​กรมพัฒน์ร่วมผู้ตรวจการแผ่นดิน หน่วยงานพันธมิตร ตรวจนอมินีตลาดสายใต้เซ็นเตอร์

img

กรมพัฒนาธุรกิจการค้าลงพื้นที่ตลาดสายใต้เซ็นเตอร์ ร่วมกับผู้ตรวจการแผ่นดิน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบข้อร้องเรียนคนต่างด้าวใช้คนไทยเป็นนอมินี เผยผลตรวจสอบ ตลาดกำหนดให้ผู้ค้าต้องลงทะเบียน มีเอกสารหลักฐานครบ หากพบเป็นของคนต่างด้าว ยกเลิกเช่าแผงทันที และไม่พบพฤติการณ์เป็นนอมินี ย้ำหากเจอภายหลัง จะดำเนินการเด็ดขาด เหตุผิดกฎหมาย ห้ามต่างด้าวประกอบธุรกิจค้าปลีก โดยไม่ขออนุญาต
         
นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 2 ธ.ค.2568 ที่ผ่านมา ได้มอบหมายให้ มล.ภู่ทอง ทองใหญ่ รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พร้อมด้วยผู้อำนวยการกองป้องกันและปราบปรามธุรกิจผิดกฎหมาย และทีมปราบนอมินี เข้าร่วมการลงพื้นที่ตรวจสอบกรณีเรื่องร้องเรียนตามคำเชิญของนายทรงศัก สายเชื้อ ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ณ ตลาดสายใต้เซ็นเตอร์ (สายใต้ใหม่) เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร ภายหลังได้รับเรื่องร้องเรียนเบาะแสว่ามีคนต่างด้าวใช้คนไทยเป็นตัวแทนอำพราง (นอมินี) ประกอบธุรกิจค้าปลีกโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมการจัดหางาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สำนักงานเขตตลิ่งชัน ร่วมบูรณาการการตรวจสอบร่วมกัน
         
ทั้งนี้ ผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงภายในตลาดสายใต้เซ็นเตอร์ พบว่า ร้านค้าเป็นลักษณะแผงลอย กำหนดให้ผู้ค้าต้องลงทะเบียนกับเจ้าของตลาด โดยต้องแสดงเอกสารครบถ้วน และทางตลาดมีมาตรการป้องกันเกี่ยวกับคนต่างด้าวเข้ามาเป็นนอมินีอย่างเข้มข้น ถ้าพบว่าร้านค้าใดเป็นของคนต่างด้าวโดยใช้คนไทยเป็นนอมินีจะยกเลิกการให้เช่าแผงทันที และหากร้านค้ามีแรงงานต่างด้าวต้องมีใบอนุญาตทำงานถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งร้านค้าส่วนใหญ่มีเจ้าของเป็นคนไทย และมีลูกจ้างเป็นคนต่างด้าว ซึ่งจากการสุ่มตรวจของกรมการจัดหางาน พบว่า แรงงานต่างด้าวมีใบอนุญาตทำงานถูกต้อง   
         


สำหรับการตรวจสอบร้านค้าในพื้นที่ตลาด เบื้องต้นกรมยังไม่พบข้อมูลหรือพฤติการณ์ที่เป็นร้านค้าของคนต่างด้าวโดยใช้คนไทยอำพรางเป็นนอมินีหรือเป็นการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว ซึ่งหากตรวจพบการกระทำความผิดดังกล่าวภายหลัง กรมจะดำเนินการขั้นเด็ดขาด เพราะถือเป็นการประกอบธุรกิจค้าปลีกตามบัญชีสาม (14) ของ พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 หากคนต่างด้าวดำเนินการโดยไม่ขออนุญาตหรือฝ่าฝืนกฎหมายถือเป็นความผิดมีโทษปรับตั้งแต่ 100,000 บาท ถึง 1,000,000 บาท หรือจำคุกตั้งแต่ 1-3 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ
         
“กรมจะบูรณาการทำงานร่วมกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อกำกับดูแลการประกอบธุรกิจให้เป็นไปตามกฎหมาย เพื่อคุ้มครองผู้ประกอบการไทย และป้องกันการใช้ช่องว่างทางกฎหมายหลีกเลี่ยงการขออนุญาตประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว เพราะการถือหุ้นแทนคนต่างชาติ ถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายและกระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ โดยประชาชนสามารถร่วมเป็นหูเป็นตาและแจ้งเบาะแสธุรกิจที่เข้าข่ายนอมินีได้ผ่านทางเว็บไซต์กรม www.dbd.go.th หัวข้อ รับเรื่องร้องเรียนปัญหานอมินี เพื่อร่วมกันสร้างระบบการค้าที่โปร่งใสและเป็นธรรม”นายพูนพงษ์กล่าว

ติดตามข่าวสารแบบฉับไว
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
ติดตามข่าวสารผ่าน Twitter
กดคลิก Follow ด้านล่าง