“ปลัดพาณิชย์” โชว์นายกรัฐมนตรี ใช้เทคโนโลยีขับเคลื่อนงาน ลุยรับมือทรัมป์ 2.0 เต็มที่

img

“ปลัดพาณิชย์”ใช้เวทีการเป็นเจ้าภาพจัดประชุมหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า โชว์ทิศทางการขับเคลื่อนงานพาณิชย์ด้วยเทคโนโลยี ให้นายกรัฐมนตรีและผู้เข้าร่วมประชุมได้รับทราบ เผยมีแผนจัดทำ Super App รวมงานบริการทุกหน่วยงานไว้ที่เดียว มุ่งสีเขียว ลดใช้กระดาษ ลดปล่อยคาร์บอน ยันมีแผนรับมือความท้าทายจากนโยบายการค้าสหรัฐฯ ตามที่ได้รับมอบหมาย  

นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้รายงานแนวทางการทำงานของกระทรวงพาณิชย์ ให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า ที่ได้เดินทางมาร่วมการประชุมที่กระทรวงพาณิชย์เจ้าภาพ โดยได้แสดงความพร้อมในการรับมือกับความท้าทายของบริบทโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทั้งการพัฒนาองค์กร เพื่อสามารถให้บริการประชาชนในรูปแบบดิจิทัลอย่างครบวงจร และการเตรียมการรับมือภัยคุกคามจากนโยบายการค้าของประเทศมหาอำนาจที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก

โดยในการพัฒนากลไกการขับเคลื่อนเศรษฐกิจการค้าด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม ได้มีการนำระบบดิจิทัลมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน อาทิ การใช้ระบบสารบัญอิเล็กทรอนิกส์ในการรับ-ส่งเอกสารภายในและภายนอกหน่วยงาน ส่งผลให้สามารถลดการใช้กระดาษได้กว่า 5,000 รีมต่อปี และลดการปล่อยคาร์บอนในกระบวนการทำงานได้มากกว่า 26 ตันต่อปี ถือเป็นก้าวสำคัญในการขับเคลื่อนหน่วยงานสู่ระบบราชการสีเขียว (Green Government)

นอกจากนี้ ยังมีแผนเปิดตัว Super App ซึ่งจะรวบรวมบริการของกระทรวงพาณิชย์ทั้งหมดไว้ในแอปพลิเคชันเดียว เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงข้อมูลและบริการได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว ช่วยลดขั้นตอนและเวลาในการติดต่อกับภาครัฐ ถือเป็นการยกระดับการให้บริการของภาครัฐไปอีกขั้น รวมถึงเปิดตัวแอปพลิเคชัน MOC Go ซึ่งจะเป็นเครื่องมือสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเจ้าหน้าที่ โดยบูรณาการข้อมูลจากหลายหน่วยงาน เพื่อให้สามารถติดตามสถานะของผู้ประกอบการที่เข้ามาใช้บริการได้แบบเรียลไทม์ อีกทั้งยังสามารถเชื่อมโยงข้อมูลเพื่อจับคู่ทางการค้าระหว่างผู้ประกอบการไทยกับตลาดต่างประเทศได้อย่างรวดเร็ว ผ่านระบบ Generative AI ที่สามารถวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก ตอบคำถามเชิงกลยุทธ์ และช่วยในการตัดสินใจได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพ
         


นายวุฒิไกรกล่าวว่า สำหรับการรับมือกับนโยบายการค้าของสหรัฐฯ กระทรวงพาณิชย์ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ช่วงก่อนที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะเข้ารับตำแหน่ง โดยนายกรัฐมนตรี ได้มีการแต่งตั้งคณะทำงานนโยบายการค้าสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 6 ม.ค.2568 มีปลัดกระทรวงพาณิชย์เป็นประธาน เพื่อดำเนินงานเชิงรุกในการติดตามสถานการณ์ วิเคราะห์ผลกระทบ และจัดทำข้อเสนอแนะเชิงนโยบายในรูปแบบองค์รวม (Holistic Approach)

ขณะเดียวกัน ในช่วงเดือน ก.พ.2568 ที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์ได้จัดคณะผู้แทนไทยเดินทางเยือนสหรัฐฯ เพื่อหารือกับทั้งภาครัฐและเอกชนของสหรัฐฯ มีเป้าหมายเพื่อสร้างความเข้าใจร่วมกัน รวมถึงรับฟังปัญหาและข้อกังวลของภาคเอกชน ตลอดจนชี้แจงจุดยืนของไทยอย่างเป็นทางการ

นอกจากนี้ ได้บูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และมีการประชุมหารือกับคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 ฝ่าย (กกร.) เพื่อรับฟังข้อเสนอแนะและวางท่าทีร่วมกันในการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ อย่างต่อเนื่อง และในการประชุมครั้งนี้ ได้ขอความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการเร่งพิจารณาแนวทางการแก้ไขอุปสรรคทางการค้าร่วมกัน รวมถึงส่งเสริมการนำเข้าสินค้าจำเป็นและสนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยขยายการลงทุนในสหรัฐฯ เพิ่มมากขึ้น เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาวต่อไป

สำหรับสถานการณ์การส่งออกของไทย ได้รายงานว่า ในช่วงปี 2567-2568 มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเดือน มี.ค.2568 มีมูลค่าการส่งออกสูงถึง 29,548 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ถือเป็นระดับสูงสุดในประวัติการณ์ เพิ่มขึ้น 17.8% และเป็นการขยายตัวต่อเนื่องติดต่อกันเป็นเดือนที่ 9 ส่วนภาพรวมปี 2567 การส่งออกมีมูลค่า 300,529 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่ม 5.4% และในช่วง 3 เดือน ของปี 2568 (ม.ค.-มี.ค.) การส่งออกมีมูลค่า 81,532 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่ม 15.2% เกินดุลการค้า 1,081 ล้านดอลลาร์สหรัฐ  

ติดตามข่าวสารแบบฉับไว
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
ติดตามข่าวสารผ่าน Twitter
กดคลิก Follow ด้านล่าง