“พาณิชย์”ลุยต่อแก้ปิดด่าน จัดพื้นที่จำหน่าย เชื่อมซื้อขาย ช่วยรายย่อย เกษตรกร

img

“พาณิชย์”เผยจัดพื้นที่จำหน่ายและเชื่อมโยงการซื้อขายให้กับผู้ประกอบการ ผู้ค้ารายย่อยและเกษตรกร ที่มีสินค้าตกค้างจากปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชาแล้ว 36 ครั้ง ใน 7 จังหวัดชายแดน เตรียมจัดต่อเนื่องช่วง ก.ค.-ส.ค. อีก 6 ครั้ง พร้อมเดินหน้าเสริมแกร่งเพิ่มพูนความรู้การค้าขายทั้งออฟไลน์ ออนไลน์

นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) และโฆษกกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ติดตามสถานการณ์ความตึงเครียดตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา และได้สั่งการให้ดำเนินการช่วยเหลือผู้ประกอบการ ผู้ค้ารายย่อยและเกษตรกร ที่มีสินค้าตกค้าง ไม่สามารถส่งไปจำหน่ายยังกัมพูชา โดยเฉพาะผลผลิตทางการเกษตร ล่าสุดสำนักงานพาณิชย์จังหวัด (สพจ.) และกรมการค้าภายใน ได้เข้าไปช่วยเหลือแล้ว มีการจัดสรรพื้นที่จำหน่ายและเชื่อมโยงผู้รับซื้อแล้วทั้งสิ้น 36 ครั้ง ใน 7 จังหวัดชายแดน ได้แก่ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ บุรีรัมย์ สระแก้ว จันทบุรี ตราด และสุรินทร์ สามารถระบายผลไม้ได้ 110,000 กิโลกรัม มูลค่า 5.44 ล้านบาท และระบายผลผลิตทางการเกษตรอื่น ๆ เช่น ไก่พื้นเมือง เป็ด และนมสด ซึ่งช่วยบรรเทาผลกระทบได้ส่วนหนึ่ง

ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์จะเดินหน้าช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง โดยมีกำหนดจัดจุดจำหน่ายและงานแสดงสินค้าอีกจำนวน 6 ครั้ง ในช่วง 2 เดือนข้างหน้า ที่ จ.อุบลราชธานี วันที่ 8-13 ก.ค.2568 ณ ห้างสุนีย์ ดำเนินการโดย สพจ.อุบลราชธานี จ.จันทบุรี วันที่ 14-20 และวันที่ 21-27 ก.ค. 2568 ณ ห้างเซ็นทรัล ดำเนินการโดยสพจ.ตราด และ สพจ.จันทบุรี ตามลำดับ และ จ.ศรีสะเกษ วันที่ 18-20 ก.ค.2568 และวันที่ 1-3 ส.ค.2568 ณ ห้างบิ๊กซี ดำเนินการโดย สพจ.ศรีสะเกษ



“นายจตุพรยังได้สั่งการให้ดำเนินการเพิ่มเติม เพื่อให้มีความทั่วถึงมากยิ่งขึ้น โดยกำชับให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในกระทรวงพาณิชย์ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และบูรณาการร่วมกับหน่วยงานด้านความมั่นคงในการประเมินสถานการณ์และดำเนินมาตรการอย่างต่อเนื่อง”

ขณะเดียวกัน ไม่ว่าจะใช้เวลามากน้อยเพียงใดในการคลี่คลายสถานการณ์ความตึงเครียดดังกล่าว กระทรวงพาณิชย์ได้เตรียมความพร้อมให้กับผู้ประกอบการ โดยเฉพาะ SME และเกษตรกร ให้มีความเข้มแข็งและพร้อมปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง และสามารถแสวงหาโอกาสใหม่ ๆ ทางการค้าและเติบโตอย่างยั่งยืน โดยพัฒนาทักษะและองค์ความรู้ให้ผู้ประกอบการและเกษตรกร โดยเฉพาะในเรื่องการตลาดทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ตลอดจนการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี นวัตกรรม และอัตลักษณ์ไทย เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มและเสริมโอกาสใหม่ให้มากยิ่งขึ้น

ติดตามข่าวสารแบบฉับไว
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
ติดตามข่าวสารผ่าน Twitter
กดคลิก Follow ด้านล่าง