กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเชื่อมโยงข้อมูลรายชื่อบุคคลที่มีความเสี่ยงสูงด้านการฟอกเงิน (HR-03) กับ ปปง. พร้อมออกคำสั่งการจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคล หากมีชื่อหุ้นส่วนผู้จัดการ หรือกรรมการ ที่ระบุในคำขอ เป็นบุคคลที่มีชื่อในข้อมูล HR-03 จะเบรกการจดทะเบียนไว้ก่อน และให้บุคคลนั้นมาแสดงตน หลักฐาน หากไม่มา จะปฏิเสธไม่รับจดทะเบียนทันที ดีเดย์บังคับใช้ 1 ม.ค.68 นี้ เพื่อสกัดกั้นการเปิดบัญชีม้านิติบุคคล และนำมาใช้ฉ้อโกงคนไทย
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมได้เชื่อมโยงข้อมูลรายชื่อบุคคลที่มีความเสี่ยงสูงด้านการฟอกเงิน (HR-03) กับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และได้ออกคำสั่งเรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์การจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัดของบุคคลผู้ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดมูลฐานหรือเป็นเจ้าของบัญชีเงินฝากธนาคารที่ถูกใช้ในการกระทำความผิดมูลฐานตามรายชื่อของ ปปง. เพื่อให้นายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทนำข้อมูลดังกล่าวไปตรวจสอบ เมื่อมีการยื่นคำขอจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคล ทั้งรูปแบบ Walk-in หรือออนไลน์ผ่านระบบ e-Registration/Biz Regist ว่ารายชื่อหุ้นส่วนผู้จัดการ หรือกรรมการ ที่ระบุในคำขอจดทะเบียนนั้น เป็นบุคคลที่มีรายชื่อในข้อมูล HR-03 ของสำนักงาน ปปง. หรือไม่
ทั้งนี้ เมื่อนายทะเบียนตรวจพบว่าเป็นบุคคลที่ปรากฏรายชื่ออยู่ในบัญชี HR-03 จะชะลอการจดทะเบียนตามคำขอจัดตั้งนิติบุคคลดังกล่าวนั้นไว้ก่อน และเชิญให้บุคคลดังกล่าวมาแสดงตัวต่อหน้านายทะเบียน ณ หน่วยงานที่ยื่นคำขอจดทะเบียน (ส่วนจดทะเบียนธุรกิจกลาง กรมพัฒนาธุรกิจการค้า หรือสำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าเขต 1-6 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัด) เพื่อยืนยันความมีตัวตน พร้อมเอกสารแสดงบัตรประจำตัวประชาชน หรือบัตรประจำตัวข้าราชการ หรือบัตรประจำตัวพนักงานองค์การของรัฐหรือรัฐวิสาหกิจ หรือใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว หรือหนังสือเดินทาง เอกสารใช้แทนหนังสือเดินทาง หรือเอกสารอื่นที่ใช้แทนเอกสารดังกล่าวได้ตามกฎหมาย โดยเอกสารหลักฐานจะต้องยังไม่หมดอายุ และหากผู้ขอจดทะเบียนไม่แสดงตัว จะถือเป็นเหตุให้นายทะเบียนสามารถปฏิเสธคำขอจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคลกรณีนั้น ๆ ได้ โดยคำสั่งฉบับนี้ จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2568 เป็นต้นไป
“การออกคำสั่งดังกล่าว เป็นอีกหนึ่งมาตรการของกรม ที่จะช่วยสกัดกั้นตั้งแต่ต้นทาง ไม่ให้มิจฉาชีพเข้ามาแสวงหาประโยชน์กับการจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคล และกรมกรมยังได้ทำงานอย่างใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น ทั้งการเชื่อมโยงข้อมูลและลงพื้นที่ตรวจสอบกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและหน่วยงานที่มีผลบังคับใช้กฎหมายในการจับกุม อย่างกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) เพื่อช่วยกันยับยั้งไม่ให้คนกลุ่มนี้ทำลายระบบเศรษฐกิจของไทยและประชาชนคนไทย”นางอรมน กล่าว
ปัจจุบัน ปัญหาอาชญากรรมทางเศรษฐกิจในไทยรูปแบบหนึ่ง คือ การฉ้อโกงจากมิจฉาชีพที่ใช้การจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคลมาสร้างความน่าเชื่อถือไปหลอกลวงประชาชนและใช้ความคล่องตัวในการทำธุรกิจ โดยนำหลักฐานการจดทะเบียนนิติบุคคลไปเปิดบัญชีธนาคารมาใช้รับเงินและหลบเลี่ยงการตรวจสอบทางการเงินจากธนาคาร ทำให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินและความเป็นอยู่ของประชาชนไทยอย่างมาก ซึ่งปัญหานี้เป็นปัญหาเร่งด่วนที่รัฐบาลและกระทรวงพาณิชย์เร่งแก้ไข และกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ในฐานะหน่วยงานให้บริการจดทะเบียนธุรกิจ ควบคู่กับการสร้างธรรมาภิบาลให้ธุรกิจและตรวจสอบธุรกิจนอมินี ได้ขานรับนโยบายรัฐบาลเดินหน้าแก้ไขปัญหาบัญชีม้านิติบุคคลอย่างต่อเนื่อง และได้จับมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อป้องปรามและปราบปรามการกระทำผิดอย่างจริงจัง
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
กดคลิก Follow ด้านล่าง