“นภินทร”เป็นสักขีพยานการลงนาม MOU ระหว่างกรมพัฒนาธุรกิจการค้ากับกองบัญชาการตํารวจสอบสวนกลาง ผนึกกำลังร่วมกันในการป้องกันและปราบปรามบัญชีม้านิติบุคคล และนอมินี เพื่อสกัดมิจฉาชีพใช้เป็นช่องทางหลอกลวงคนไทย เผยล่าสุดพบบัญชีม้านิติบุคคล 602 บัญชี สร้างความเสียหาย 680 ล้านบาท
นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นสักขีพยานพิธีลงนาม MOU การป้องกันและปราบปรามปัญหาการเปิดบัญชีม้าของนิติบุคคลและการใช้คนไทยเป็นตัวแทนอำพราง (Nominee) ระหว่างกรมพัฒนาธุรกิจการค้า และกองบัญชาการตํารวจสอบสวนกลาง (CIB) ที่กองบัญชาการตํารวจสอบสวนกลาง ว่า การลงนามใน MOU ร่วมกันในครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อร่วมกันแก้ปัญหาบัญชีม้านิติบุคคลตามขอบข่ายภารกิจของแต่ละหน่วยงาน และมุ่งที่จะนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษให้ถึงที่สุด สร้างความมั่นใจให้นิติบุคคลไทยและปิดวงจรมิจฉาชีพไม่ให้มีโอกาสมาหลอกลวงคนไทยอีก
ทั้งนี้ ในปัจจุบันมิจฉาชีพได้เปลี่ยนวิธีการการหลอกลวงผู้เสียหาย โดยใช้วิธีการจดทะเบียนนิติบุคคลและนำหลักฐานการจดทะเบียนนิติบุคคลไปเปิดบัญชีธนาคาร (บัญชีม้านิติบุคคล) และนำบัญชีม้านิติบุคคลนั้น มาใช้เป็นบัญชีรับเงินจากผู้เสียหายที่ถูกหลอกลวงโดยแก๊งคอลเซ็นเตอร์ มีการหลีกเลี่ยงการจดทะเบียนนิติบุคคลโดยการหลีกเลี่ยงกฎหมายการจดทะเบียนของคนต่างด้าว โดยล่าสุด พบว่ามีบัญชีม้าที่เป็นนิติบุคคล 602 บัญชี สร้างมูลค่าความเสียหาย 680 ล้านบาท
สำหรับการลงนามบันทึกความตกลงในครั้งนี้ ถือเป็นการเริ่มต้นที่สำคัญในการใช้อำนาจที่ต่างฝ่ายต่างมีอำนาจรัฐมาร่วมกันเพื่อป้องความเสียหายที่เกิดขึ้น ป้องปรามผู้กระทำความผิดที่มีความคิด วางแผน เตรียมการให้หยุดกระทำและปราบปรามผู้กระทำความผิด เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายมากขึ้น เพื่อให้คนไทยไม่ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ
“รัฐบาลให้ความสำคัญและตระหนักถึงความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับคนไทย ที่ประกอบอาชีพสุจริต และการแก้ไขปัญหาเหล่านี้ต้องร่วมมือกัน โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เป็นจุดเริ่มต้นของการจดทะเบียนนิติบุคคล ซึ่งสร้างความเชื่อถือให้กับบุคคลทั่วไป ผมได้กำชับให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเร่งตรวจสอบนิติบุคคลที่มีความเสี่ยง พร้อมทำงานจดทะเบียนธุรกิจอย่างรัดกุม เพื่อป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้น และปิดโอกาสไม่ให้มิจฉาชีพนำความน่าเชื่อถือจากการจดทะเบียนนิติบุคคลมาใช้หลอกลวงประชาชนได้ และเร่งสร้างความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและบังคับใช้กฎหมายกับผู้กระทำผิดได้ทันที”นายนภินทรกล่าว
พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวว่า กองบัญชาการตํารวจสอบสวนกลางจะทำงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าในมิติที่ลึกขึ้นในการสืบสวนสอบสวนการเปิดบัญชีม้าในรูปแบบนิติบุคคล และในกรณีที่มีคนไทยรับจ้างเป็นนอมินีให้แก่คนต่างชาติเพื่อเอื้อในการทำธุรกิจที่ผิดกฎหมายหรือหลบเลี่ยงกฎหมายของไทย ที่ปัจจุบันพบการทำความผิดและได้รับการร้องเรียนจากประชาชนเพิ่มขึ้น ซึ่งการเชื่อมโยงข้อมูลจะทำให้การสืบสวนข้อเท็จจริงเป็นไปด้วยความรวดเร็วและมีหลักฐานดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดได้ครบถ้วนขึ้น
ที่ผ่านมา รัฐบาลโดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีนโยบายในการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งเน้นให้ความสำคัญกับมาตรการการตรวจสอบและปราบปรามบัญชีม้า ซึ่งเป็นช่องทางหลักการหลอกลวงรับเงินของมิจฉาชีพ โดยที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมอบหมายให้นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ดำเนินการเรื่องดำกล่าวอย่างเร่งด่วนและรายงานผลให้ ครม.ทราบภายใน 30 วัน ต่อมานายพิชัยมอบหมายให้นายนภินทรเป็นประธานอนุกรรมการภายใต้คณะกรรมการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาสินค้าและธุรกิจต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมาย มีอำนาจหน้าที่ในการตรวจสอบพฤติกรรมของบุคคลหรือนิติบุคคลที่อาจมีพฤติกรรมในการประกอบธุรกิจโดยใช้คนไทยเป็นตัวเป็นตัวแทนอำพรางหรือนอมินีเพื่อพิจารณาดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
กดคลิก Follow ด้านล่าง