​DITP-SACIT-OMIYA เตรียมเปิดตัวคอลเล็กชัน “กิโมโนผ้าไทย” ที่ญี่ปุ่น 25 พ.ย.นี้

img

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) ผนึกกำลังสถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย และบริษัท OMIYA ต่อยอดโครงการ “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” พระดำริของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ผลักดันผ้าทอไทยตัดเย็บเป็นชุดกิโมโน พร้อมเปิดตัวคอลเลกชันใหม่ “กิโมโนผ้าไทย” วันที่ 25 พ.ย.นี้ ที่โตเกียวและเกียวโต
         
น.ส.สุนันทา กังวาลกุลกิจ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า DITP ได้ร่วมกับสถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (องค์การมหาชน) หรือ SACIT และบริษัท OMIYA Co.,Ltd ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ค้าผ้ากิโมโนที่สำคัญของนครเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น ทำการคัดเลือกผ้าทอไทยมาประยุกต์ตัดเย็บเป็นชุดกิโมโน และพร้อมเปิดตัวคอลเลกชัน “กิโมโนผ้าไทย” อย่างเป็นทางการ ในวันที่ 25 พ.ย.2568 ณ กรุงโตเกียว และนครเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นการต่อยอดโครงการ “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” อันเป็นพระดำริของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เพื่อสืบสานพระราชปณิธานของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในการฟื้นฟูและส่งเสริมผ้าไทยให้เป็นที่นิยมในระดับสากล
         
โดยก่อนหน้านี้ DITP ได้จับมือกับ SACIT และ OMIYA เพื่อผลักดันกิโมโนผ้าไทยเข้าสู่ตลาดญี่ปุ่น ผ่านการลงนาม MOU เพื่อส่งเสริมผ้าไทยให้สามารถขยายสู่ตลาดต่างประเทศ เพิ่มมูลค่าส่งออก และยกระดับภาพลักษณ์สู่สากล พร้อมสร้างโอกาสเชื่อมโยงช่างฝีมือ ผู้ประกอบการไทย และธุรกิจแฟชันต่างประเทศ ตลอดจนเพื่อสนับสนุนช่างทอผ้าและชุมชนท้องถิ่นให้มีรายได้อย่างยั่งยืน
         


จากนั้น บริษัท OMIYA ได้ลงพื้นที่ร่วมพัฒนาผ้าทอไทยกับผู้ประกอบการท้องถิ่นภายใต้ “โครงการผ้าไทยใส่ให้สนุก” โดยคัดสรรผ้าทอที่เหมาะสมกับคุณลักษณะเฉพาะของผ้าที่ใช้ในการตัดเย็บกิโมโน ซึ่งเป็นวัฒนธรรมการแต่งกายอันเป็นเอกลักษณ์ของญี่ปุ่น โดยในระยะแรกจะเน้นการใช้ผ้าไทยจากอำเภอดอนกอย จังหวัดสกลนคร หรือดอนกอยโมเดล ในสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา และจากอำเภอนาหว้า จังหวัดนครพนม ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของศูนย์ศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
         
“คอลเลกชันกิโมโนผ้าไทยในครั้งนี้ ถือเป็นความภาคภูมิใจและอีกก้าวสำคัญของ DITP ในการต่อยอดงานหัตถกรรมไทยสู่ตลาดโลก เพราะไม่เพียงสอดคล้องกับนโยบายส่งเสริมสินค้าความคิดสร้างสรรค์ของไทยเท่านั้น แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่ร่วมสืบสานภูมิปัญญาผ้าไทย พร้อมเป็นแนวทางพัฒนาสินค้าภายใต้กลยุทธ์ตลาดนำการผลิต เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าชุมชนและเพิ่มโอกาสด้านการส่งออกอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผ้าไทยจากอำเภอนาหว้า ต้นกำเนิดของศูนย์ศิลปาชีพที่จะมีการส่งออกสู่ตลาดต่างประเทศได้เป็นครั้งแรก ซึ่งอาจถือได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นของประวัติศาสตร์หน้าใหม่แห่งอุตสาหกรรมผ้าไทย”น.ส.สุนันทากล่าว
         
สำหรับบริษัท OMIYA Co., Ltd. เป็นหนึ่งในผู้ค้าผ้ากิโมโนที่สำคัญของนครเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น เริ่มก่อตั้งในปี 2494 เน้นจำหน่ายงานหัตถกรรมผ้าทอกิโมโนและผ้าทอพิเศษที่สืบทอดเทคโนโลยีงานช่างกิโมโนเชื่อมโยงกับดีไซน์สมัยใหม่ในระดับนานาชาติ ภายใต้แบรนด์ “OMIYA CONNECT”

ติดตามข่าวสารแบบฉับไว
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
ติดตามข่าวสารผ่าน Twitter
กดคลิก Follow ด้านล่าง