
“จตุพร”เข้ากระทรวงพาณิชย์วันแรก เผยภารกิจสำคัญเร่งด่วน เจรจาภาษีสหรัฐฯ ให้จบ ยันมีมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบแล้ว กันงบไว้ 1 หมื่นล้านบาท จากงบกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.5 แสนล้านบาท หากได้ข้อสรุป ชง ครม.อนุมัติทันที ยันเดินหน้าดูแลค่าครองชีพ สินค้าเกษตร แก้สวมสิทธิ์สินค้าไทย ปรับปรุงกฎหมายที่เป็นอุปสรรค
นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเดินทางเข้าปฏิบัติราชการที่กระทรวงพาณิชย์เป็นวันแรก โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น และนายฉันทวิชญ์ ตัณฑสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ และผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงพาณิชย์ เข้าร่วม ว่า ภารกิจสำคัญในขณะนี้ คือ การเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ โดยมีนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกนะทรวงการคลัง เป็นหัวหน้าทีม ซึ่งกระทรวงพาณิชย์มีบทบาทสำคัญในการเตรียมข้อมูลและสนับสนุนการเจรจา เพื่อให้ประเทศไทยได้รับประโยชน์สูงสุด โดยไทยได้เสนอข้อเสนอใหม่ให้สหรัฐฯ พิจารณาแล้ว มีทั้งการนำเข้า การเปิดตลาด
ทั้งนี้ ยังได้เตรียมมาตรการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการเจรจาภาษีสหรัฐฯ ไว้แล้ว โดยเบื้องต้น มีเงินกันสำรองไว้ประมาณ 10,000 ล้านบาท จากงบกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.15 แสนล้านบาท หากได้ข้อสรุปแผนการเยียวยาผู้เกี่ยวข้องแล้ว จะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อขออนุมัติใช้งบประมาณต่อไป และหากการเจรจาภาษีสหรัฐฯ ได้ข้อสรุป ก็ต้องรายงานผลต่อ ครม. และรัฐสภาเพื่อขอความเห็นชอบด้วย
นายจตุพรกล่าวว่า ภารกิจเร่งด่วนอีกภารกิจที่จะเร่งดำเนินการ คือ การดูแลค่าครองชีพ ราคาสินค้าให้มีเสถียรภาพ โดยเฉพาะสินค้าเกษตรที่ประสบปัญหาราคาตกต่ำ จะทำงานเป็นทีม ขับเคลื่อนทั้งระบบ Supply Chain ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ ไม่ใช่แค่กระทรวงพาณิชย์เพียงลำพัง แต่ต้องประสานงานกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงอุตสาหกรรม และกระทรวงอื่น ๆ ให้การแก้ปัญหาเกิดผลอย่างยั่งยืน
นอกจากนี้ จะเร่งรัดการแก้ปัญหาสินค้าสวมสิทธิ์จากต่างประเทศ การปรับปรุงกฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อการทำงาน โดยจะทำงานร่วมกับรัฐมนตรีช่วย ปลัดกระทรวง และทีมงานอย่างใกล้ชิดเพื่อให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม
ส่วนนโยบายเร่งด่วนระยะสั้น ได้มอบหมายให้หน่วยงานในสังกัดเร่งดูแลสถานการณ์ราคาผลไม้ตามฤดูกาล เช่น มังคุด ทุเรียน โดยตนให้นโยบาย “ไทยทำ ไทยใช้ ไทยช่วยไทย” และในระยะยาวจะพัฒนากลไกตลาดใหม่ให้กับเกษตรกรไทย พร้อมกำหนด KPI ชัดเจนให้กับทูตพาณิชย์ในแต่ละประเทศ เพื่อสร้างโอกาสทางการค้า
“ผมเติบโตจากครอบครัวแม่ค้า เข้าใจการจับจ่ายสินค้าทั้งระบบ วันนี้ปัญหาไม่ใช่แค่เรื่องราคา แต่เป็นเรื่องกำลังซื้อ เราจึงต้องทำงานเชิงรุกทั้งลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ และตรึงราคาสินค้าให้เป็นธรรมที่สุด” นายจตุพรกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ข้อเสนอใหม่ที่ไทยส่งให้สหรัฐฯ พิจารณา เช่น ไทยจะลดการเกินดุลกับสหรัฐฯ ร้อยละ 70 ภายใน 5 ปี ซึ่งปัจจุบัน ไทยเกินดุลสหรัฐฯ 46, 000 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยได้เสนอเพิ่มการซื้อขายพลังงาน และเครื่องบินโบอิ้ง
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
กดคลิก Follow ด้านล่าง