บรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้พบกับ Mr.Sheng Qiuping รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ในช่วงที่เดินทางเยือนประเทศไทย ระหว่างวันที่ 2–4 ธ.ค.2568 โดยได้หารือเพื่อกระชับความสัมพันธ์และแนวทางความร่วมมือการส่งเสริมการค้าระหว่างไทย-จีน โดยเฉพาะความร่วมมือด้านพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ในฐานะที่จีนเป็นตลาดอีคอมเมิร์ซขนาดใหญ่ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ด้วยจำนวนผู้ใช้งานกว่า 910 ล้านคน และมีสัดส่วนมูลค่าคิดเป็นร้อยละ 10 ของจีดีพี มีบทบาทสำคัญต่อทั้งภาคผู้บริโภค ผู้ประกอบการ การจ้างงาน และการผลิต

ทั้งนี้ ที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์ไทยและกระทรวงพาณิชย์จีน ได้มีบันทึกความเข้าใจ (MoU) ว่าด้วยความร่วมมือด้านพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ โดยลงนามร่วมกันมาตั้งแต่ปี 2565 และจีนได้ให้การสนับสนุนไทยในด้านการพัฒนาบุคลากรภาครัฐผ่านหลักสูตรอบรมหลากหลายหลักสูตร ซึ่งการหารือครั้งนี้ ได้เสนอให้คัดเลือกผู้ประกอบการไทยเข้าร่วมการอบรมมากยิ่งขึ้น เนื่องจากผู้ประกอบการเป็นผู้บุกเบิกตลาดโดยตรง ยิ่งผู้ประกอบการมีความเข้าใจตลาดและกฎระเบียบมากเท่าไร ก็จะทำให้ผู้ประกอบการเข้าสู่ตลาดได้มากยิ่งขึ้นเท่านั้น และยังได้เสนอให้ทั้งสองฝ่ายจัดทำ Work Plan ความร่วมมือด้านอีคอมเมิร์ซสำหรับปี 2569 ที่มีไทม์ไลน์ความร่วมมือต่าง ๆ อย่างเป็นรูปธรรมด้วย



น.ส.บรรจงจิตต์กล่าวว่า ได้ขอให้จีนช่วยแก้ไขปัญหาการส่งออกสินค้าเกษตรบางรายการ เช่น โคมีชีวิต ที่ไทยยังไม่สามารถส่งออกไปจีนได้ จึงได้เสนอแนวทางให้จีนส่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสินค้าที่ไทย เพื่อให้ไทยสามารถส่งออกสินค้าตรงไปยังประเทศจีนได้อย่างถูกต้องตรงตามคุณภาพที่จีนต้องการ โดยหากทั้งสองฝ่ายสามารถแก้ปัญหาในกรณีนี้ได้สำเร็จ ก็จะสามารถเป็นแนวทางการแก้ไขปัญหาให้กับสินค้าที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของผู้บริโภคอื่น ๆ ได้ด้วย

นอกจากนี้ ได้แสดงความยินดีที่มีการลงนามพิธีสารยกระดับความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-จีน (ACFTA 3.0) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ไทยในฐานะประเทศผู้ประสานงาน จะติดตามการดำเนินการของประเทศสมาชิกอาเซียนเพื่อเร่งกระบวนการเพื่อให้ความตกลง ACFTA 3.0 มีผลใช้บังคับโดยเร็ว และในระหว่างนี้ เห็นว่าทั้งสองฝ่ายควรช่วยกันประชาสัมพันธ์การใช้ประโยชน์จากความตกลงดังกล่าวให้ภาคเอกชนทราบอย่างทั่วถึง เพื่อให้เกิดประโยชน์กับผู้ใช้เมื่อความตกลงมีผลใช้บังคับ
         
มูลค่าการค้าระหว่างไทย-จีน ช่วง 10 เดือนของปี 2568 (ม.ค.–ต.ค.) มีมูลค่า 121,550.08 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 28% เป็นการส่งออกมูลค่า 33,781.38 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 15.47% และการนำเข้ามูลค่า 87,768.69 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 33.59% โดยสินค้าส่งออกหลักของไทยไปจีน ได้แก่ 1.ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็งและแห้ง 2.เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ 3.ผลิตภัณฑ์ยางประกอบ 4.เม็ดพลาสติก 5.ยางพารา และสินค้านำเข้าหลักของไทยจากจีน ได้แก่ 1.เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ 2.เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ 3.เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน 4.เคมีภัณฑ์ 5.เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ