
“พาณิชย์”เผยผลการเจรจา FTA ไทย-EU รอบ 6 คืบหน้าอีก 3 บท พร้อมเริ่มหารือเปิดตลาดการค้าสินค้า แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเปิดตลาดบริการและการลงทุน ก่อนนัดหารือรอบ 7 วันที่ 29 ก.ย.-3 ต.ค.68 ที่กรุงบรัสเซลล์
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจาก น.ส.โชติมา เอี่ยมสวัสดิกุล อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ถึงผลการเจรจาความตกลงการค้าเสรี (FTA) ไทย–สหภาพยุโรป (EU) รอบที่ 6 ซึ่งไทยเป็นเจ้าภาพจัดขึ้นระหว่างวันที่ 23–27 มิ.ย.2568 ที่กรุงเทพฯ มีความคืบหน้าที่ดี และเป็นไปในทิศทางบวกอย่างต่อเนื่อง และเห็นพ้องที่จะเดินหน้าเร่งเจรจา FTA ไทย-EU ให้ได้ข้อสรุปโดยเร็วที่สุด
สำหรับการเจรจาในครั้งนี้ สามารถสรุปในหลักการเพิ่มเติมได้อีก 3 บท ได้แก่ 1.บทการค้าและการพัฒนาที่ยั่งยืน (Trade and Sustainable Development : TSD) ซึ่งเกี่ยวข้องกับการยกระดับมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม แรงงาน และสังคมที่เกี่ยวข้องกับการค้า 2.บทวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (Small and Medium Enterprises : SMEs) เน้นการเผยแพร่ข้อมูลกฎระเบียบและมาตรการทางการค้าเพื่อให้ผู้ประกอบการ SMEs เข้าถึงข้อมูลได้ง่ายและครบถ้วน 3.บทอุปสรรคทางเทคนิคต่อการค้า (Technical Barriers to Trade : TBT) เพื่ออำนวยความสะดวกทางการค้า ลดอุปสรรคจากกฎระเบียบที่ไม่จำเป็น
ส่วนกลุ่มเจรจาอื่น ๆ ก็มีความคืบหน้าอย่างมีนัยสำคัญ โดยทั้งสองฝ่ายยังได้หารือเกี่ยวกับการเปิดตลาดการค้าสินค้า รวมถึงแลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับข้อเสนอการเปิดตลาดการค้าบริการและการลงทุน พร้อมกำหนดงานของแต่ละกลุ่มที่จะต้องดำเนินการระหว่างรอบ ก่อนการเจรจารอบที่ 7 ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 ก.ย.-3 ต.ค.2568 ณ กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม
“ทั้งไทยและ EU ต่างมีความพึงพอใจกับความคืบหน้าในรอบนี้ โดยเฉพาะบท TSD ซึ่งถือเป็นประเด็นสำคัญที่ทั้งสองฝ่ายให้ความสำคัญอย่างยิ่ง สอดคล้องกับนโยบายสีเขียว (European Green Deal) ของ EU และนโยบายของไทยที่มุ่งเน้นการยกระดับมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม แรงงาน และสังคม โดยไม่ใช้เป็นมาตรการกีดกันทางการค้า อีกทั้งยังเป็นไปในทิศทางเดียวกับแนวโน้มการค้าโลกที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาที่ยั่งยืนเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังให้ความสำคัญกับการส่งเสริมให้ SMEs สามารถเข้าถึงข้อมูลกฎระเบียบต่าง ๆ เพื่อขยายโอกาสในการใช้ประโยชน์จากความตกลง FTA ได้มากขึ้น”นายพิชัยกล่าว
ปัจจุบัน EU เป็นคู่ค้าอันดับ 4 ของไทย รองจากจีน สหรัฐฯ และญี่ปุ่น โดยการค้าในช่วง 5 เดือนของปี 2568 (ม.ค.-พ.ค.) มีมูลค่า 18,092.23 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 0.57% โดยไทยส่งออกไปยัง EU มูลค่า 10,696.81 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 8.86% และนำเข้าจาก EU มูลค่า 7,395.41 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 9.40% ไทยเกินดุลการค้ากับ EU มูลค่า 3,301.40 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
กดคลิก Follow ด้านล่าง