กรมทรัพย์สินทางปัญญาประกาศขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) รายการใหม่ “กกเหล่าพัฒนา” หัตถกรรมพื้นบ้าน จ.นครพนม และเป็นสินค้า GI ลำดับที่ 4 ของจังหวัด มั่นใจช่วยอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น เพิ่มมูลค่าให้สินค้า สร้างอาชีพและรายได้ให้ชุมชนเพิ่มมากขึ้น
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมได้ประกาศขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) รายการใหม่ คือ กกเหล่าพัฒนา โดยเป็นสินค้า GI ลำดับที่ 4 ของจังหวัดนครพนม ต่อจากเส้นไหมไทยพื้นบ้านอีสาน สับปะรดท่าอุเทน และลิ้นจี่นครพนม ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนไปก่อนหน้านี้ โดยการขึ้นทะเบียนในครั้งนี้ จะช่วยอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า สร้างอาชีพ และเพิ่มรายได้ให้กับชุมชนผู้ผลิตได้มากขึ้นจากเดิมที่มีประมาณปีละ 6 ล้านบาท ส่วนสินค้า GI ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนก่อนหน้านี้ สร้างรายได้ให้จังหวัดนครพนมมากกว่า 60 ล้านบาทต่อปี
สำหรับกกเหล่าพัฒนา เป็นเสื่อและผลิตภัณฑ์แปรรูปจากต้นกก ที่ผ่านการทอหรือสานด้วยมือตามภูมิปัญญาท้องถิ่นที่สืบทอดต่อกันมาหลายชั่วอายุคน โดยมีแหล่งผลิตสำคัญในพื้นที่ตำบลเหล่าพัฒนาและตำบลบ้านเสียว อำเภอนาหว้า จังหวัดนครพนม ซึ่งมีภูมิประเทศเป็นที่ราบลุ่ม มีน้ำท่วมขังในช่วงฤดูฝน และมีหนองน้ำกระจายอยู่โดยรอบ ลักษณะดินเป็นดินร่วนเหนียวปนทราย เหมาะกับการเจริญเติบโตของต้นกก ทำให้ได้กกที่มีลำต้นอวบ แข็งแรง มันวาว และมีความเหนียวกว่ากกทั่วไป เมื่อนำกกมาทอเป็นผลิตภัณฑ์จะมีคุณภาพดี แข็งแรงทนทาน และมีความสวยงามเป็นเอกลักษณ์

โดยกกเหล่าพัฒนามีประวัติความเป็นมายาวนานกว่า 80 ปี เริ่มมีการปลูกต้นกก ในพื้นที่ช่วงปี 2484 ซึ่งกกเจริญเติบโตดีและขยายพันธุ์ไปยังหนองน้ำต่าง ๆ ชาวบ้านจึงเริ่มนำกกมาทอเสื่อตามภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อใช้เป็นของฝากให้แก่ผู้มาเยือน ก่อนจะรวมตัวกันจัดตั้งเป็น “กลุ่มสตรีทอเสื่อกก” ในปี 2517 และพัฒนาเป็น “วิสาหกิจชุมชนสหกรณ์จักสานเส้นกกบ้านเหล่าพัฒนา” ในเวลาต่อมา
ปัจจุบันมีผู้ประกอบการกกเหล่าพัฒนากว่า 234 ราย ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากกกหลากหลายประเภท เช่น เสื่อ กระเป๋า หมวก แจกัน และของตกแต่งบ้าน สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 6 ล้านบาทต่อปี ด้วยความโดดเด่นด้านคุณภาพและเอกลักษณ์ของเส้นกก กกเหล่าพัฒนาจึงมีชื่อเสียงและเป็นที่ยอมรับทั้งในระดับประเทศและระดับนานาชาติ โดยในปี 2565 กระเป๋าเสื่อกกเหล่าพัฒนาได้รับเลือกให้เป็นของที่ระลึกสำหรับผู้นำระดับโลกที่เข้าร่วมการประชุม APEC 2022 ซึ่งไทยเป็นเจ้าภาพ สร้างชื่อเสียงและความภาคภูมิใจให้กับคนในชุมชน สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของผลิตภัณฑ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นไทยที่สามารถเฉิดฉายอัตลักษณ์บนเวทีนานาชาติได้อย่างแข็งแกร่ง
ทั้งนี้ กรมมุ่งมั่นที่จะเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการท้องถิ่น ผ่านการส่งเสริมการขึ้นทะเบียนและต่อยอดสินค้า GI ที่ขึ้นทะเบียนแล้วตามนโยบายนางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์อย่างต่อเนื่อง ทั้งการสนับสนุนให้มีการจัดทำระบบควบคุมคุณภาพสินค้าและตรวจสอบย้อนกลับ (Traceability) เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคว่าจะได้รับสินค้า GI ที่ได้มาตรฐานส่งตรงจากแหล่งผลิตที่แท้จริง พร้อมส่งเสริมการขึ้นทะเบียน GI ในต่างประเทศ เพื่อสร้างโอกาสทางการค้าและผลักดันให้สินค้า GI ไทยเป็นที่รู้จักยิ่งขึ้นในตลาดสากล ตลอดจนพัฒนาสินค้า GI สู่ระดับพรีเมียมเจาะตลาดผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อสูง รวมทั้งเชื่อมโยงแหล่งผลิตกับการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ต่อยอดสร้างรายได้ให้ชุมชนในมิติต่าง ๆ

ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
กดคลิก Follow ด้านล่าง

