
กรมการค้าต่างประเทศแจ้งข่าวดี ตลาดซาอุดิอาระเบียสนใจนำเข้ามันสำปะหลังไทย เพื่อนำไปใช้ในการเลี้ยงสัตว์ หลังส่งคณะผู้แทนการค้าภาครัฐและภาคเอกชน และนักวิชาการ เดินทางไปขายถึงที่ พร้อมชี้แจงคุณค่าทางโภชนาการ ประโยชน์ของสูตรอาหารสัตว์ที่มีมันสำปะหลังเป็นวัตถุดิบจนโดนใจ สั่งซื้อไปทดลองทันทีกว่า 2 หมื่นตัน มูลค่า 136 ล้านบาท
นางอารดา เฟื่องทอง อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้นายนพดล คันธมาศ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ นำคณะผู้แทนภาครัฐและภาคเอกชน เดินทางไปขยายตลาดส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังไทยในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ที่มีศักยภาพ ณ กรุงริยาด และเมืองเจดดาห์ ประเทศซาอุดีอาระเบีย ระหว่างวันที่ 17–22 พ.ค.2568 ตามนโยบาย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ได้สั่งการให้เร่งผลักดันขยายตลาดส่งออกมันสำปะหลัง เพื่อยกระดับการค้าและพยุงราคามันสำปะหลังให้กับเกษตรกร และล่าสุดได้รับรายการว่าการเดินทางไปครั้งนี้ ได้รับการตอบรับจากตลาดซาอุดีอาระเบียเป็นอย่างดี สามารถเปิดตลาดมันสำปะหลังเข้าสู่อุตสาหกรรมการเลี้ยงสัตว์ของซาอุดิอาระเบียได้สำเร็จ
ทั้งนี้ คณะได้รายงานว่า ได้มีการเข้าพบปะหารือกับผู้นำเข้าชั้นนำในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ของซาอุดีอาระเบีย เพื่อแนะนำมันสำปะหลังของไทย เนื่องจากผู้ผลิตอาหารสัตว์ในซาอุดีอาระเบีย ไม่รู้จักและไม่คุ้นเคยกับการใช้มันสำปะหลังในสูตรอาหารสัตว์มาก่อน โดยในการเดินทางไป กรมได้เชิญผู้แทนมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในการนำมันสำปะหลังไปแปรรูปเป็นอาหารสัตว์เข้าร่วมคณะเดินทางในครั้งนี้ด้วย และได้อธิบายถึงคุณค่าทางโภชนาการของสินค้ามันสำปะหลังไทย และประโยชน์ของสูตรอาหารสัตว์ที่มีมันสำปะหลังเป็นวัตถุดิบ
ส่งผลให้หลายบริษัท ได้แก่ บริษัท Al Sanabel Al Zahabiya Industrial ผู้ผลิตอาหารสัตว์ปีกและสัตว์เคี้ยวเอื้องรายสำคัญ บริษัท Arabian Agricultural Services Company (ARASCO) ผู้ค้าอาหารสัตว์ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ ซึ่งมีการผลิตและพัฒนาอาหารสัตว์หลายประเภท และ บริษัท United Feeds ผู้นำเข้าวัตถุดิบอาหารสัตว์รายสำคัญ ได้แสดงความสนใจในการนำเข้ามันสำปะหลังเพื่อทดลองใช้ในสูตรอาหารสัตว์ เบื้องต้นปริมาณกว่า 20,000 ตัน คิดเป็นมูลค่าประมาณ 136 ล้านบาท โดยจะหารือเพิ่มเติมกับผู้ประกอบการไทยที่ร่วมเดินทางมาเยือนซาอุดีอาระเบียในครั้งนี้เพื่อพิจารณาราคา วิธีการในการขนส่งและส่งมอบสินค้าโดยตรงต่อไป ซึ่งถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีของสินค้ามันสำปะหลังไทยในตลาดตะวันออกกลาง
อย่างไรก็ตาม กรมจะติดตามผลการเจรจาซื้อขายในครั้งนี้อย่างต่อเนื่อง เพื่อขยายผลให้เกิดการนำเข้าสินค้ามันสำปะหลังจากซาอุดีอาระเบียให้มากที่สุด เนื่องจากผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังของไทยมีชื่อเสียงด้านคุณภาพในระดับโลกมาอย่างยาวนาน อีกทั้งยังมีคุณค่าทางโภชนาการที่โดดเด่น จึงเป็นจุดแข็งที่ทำให้มันสำปะหลังเป็นวัตถุดิบทดแทนธัญพืชอื่นในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ได้อย่างดีอีกด้วย
“ปริมาณการซื้อขายจากการดำเนินกิจกรรมที่ซาอุดีอาระเบียในครั้งนี้ ถือเป็นสัญญาณอันดีที่แสดงให้เห็นถึงประสิทธิผลของการดำเนินกิจกรรมตามนโยบายของกระทรวงพาณิชย์และพันธกิจของกรมที่มุ่งผลักดันผลผลิตสู่ตลาดเป้าหมาย และถือเป็นก้าวแรกที่สำคัญของอุตสาหกรรมมันสำปะหลังของไทยในการก้าวข้ามกรอบการค้าแบบเดิมและก้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมใหม่ที่มีศักยภาพมากขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น การเพิ่มช่องทางการส่งออกจะช่วยเพิ่มอำนาจในการต่อรองให้กับผู้ประกอบการไทยในเวทีการค้าโลก รวมทั้ง ช่วยให้เกษตรกรและผู้ประกอบการส่งออกไทยสามารถเชื่อมั่นได้ว่า ผลผลิตของตนจะมีตลาดที่มีศักยภาพสูงรองรับ ซึ่งส่งผลดีกับรายได้ที่เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังจะได้รับต่อไป”นางอารดากล่าว
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
กดคลิก Follow ด้านล่าง