“ศุภจี”เป็นตัวแทนนายกรัฐมนตรี เข้าร่วมการประชุมผู้นำ RCEP ครั้งที่ 5 ที่เป็นการประชุมครั้งแรกในรอบ 5 ปี หลังความตกลงมีผลบังคับใช้ เผยสมาชิกเห็นพ้องรักษาการค้าพหุภาคีที่เปิดกว้าง โปร่งใส สร้างความเชื่อมั่นในการทำการค้า ลงทุน เร่งขยายสมาชิกใหม่ เพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจ ส่วนการทบทวนความตกลง RCEP ต้องมุ่งยกระดับความตกลงให้สอดคล้องทิศทางของโลก การค้าดิจิทัล สิ่งแวดล้อม และช่วย SME
นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 27 ต.ค.2568 ที่ผ่านมา ได้รับมอบหมายจากนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้แทนเข้าร่วมการประชุมสุดยอดความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ครั้งที่ 5 ร่วมกับผู้นำประเทศสมาชิกความตกลง RCEP ทั้ง 15 ประเทศประกอบด้วยอาเซียน 10 ประเทศ ออสเตรเลีย จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และนิวซีแลนด์ ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย ซึ่งเป็นการประชุมผู้นำ RCEP ครั้งแรกในรอบ 5 ปีหลังจากความตกลงเริ่มมีผลใช้
โดยในการประชุม ไทยและประเทศสมาชิก เห็นตรงกันว่า การค้าโลกในปัจจุบันมีความเสี่ยงจากปัจจัยความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อความเชื่อมโยงในห่วงโซ่อุปทานของภูมิภาค ไทยจึงได้ร่วมยืนยันจุดยืนในฐานะสมาชิกของ RCEP จะรักษาระบบการค้าพหุภาคีที่เปิดกว้าง โปร่งใส และมีกฎเกณฑ์ที่แน่นอน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ภาคเอกชนในการดำเนินธุรกิจการค้าและการลงทุนในประเทศสมาชิก RCEP

นอกจากนี้ ยังเห็นว่า ความตกลง RCEP จะมีบทบาทสำคัญในการลดความเสี่ยงของการพึ่งพาตลาดคู่ค้าหลัก เพราะสามารถเพิ่มจำนวนสมาชิกใหม่ได้อีก นอกเหนือจาก 15 ประเทศสมาชิกในปัจจุบัน โดยการเพิ่มของจำนวนสมาชิก RCEP จะเพิ่มโอกาสให้เศรษฐกิจของภูมิภาคขยายตัวมากขึ้น จากการขยายเครือข่ายห่วงโซ่อุปทานไปยังประเทศอื่น ๆ ที่มีศักยภาพ และจะช่วยเพิ่มโอกาสทางธุรกิจของผู้ส่งออกไทยที่นอกเหนือจากอาเซียนและคู่เจรจาของอาเซียน และยังตรงกับเป้าหมายของรัฐบาลในการขยายตลาดการค้า และใช้ FTA บุกตลาดใหม่ในภูมิภาคต่าง ๆ ของโลก
นางศุภจีกล่าวว่า ได้เสนอแนะต่อที่ประชุมถึงแนวทางผลักดันบทบาทความเป็นผู้นำทางการค้าของ RCEP โดยเตรียมความพร้อมเรื่องการทบทวนความตกลง RCEP ที่กำหนดไว้ในปี 2570 ให้ครอบคลุมประเด็นที่สอดคล้องกับทิศทางของโลกและความต้องการของภาคธุรกิจ โดยควรมุ่งยกระดับให้ความตกลง RCEP ให้มีมาตรฐานที่สูง มีความยืดหยุ่นรองรับการเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว ตลอดจนสนับสนุนการค้าดิจิทัลและการค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และที่สำคัญจะต้องสนับสนุน SME เพื่อให้สามารถเข้าร่วมในห่วงโซ่อุปทานและมีศักยภาพในการรับมือกับความท้าทายทั้งในปัจจุบันและอนาคต
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์รับจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม RCEP ในระดับเจ้าหน้าที่อาวุโส ในช่วงวันที่ 16-17 พ.ย.2568 ณ จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเร่งดำเนินการตามมติของผู้นำ

ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
กดคลิก Follow ด้านล่าง

