กรมพัฒนาธุรกิจการค้าผนึกหน่วยงานพันธมิตร ลงพื้นที่ตรวจสอบธุรกิจล้งมะพร้าว หลังได้รับการร้องเรียนจากเกษตรกรถึงปัญหาราคาตกต่ำ เผยผลตรวจสอบ 3 แห่ง เป็นคนไทย 1 แห่ง ร่วมทุนกับต่างชาติ 2 แห่ง โดยในส่วนของล้งไทย พบทำธุรกิจปกติ ส่วนล้งต่างชาติ พบย้ายออกจากพื้นที่ไปแล้ว 1 ราย ตรวจสอบทำผิดกฎหมายหรือไม่ และอีกรายยังทำธุรกิจปกติ
นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมได้มอบหมายให้ผู้อำนวยการกองป้องกันและปราบปรามธุรกิจผิดกฎหมายพร้อมทีมปราบนอมินี ร่วมกับคณะทำงานปฏิบัติการปราบปรามการประกอบธุรกิจที่ฝ่าฝืนกฎหมายจังหวัดราชบุรี นำโดย น.ส.วริษฐา สงวนเสริมศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี พร้อมด้วยส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ อัยการจังหวัดราชบุรี สำนักงานจัดหางานจังหวัด สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด สาธารณสุขจังหวัด นายอำเภอดำเนินสะดวก ตำรวจภูธร สภ.ดำเนินสะดวก ฝ่ายปกครองอำเภอดำเนินสะดวก และสำนักงานพาณิชย์จังหวัดราชบุรี ซึ่งทำหน้าที่ฝ่ายเลขานุการคณะทำงาน ลงพื้นที่ตรวจสอบธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการเกษตร (ล้งมะพร้าว) ในจังหวัดราชบุรี หลังกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกมะพร้าวน้ำหอมจังหวัดราชบุรี ออกมาเรียกร้องให้หน่วยงานรัฐเร่งแก้ไขปัญหาราคามะพร้าวน้ำหอมตกต่ำ ซึ่งส่งผลกระทบต่อเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดราชบุรีและจังหวัดใกล้เคียง
โดยคณะทำงานได้มีการประชุมเตรียมความพร้อมก่อนลงพื้นที่ตรวจสอบ ณ ที่ว่าการอำเภอดำเนินสะดวก และกรมได้ชี้แจงแนวทางการบังคับใช้กฎหมายและอำนาจหน้าที่ตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 รวมถึงแนวทางการบังคับใช้กฎหมายของแต่ละหน่วยงาน เพื่อให้การตรวจสอบภายใต้การบูรณาการร่วมกันมีความชัดเจนและเป็นไปตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง พร้อมกำหนดเป้าหมายลงพื้นที่ล้งมะพร้าว 3 แห่ง ซึ่งเป็นของผู้ประกอบการไทย 1 แห่ง และล้งที่มีการร่วมลงทุนกับคนต่างชาติ 2 แห่ง ในตำบลดอนกรวย อำเภอดำเนินสะดวก

สำหรับผลการตรวจสอบสถานประกอบการ 1.รองผู้ว่าราชการจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้รับฟังปัญหาจากผู้ประกอบการไทย เนื่องจากผลผลิตล้นตลาดจากสภาพอากาศเอื้ออำนวย ผลผลิตออกจำนวนมากทำให้ราคาลดลง ส่งผลกระทบต่อการส่งออก แต่ธุรกิจยังคงเดินหน้าดำเนินกิจการต่อไปเพื่อประคับประคองกิจการ โดยรองผู้ว่าฯ ได้ให้คำแนะนำแนวทางการบรรเทาปัญหาเบื้องต้นแล้ว
2.ล้งมะพร้าวที่มีการร่วมทุนกับต่างชาติแห่งแรก ตรวจพบว่า บริษัทได้ย้ายออกจากพื้นที่ตั้งแต่วันที่ 22 พ.ย.2568 และมีบริษัทอื่นเข้ามาดำเนินธุรกิจล้งมะพร้าวแทน สำนักงานพาณิชย์จังหวัดจึงได้สอบถามเจ้าของที่ดิน หากพบว่าบริษัทไม่มีสำนักงานใหญ่ตามที่ตั้งที่จดทะเบียนไว้ จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป และอยู่ระหว่างการตรวจสอบพฤติกรรมที่อาจจะส่อไปในทางกระทำผิดกฎหมาย ส่วนล้งอีกหนึ่งแห่งพบคนไทยเป็นผู้ดูแลล้งและเป็นบุตรของกรรมการและผู้ถือหุ้นของบริษัท ให้ข้อมูลว่าบริษัทประกอบธุรกิจส่งออกและจำหน่ายมะพร้าวในประเทศ ขณะนี้ได้รับผลกระทบจากราคาซื้อขายมะพร้าวเพียงลูกละ 4–4.50 บาท ทำให้รายได้ลดลงอย่างมาก และยืนยันว่าบริษัทมีการร่วมทุนของคนไทยและคนต่างชาติจริง โดยกรมจะประสานข้อมูลกับสำนักงานพาณิชย์จังหวัดราชบุรี เพื่อเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป

ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
กดคลิก Follow ด้านล่าง

