​กรมพัฒน์ฉลองเข้าสู่ปีที่ 102 เปิดบริการใหม่ DBD Biz Regist จดตั้งบริษัทสุดง่าย

img

กรมพัฒนาธุรกิจการค้าก้าวเข้าสู่ปีที่ 102 ประกาศเปิดให้บริการใหม่ ระบบการจดทะเบียนนิติบุคคลทางดิจิทัล หรือ DBD Biz Regist ช่วยอำนวยความสะดวกในการจดตั้งบริษัทให้ทำได้ง่ายขึ้น ยื่นคำขอออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ลดใช้เอกสาร ปลอดภัยสูง ลดค่าใช้จ่าย แถมเลือกจดวันมงคลหรือวันที่ต้องการได้ด้วยตัวเอง พร้อมย้ำเดินหน้าพัฒนางานจดทะเบียน การส่งเสริมธุรกิจ และสร้างธรรมาภิบาลต่อเนื่อง
         
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการจัดงานวันสถาปนาครบรอบ 102 ปี กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ว่า กรมได้เปิดตัวงานบริการใหม่ คือ “ระบบการจดทะเบียนนิติบุคคลทางดิจิทัล หรือ DBD Biz Regist” ซึ่งพัฒนาขึ้นเพื่อลดข้อจำกัดของการใช้บริการ โดยระบบใหม่จะเป็นมิตรและสะดวกต่อผู้ใช้บริการ หรือ User Friendly เช่น ปรับเปลี่ยนการกรอกข้อมูลรายละเอียดการจดทะเบียนให้เป็นรูปแบบ e-Form พร้อมเชื่อมโยงข้อมูลกับหน่วยงานต่าง ๆ เช่น กรมการปกครอง ไปรษณีย์ไทย เพื่อความสะดวกและลดความซ้ำซ้อนในการกรอกข้อมูล

ทั้งนี้ ยังได้เพิ่มฟีเจอร์ที่เป็นลูกเล่น เอาใจธุรกิจที่มีความเชื่อหรือศาสตร์สายมู โดยสามารถเลือกจดทะเบียนในวันมงคลที่ต้องการได้ด้วยตนเอง เนื่องจากการอ้างอิงสถิติการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจในปี 2567 พบว่า ผู้ประกอบการนิยมเข้ามาจดทะเบียนจัดตั้งในวันที่เป็นเลขมงคล อาทิ วันที่ 9 เดือน 9 , วันที่ 8 เดือน 8 และวันที่ 9 เดือน 1 ถือเป็นการเริ่มต้นธุรกิจด้วยฤกษ์มงคล ซึ่งจะเป็นหัวใจสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการให้ธุรกิจราบรื่นตั้งแต่ก้าวแรกในการทำธุรกิจ

สำหรับระบบ DBD Biz Regist มี 4 ดี ได้แก่ ดีแรก ให้บริการที่สะดวกและรวดเร็ว ผู้ประกอบการสามารถยื่นคำขอจดทะเบียนได้ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ทุกที่ทุกเวลา 24 ชั่วโมง โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางไปยังสำนักงาน ดีที่สอง ลดการใช้เอกสาร โดยลดการยื่นเอกสารและการใช้กระดาษทำให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ดีที่สาม ความปลอดภัยสูง มีการใช้เทคโนโลยีเพื่อป้องกันการปลอมแปลงข้อมูลการและรักษาความโปร่งใสในกระบวนการจดทะเบียนตลอดจนการจัดเก็บข้อมูลนิติบุคคล และดีที่สี่ ลดต้นทุน ลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการของผู้ประกอบการและหน่วยงานรัฐได้อย่างเป็นรูปธรรม



นางอรมนกล่าวว่า กรมยังได้สานต่อและยกระดับภารกิจทั้ง 3 ด้านให้มีประสิทธิภาพกว่าเดิม โดยยึดถือความต้องการของผู้ใช้บริการเป็นสำคัญ โดยด้านที่ 1 บริการจดทะเบียนและบริการข้อมูลนิติบุคคลที่จะต้องให้บริการด้วยความรวดเร็วกว่าเดิม ลดภาระต่าง ๆ ของผู้ใช้งานระบบ ควบคู่กับการส่งเสริมให้ไทยเป็นประเทศที่ง่ายต่อการประกอบธุรกิจ มีสภาพแวดล้อมที่ดีต่อการลงทุน นำไปสู่การเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันของประเทศ ซึ่งกรมจะเดินหน้าให้บริการข้อมูลธุรกิจด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลและ AI เพื่อเป็นผู้ช่วยให้กับประชาชนได้ใช้วิเคราะห์ข้อมูลและประเมินคู่ธุรกิจ

2.ส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจ เร่งพัฒนาขีดความสามารถธุรกิจไทยให้แข่งขันได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทำงานร่วมกับพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน ใช้องค์ความรู้ที่เป็นเทรนด์การตลาดโลกมาส่งต่อให้กับผู้ประกอบการได้ใช้ปรับตัว อาทิ เช่น แนวคิด ESG และโมเดลเศรษฐกิจ BCG พร้อมต่อยอดโครงการพัฒนาธุรกิจให้เข้มแข็ง อาทิ e-Learning โดย DBD Academy, Digital Village, Smart โชห่วย Plus และ Local มีดี

3.สร้างธรรมาภิบาลธุรกิจ ให้ขับเคลื่อนด้วยธุรกิจสีขาวตามเกณฑ์มาตรฐานคุณภาพธรรมาภิบาลธุรกิจ ที่สำคัญ คือ การกำกับดูแลธุรกิจให้ดำเนินการภายใต้กฎหมายอย่างถูกต้อง และทำงานร่วมกับพันธมิตรอย่างใกล้ชิดเพื่อการป้องปรามพฤติกรรมนอมินิหรือธุรกิจอำพราง ซึ่งเป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลที่ได้มอบหมายให้กรมเร่งแก้ไข
 
“การเดินทางมาถึงปีที่ 102 ต้องยอมรับว่าเส้นทางที่ผ่านมา มีความท้าทายหลายด้าน ในฐานะอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ต้องขอขอบคุณพันธมิตรที่ให้ความร่วมมือในการทำงานให้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี และยังคงมีแผนการทำงานร่วมกันในอนาคตต่อไป และที่จะขาดไปไม่ได้ คือ บุคลากรของกรมทุกคนที่ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ และทำงานกันอย่างหนักตลอดมา โดยทุกคนมีเป้าหมายและทิศทางไปในทางเดียวกัน คือ ยึดถือประโยชน์ของธุรกิจและประชาชนเป็นศูนย์กลางในการให้บริการ เพื่อนำพากรมให้ก้าวไปสู่องค์กรชั้นนำด้านบริการและขับเคลื่อนธุรกิจไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน”นางอรมนกล่าว

ติดตามข่าวสารแบบฉับไว
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
ติดตามข่าวสารผ่าน Twitter
กดคลิก Follow ด้านล่าง