กรมพัฒนาธุรกิจการค้า แจ้งเตือนผู้ทำบัญชี ดำเนินการต่ออายุสมาชิกสภาวิชาชีพบัญชีประจำปี 68 ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 ธ.ค.67 เพื่อไม่ให้ขาดคุณสมบัติการเป็นผู้ทำบัญชี และตรวจสอบชั่วโมงการพัฒนาความรู้ต่อเนื่องทางบัญชี ครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ รวมทั้งให้อัปเดตข้อมูลให้เป็นปัจจุบัน เพื่อสร้างมาตรฐาน และความน่าเชื่อถือให้กับนักบัญชีเอง
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมขอแจ้งเตือนผู้ทำบัญชีให้ดำเนินการต่ออายุสมาชิกสภาวิชาชีพบัญชีประจำปี 2568 และตรวจสอบจำนวนชั่วโมงการพัฒนาความรู้ต่อเนื่องทางวิชาชีพบัญชี หรือชั่วโมง CPD ให้ครบ 12 ชั่วโมงตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อคงสถานะการเป็นผู้ทำบัญชีอย่างต่อเนื่อง ไม่ขาดคุณสมบัติและปฏิบัติตามเงื่อนไขของการเป็นผู้ทำบัญชี และอัปเดตข้อมูลให้เป็นปัจจุบัน เพื่อสร้างมาตรฐานนักบัญชีไทยให้น่าเชื่อถือตามหลักสากล และเป็นผู้ช่วยธุรกิจวิเคราะห์การเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพพร้อมสะท้อนความโปร่งใสให้ธุรกิจไทย
“ผู้ทำบัญชีเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญต่อภาคธุรกิจ โดยเฉพาะนิติบุคคลอย่างบริษัทจำกัด บริษัทมหาชนจำกัด และห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน เป็นผู้มีหน้าที่จัดทำบัญชีตามกฎหมาย จึงต้องมีผู้ทำบัญชีเป็นผู้รับผิดชอบในการจัดทำบัญชีให้เพื่อแสดงผลการดำเนินงาน ฐานะทางการเงิน หรือการเปลี่ยนแปลงฐานะการเงินตามที่เป็นอยู่ ถูกต้องตามมาตรฐานการบัญชี ซึ่ง พ.ร.บ.การบัญชี ได้กำหนดให้ผู้ทำบัญชีต้องมีคุณสมบัติและปฏิบัติตามเงื่อนไขที่อธิบดีกำหนด ทั้งการเป็นสมาชิกสภาวิชาชีพบัญชี และการปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด”
ทั้งนี้ อายุสมาชิกสภาวิชาชีพบัญชี จะหมดทุกสิ้นปีปฏิทิน ผู้ทำบัญชีจะต้องต่ออายุสมาชิกของปีถัดไปให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 31 ธ.ค. ของปีปัจจุบัน โดยการต่ออายุสมาชิกประจำปี 2568 ที่กำลังจะมาถึงนี้ ผู้ทำบัญชีจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 ธ.ค.2567 เพื่อจะได้ไม่ขาดคุณสมบัติของการเป็นผู้ทำบัญชี และสามารถรับทำบัญชีให้กับธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง โดยการต่ออายุสมาชิก สามารถดำเนินการได้ที่เว็บไซต์สภาวิชาชีพบัญชี www.tfac.or.th
นอกจากผู้ทำบัญชีต้องคงคุณสมบัติของการเป็นผู้ทำบัญชีแล้ว ยังต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด เช่น 1.แจ้งรายละเอียดการทำบัญชีในระบบงานผู้ทำบัญชี (e-Accountant) ภายใน 30 วัน นับแต่วันเริ่มทำบัญชี ในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงรายการที่แจ้งไว้ ต้องแจ้งในระบบงานผู้ทำบัญชี (e-Accountant) ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่มีการเปลี่ยนแปลง 2.ยืนยันรายชื่อธุรกิจที่รับทำบัญชี และยืนยันการเป็นสมาชิกวิชาชีพบัญชี ภายในวันที่ 30 ม.ค. ของปีถัดไป (เริ่มยืนยันตั้งแต่ 1 ม.ค. เป็นต้นไป) 3.รับทำบัญชีของธุรกิจได้ไม่เกิน 100 รายต่อปีปฏิทิน และ 4.พัฒนาความรู้ต่อเนื่องทางวิชาชีพบัญชี (CPD) ไม่น้อยกว่า 12 ชั่วโมงต่อปีปฏิทิน มีชั่วโมงบัญชีไม่น้อยกว่า 6 ชั่วโมง โดยสามารถแจ้งชั่วโมง CPD ได้ทันทีหลังทำกิจกรรม แต่ไม่เกิน 30 ม.ค. ของปีถัดไป แจ้งชั่วโมง CPD ได้ 2 ช่องทาง คือ ผ่านทางระบบ e-Accountant ของกรม หรือระบบ CPD Online ของสภาวิชาชีพบัญชี
สำหรับการพัฒนาความรู้ต่อเนื่องทางวิชาชีพบัญชี ประจำปี 2567 นี้ ขอให้ผู้ทำบัญชีตรวจสอบดูว่าชั่วโมง CPD ของตนเองครบถ้วนแล้วหรือไม่ หากยังไม่ครบจะต้องรีบดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 ธ.ค.2567 พร้อมแจ้งชั่วโมง CPD ผ่าน 2 ช่องทางที่กล่าวมาข้างต้นไม่เกินวันที่ 30 ม.ค.2568
“กรมขอย้ำเตือนให้ผู้ทำบัญชีต้องสำรวจคุณสมบัติของตนเองว่าต่ออายุสมาชิก หรือเก็บชั่วโมง CPD ครบถ้วนแล้วหรือไม่ รวมถึงต้องแจ้งต่อกรมให้เสร็จสมบูรณ์ หากผู้ทำบัญชีขาดคุณสมบัติ หรือไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขดังกล่าว จะมีบทลงโทษตามกฎหมายปรับสูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท และอาจประพฤติผิดจรรยาบรรณของผู้ประกอบวิชาชีพบัญชีอีกด้วย ซึ่งกรมได้กำกับดูแลผู้ทำบัญชีอย่างเข้มข้นมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างมาตรฐานผู้ทำบัญชีไทยให้เป็นที่ยอมรับในสากล และขอความร่วมมือผู้ทำบัญชีอัปเดตข้อมูลให้เป็นปัจจุบัน เพื่อให้ท่านได้รับข้อมูลข่าวสารสำคัญอย่างรวดเร็ว รวมทั้งให้ตรวจสอบข้อมูล ได้แก่ ชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ และอีเมล ที่ให้ไว้กับกรม โดยสามารถดำเนินการได้ที่ระบบงานผู้ทำบัญชี (e-Accountant) เมนู เปลี่ยนแปลงข้อมูล”นางอรมนกล่าว
ปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 30 พ.ย.2567) ประเทศไทยมีผู้ทำบัญชีประมาณ 78,524 คน ซึ่งรับทำบัญชีให้ธุรกิจกว่า 900,000 ราย จึงขอให้ผู้ทำบัญชีเข้าระบบงานเพื่อตรวจสอบข้อมูลและอัปเดตให้เป็นปัจจุบัน เพราะผู้ทำบัญชีที่มีคุณภาพย่อมส่งผลต่อคุณภาพของข้อมูลทางบัญชีและรายงานทางการเงินของธุรกิจ ผู้ทำบัญชีจึงต้องมีความรู้ ความสามารถ เพื่อคุณภาพของงาน สร้างความเชื่อมั่น และความน่าเชื่อถือให้กับผู้รับบริการรวมถึงผู้ที่ใช้ผลงานของผู้ทำบัญชีด้วย
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
กดคลิก Follow ด้านล่าง