​“พาณิชย์” เกาะติด ป้องกันล้งกดราคาซื้อทุเรียน หลังจีนเจอสารย้อมสี สั่งคุมเข้มนำเข้า

img

กรมการค้าภายใน ประชุมร่วมจังหวัดชุมพรและนครศรีธรรมราช ติดตามสถานการณ์การซื้อขายทุเรียนนอกฤดูกาลที่กำลังออกสู่ตลาดอย่างใกล้ชิด ขอความร่วมมือล้ง สมาคมการค้าผลไม้ ห้ามกดราคารับซื้อ หลังจีนเข้มงวดตรวจสอบทุเรียนนำเข้าจากไทย เหตุพบสารย้อมสี Basic Yellow 2 (BY2) ตกค้าง ย้ำปิดป้ายรับซื้อให้ชัดเจน และใช้เครื่องชั่งมาตรฐาน หากพบทำผิด เล่นงานตามกฎหมายเด็ดขาด
         
นายวิทยากร  มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงกรณีมีข่าวจีนตรวจพบการใช้สารย้อมสี Basic Yellow 2 (BY2) ในทุเรียน และเพิ่มการตรวจสอบทุเรียนที่นำเข้าจากไทยเข้มงวดมากขึ้น ว่า กรมไม่ได้นิ่งนอนใจในเรื่องดังกล่าว ได้มีประชุมหารือร่วมกับจังหวัดชุมพรและนครศรีธรรมราช โดยขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ติดตามสถานการณ์การซื้อขายทุเรียนอย่างใกล้ชิด ณ โรงคัดบรรจุผลไม้ (ล้ง) รวมทั้งได้ประสานสมาคมการค้าผลไม้ที่เกี่ยวข้องกำชับสมาชิกสมาคมให้รับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรอย่างต่อเนื่อง ในราคาที่เป็นธรรม ไม่กดราคารับซื้อ รวมทั้งให้แสดงราคารับซื้อให้ชัดเจน และใช้เครื่องชั่งที่มีมาตรฐาน ตามประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการฉบับที่ 66 พ.ศ.2566 เรื่องการแสดงราคารับซื้อสินค้าเกษตร ที่กำหนดให้ผู้ประกอบการธุรกิจที่เป็นผู้รวบรวม โรงคัดบรรจุ (ล้ง) ต้องแสดงราคารับซื้อให้ชัดเจน ภายในเวลา 08.00 น. ของทุกวัน หรือทันทีที่เปิดทำการรับซื้อ ณ บริเวณหน้าจุดรับซื้อ เพื่อให้เกษตรกรได้รับทราบและสามารถเปรียบเทียบราคารับซื้อได้
         
ทั้งนี้ ยังได้กำชับให้ผู้รวบรวมและล้งปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด หากพบมีการกดราคารับซื้อ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี และปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ กรณีไม่แสดงราคารับซื้อ ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท และกรณีดัดแปลงแก้ไขเครื่องชั่ง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี และปรับไม่เกิน 280,000 บาท
         


สำหรับการออกมากำกับดูแลดังกล่าว เนื่องจากสถานการณ์ผลผลิตทุเรียนนอกฤดูของจังหวัดนครศรีธรรมราช ระหว่างวันที่ 11-20 ม.ค.2568 คาดว่าจะออกสู่ตลาด จำนวน 2,700 ตัน อำเภอที่ออกเยอะที่สุด 3 ลำดับแรก ได้แก่ อำเภอท่าศาลา อำเภอสิชล และอำเภอนบพิตำ โดยผลผลิตช่วงเดือน ม.ค.-มี.ค.2568 จะมีจำนวนรวม 10,311 ตัน

ส่วนราคารับซื้อทุเรียนช่วง ธ.ค.2567- ม.ค.2568 เกรด ABC เฉลี่ยอยู่ที่ 180–250 บาท/กิโลกรัม ส่วนตกไซต์ อยู่ที่ 60–70 บาท/กิโลกรัม โดยเกรด ABC มีราคามากกว่าปีก่อนในช่วงเวลาเดียวกัน ที่มีราคาอยู่ที่ 160-180 บาท/กิโลกรัม แต่ภายหลังจากการตรวจพบสาร BY2 ของจีน ส่งผลให้ราคาปีนี้ปรับลดลงมาอยู่ที่ 160 บาท/กิโลกรัม ซึ่งเป็นราคาที่ใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่เกษตรกรที่มีการทำสัญญาซื้อขายไว้ล่วงหน้า ยังคงขายได้ในราคาที่มีการตกลงกันไว้ก่อนหน้านี้ที่ราคา 180-250 บาท/กิโลกรัม
         
ทางด้านการดำเนินการของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ คณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ ครั้งที่ 1/2568 ที่มีนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธาน ได้ประชุมเมื่อวันที่ 13 ม.ค.2568 สั่งการหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เร่งดำเนินการที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว และคาดว่าจะสามารถกลับมาส่งออกทุเรียนไปจีนได้ตามปกติ ภายใน 10-15 วัน พร้อมทั้งขอให้กรมการค้าภายในช่วยดูแลไม่ให้มีการกดราคาซื้อขายทุเรียน

ติดตามข่าวสารแบบฉับไว
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
ติดตามข่าวสารผ่าน Twitter
กดคลิก Follow ด้านล่าง