กรมการค้าภายในจัดชุดสายตรวจเฉพาะกิจ ร่วมกับสำนักงานพาณิชย์จังหวัด และนายตรวจชั่งตวงวัด ลงพื้นที่ตรวจสอบการรับซื้อปาล์มน้ำมันในพื้นที่ จ.กระบี่และตรัง สถานการณ์การรับซื้อคลี่คลายเข้าสู่ภาวะปกติ ราคาตั้งแต่ 5 บาทต่อกิโลกรัม เผยได้จับกุมดำเนินคดีผู้ประกอบการรับซื้อไม่ปฏิบัติตามกฎหมายอีก 3 ราย รวมตั้งแต่ต้นปี 68 ถึงปัจจุบัน จับไปแล้ว 11 ราย ย้ำเกษตรกรตัดปาล์มสุก ผู้ประกอบการรับซื้อตามที่กฎหมายกำหนด
         
นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ช่วงวันที่ 19–23 พ.ค.2568 ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่สายตรวจเฉพาะกิจ ร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัด นายตรวจชั่งตวงวัด ตรวจสอบสถานการณ์การรับซื้อปาล์มน้ำมันในพื้นที่จังหวัดกระบี่ และตรัง พบว่า สถานการณ์การรับซื้อเริ่มจะคลี่คลายเข้าสู่ภาวะปกติ ใกล้เคียงและเริ่มสอดคล้องกับกำลังการผลิตของโรงสกัดแล้ว โดยราคารับซื้อผลปาล์ม 18% หน้าโรงสกัดในพื้นที่อยู่ที่ราคาตั้งแต่ 5.00 บาท/กิโลกรัม (กก.) ขึ้นไป

ทั้งนี้ จากการลงพื้นที่ตรวจสอบ พบผู้ประกอบการรับซื้อปาล์มไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย โดยได้ดำเนินคดีจำนวน 3 ราย ในข้อหาฝ่าฝืนประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ฉบับที่ 69 เรื่อง การกำหนดหลักเกณฑ์ เงื่อนไขการรับซื้อ และการแสดงราคารับซื้อสินค้าปาล์มน้ำมัน และตั้งแต่ต้นปี 2568 จนถึงปัจจุบัน กรมได้จับกุมดำเนินคดีผู้ประกอบการรับซื้อสินค้าเกษตรที่ฝ่าฝืนกฎหมายไปแล้วรวม 11 ราย

นายอุดมกล่าวว่า ขอให้เกษตรกรผู้ปลูกปาล์ม ตัดปาล์มที่สุกเต็มที่ เพื่อให้ได้ราคาดี และขอเตือนให้ผู้ประกอบการปฏิบัติตามกฎหมายในเรื่องการรับซื้อผลปาล์มทะลาย ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ เงื่อนไขการรับซื้อ ตลอดจนการแจ้งปริมาณ สถานที่เก็บ และจัดทำบัญชีคุมสินค้าน้ำมันปาล์มและผลปาล์มน้ำมัน รวมทั้งห้ามกระทำพฤติกรรมใด ๆ ที่จะเป็นการทำให้ผลปาล์มร่วงอย่างไม่เป็นธรรมชาติ หากพบการกระทำความผิดจะดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด



โดยโทษ กรณีไม่แสดงราคารับซื้อหรือแสดงไม่เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดหรือทำผลปาล์มร่วงอย่างไม่เป็นธรรมชาติ ต้องระวางโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ กรณีกดราคารับซื้อต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากไม่แจ้งปริมาณ สถานที่เก็บ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และปรับอีกไม่เกินวันละ 2,000 บาท ตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืน หรือจนกว่าจะแจ้ง ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542  

สำหรับเกษตรกร หากไม่ได้รับความเป็นธรรมในการขายผลปาล์มน้ำมันหรือสินค้าเกษตรอื่น รวมทั้งพบเห็นหรือทราบเบาะแสการกระทำความผิด สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่สายด่วน 1569 กรมการค้าภายใน หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ
         
การดำเนินการดังกล่าว เป็นไปตามนโยบายนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ได้สั่งการให้กรมการค้าภายในกำกับดูแลสินค้าเกษตรให้มีเสถียรภาพ เพื่อยกระดับรายได้ให้แก่เกษตรกรไทย และการซื้อขายสินค้าเกษตรภายในประเทศให้เกิดความเป็นธรรม โดยให้จัดเจ้าหน้าที่สายตรวจเฉพาะกิจบูรณาการร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัด นายตรวจชั่งตวงวัด และเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ทุกภาคส่วนตรวจสอบกำกับดูแลผู้ประกอบการรับซื้อสินค้าเกษตรโดยเฉพาะผู้ประกอบการรับซื้อปาล์มและยางพาราในแหล่งพื้นที่เพาะปลูกที่สำคัญ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมทางการค้า และที่ผ่านมา ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบตามแหล่งเพาะปลูกที่สำคัญ เช่น จังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช  พัทลุง สตูล  สงขลา ตรัง กระบี่ พังงา และจังหวัดระนอง และได้ดำเนินคดีผู้ประกอบการที่ฝ่าฝืนกฎหมายไปแล้ว 8 ราย รวมครั้งนี้อีก 3 ราย รวม 11 ราย