
“พิชัย”ปาฐกถาพิเศษเวที German Business Talk ย้ำจุดแข็งเศรษฐกิจไทย ช่วงรัฐบาลแพทองธารเข้ามาบริหารประเทศ ส่งออกโต 12.9% การลงทุนพุ่ง มีความมั่นคงด้านโครงสร้างพื้นฐาน พลังงาน สบช่องชวนเข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย เผยยังมีแผนเดินหน้าเจรจา FTA มั่นใจกรอบไทย-อียูจบปีนี้ หลังไทย-เอฟตา เจรจาสำเร็จและลงนามกันไปแล้ว
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ช่วงค่ำวันที่ 6 พ.ค.2568 ที่ผ่านมา ได้เข้าร่วมงาน German Business Talk และได้กล่าวปาฐกถาพิเศษต่อผู้แทนสถานเอกอัครราชทูตจากประเทศในยุโรป และนักธุรกิจชั้นนำของเยอรมนีกว่า 80 คน ณ ทำเนียบเอกอัครราชทูตเยอรมนีประจำประเทศไทย โดยตนได้ใช้โอกาสนี้เน้นย้ำถึงศักยภาพและความพร้อมของไทยในฐานะศูนย์กลางการผลิตในอุตสาหกรรมเป้าหมาย และความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่แน่นแฟ้นระหว่างไทยกับเยอรมนี ซึ่งถือเป็นคู่ค้าอันดับหนึ่งของไทยในสหภาพยุโรป (อียู)
ทั้งนี้ ได้ยืนยันกับผู้แทนสถานทูต และนักธุรกิจว่าเศรษฐกิจไทยกำลังขยายตัวต่อเนื่อง โดยในช่วง 6 เดือนที่รัฐบาลชุดนี้ ภายใต้การนำของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เข้ามาบริหารประเทศ มูลค่าการส่งออกเติบโตถึง 12.9% และเฉพาะเดือน มี.ค.2568 การส่งออกมีมูลค่า 29,548.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 17.8% เป็นตัวเลขที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ของไทย ส่วนยอดขอรับการส่งเสริมการลงทุนไตรมาสแรก ปี 2568 สูงถึง 431,000 ล้านบาท เพิ่ม 97% ถือเป็นสัญญาณบวกที่สะท้อนถึงศักยภาพของสินค้าไทย และความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อศักยภาพของประเทศไทย
ขณะเดียวกัน ได้ชี้แจงอีกว่าไทยมีศักยภาพและความมั่นคงด้านโครงสร้างพื้นฐาน และพลังงาน มีความพร้อมรองรับการขยายการลงทุนจากต่างประเทศ ซึ่งเป็นโอกาสดีที่นักธุรกิจเยอรมนี สามารถเข้ามาลงทุนและขยายฐานการผลิตในไทย โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายที่ใช้เทคโนโลยีนวัตกรรม เช่น ยานยนต์ วิศวกรรมเครื่องจักรกล PCB (แผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์) และระบบจัดเก็บข้อมูล (Data Center) โดยไทยยินดีอำนวยความสะดวกแก่นักลงทุนเยอรมนีที่ต้องการเข้ามาประกอบธุรกิจในประเทศไทย รวมทั้งแก้ไขปัญหาใด ๆ ที่เกิดขึ้นหลังจากที่เข้ามาจัดตั้งธุรกิจแล้ว
นายพิชัยกล่าวว่า รัฐบาลไทยยังเดินหน้าสร้างโอกาสทางการค้าและการลงทุนให้กับผู้ประกอบการ ผ่านการเร่งสร้างพันมิตรรายใหม่ด้วยการเจรจาจัดทำความตกลงการค้าเสรี (FTA) โดยมี FTA ที่ประสบความสำเร็จ เช่น FTA ไทย- สมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป (เอฟตา) ที่สรุปผลและลงนามไปเมื่อต้นปี ส่งผลให้บรรยากาศการส่งออกของไทยไปยังเอฟตาในช่วงไตรมาสแรกของปี 2568 ขยายตัวต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันปีก่อนหน้า
นอกจากนี้ ยังมีการเร่งรัดการเจรจา FTA ไทย–อียู ที่ขณะนี้มีความคืบหน้าในทิศทางบวกและเป็นที่น่าพอใจ โดยทั้งสองฝ่ายมีความมุ่งมั่นที่จะสรุปผลการเจรจาให้ได้ภายในปีนี้ และมั่นใจว่าพลังสนับสนุนจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง รวมถึงภาคธุรกิจของเยอรมนี จะเป็นส่วนสำคัญที่ผลักดันให้ความตกลงการค้าฉบับนี้ สามารถสรุปผลได้ตามเป้าหมาย ซึ่งจะเป็นการขยายโอกาสและยกระดับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างไทย-อียู และไทย-เยอรมนีได้ต่อไป
ในปี 2567 เยอรมนีเป็นคู่ค้าอันดับที่ 1 ของไทยในสหภาพยุโรป การค้าระหว่างไทย–เยอรมนี มีมูลค่า 10,939.08 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเป็นการส่งออกจากไทยไปเยอรมนี 5,331.25 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ อัญมณีและเครื่องประดับ แผงวงจรไฟฟ้า เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ และรถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ และไทยนำเข้าจากเยอรมนี 5,607.83 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้านำเข้าที่สำคัญ เช่น เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เคมีภัณฑ์ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
กดคลิก Follow ด้านล่าง