​ดีเซลแพง ท่องเที่ยว ส่งออกโต ดันดัชนีค่าขนส่งสินค้าทางถนน ไตรมาส 4 ปี 67 เพิ่ม 2.7%

img

สนค.เผยดัชนีค่าบริการขนส่งสินค้าทางถนน ไตรมาส 4 ปี 67 เพิ่มขึ้น 2.7% เหตุน้ำมันดีเซล ค่าจ้าง ดอกเบี้ยทรงตัวสูง และภาคท่องเที่ยว ส่งออกขยายตัว ทำให้มีความต้องการขนส่งเพิ่ม ระบุค่าบริการขนส่งเพิ่มทุกหมวดสินค้า ทั้งอุตสาหกรรม ผลิตภัณฑ์จากเหมือง ผลิตภัณฑ์เกษตรกรรมและประมง หากแบ่งตามโครงสร้างรถ รถบรรทุกวัสดุอันตราย เพิ่มสูงสุด ตามด้วยรถตู้บรรทุก รถบรรทุกเฉพาะกิจ รถบรรทุกของเหลว รถกระบะบรรทุก และรถพ่วง คาดไตรมาส 1 ปี 68 ยังขยายตัวสูงขึ้น
         
นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ดัชนีค่าบริการขนส่งสินค้าทางถนน ไตรมาสที่ 4 เพิ่มขึ้น 2.7% จากการสูงขึ้นของค่าบริการขนส่งในทุกหมวดสินค้า โดยหมวดผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม เพิ่ม 3.1% เพราะค่าขนส่งผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์ ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการกลั่นปิโตรเลียม สิ่งทอ อุปกรณ์ไฟฟ้า และผลิตภัณฑ์โลหะประดิษฐ์ เพิ่มสูงขึ้น หมวดผลิตภัณฑ์จากเหมือง เพิ่ม 0.9% จากค่าขนส่งถ่านหินและลิกไนต์ ปิโตรเลียมดิบและก๊าซธรรมชาติสูงขึ้น และหมวดผลิตภัณฑ์เกษตรกรรมและการประมง เพิ่ม 0.6% จากค่าขนส่งกลุ่มผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรสูงขึ้น ส่วนดัชนีค่าบริการขนส่งสินค้าทางถนนเฉลี่ยทั้งปี 2567 เพิ่มขึ้น 1.5%
         
ทั้งนี้ หากแยกดัชนีค่าบริการขนส่งสินค้าทางถนน โครงสร้างแบ่งตามประเภทรถ พบว่า ไตรมาสที่ 4 ปี 2567 เพิ่มขึ้น 1.7% เป็นการสูงขึ้นเกือบทุกประเภทรถที่ใช้บริการขนส่งสินค้า อาทิ รถบรรทุกวัสดุอันตราย เพิ่ม 3.8% รถตู้บรรทุก เพิ่ม 2.8% รถบรรทุกเฉพาะกิจ เพิ่ม 2.2% รถบรรทุกของเหลว เพิ่ม 2.2% รถกระบะบรรทุก เพิ่ม 1.9% และรถพ่วง เพิ่ม 0.7% ขณะที่ค่าบริการขนส่งรถกึ่งพ่วงบรรทุกวัสดุยาว ดัชนีราคาโดยเฉลี่ยไม่เปลี่ยนแปลง ส่วนเฉลี่ยทั้งปี 2567 เพิ่มขึ้น 0.5%

สำหรับสาเหตุสำคัญที่ทำให้ดัชนีค่าบริการขนส่งสินค้าทางถนนไตรมาสที่ 4 ปี 2567 สูงขึ้น ยังคงเป็นเรื่องของต้นทุน โดยราคาน้ำมันดีเซลขายปลีกในประเทศอยู่ระดับสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ประกอบกับอัตราค่าจ้างและอัตราดอกเบี้ยที่ทรงตัวในระดับสูง และภาคการท่องเที่ยว การส่งออก และการบริโภคภาคเอกชนที่ขยายตัวต่อเนื่อง ส่งผลให้ความต้องการขนส่งสินค้ามีมากขึ้น ค่าบริการขนส่งสินค้าจึงปรับเพิ่มขึ้น
         


ขณะเดียวกัน สนค.ได้สำรวจความคิดเห็นของผู้ประกอบการขนส่งสินค้าทางถนน เกี่ยวกับผลกระทบจากอุทกภัยต่อค่าบริการขนส่งทางถนนในช่วงเดือน พ.ย.2567 ที่ผ่านมาด้วย โดยพบว่า ผู้ประกอบการส่วนใหญ่เผชิญปัญหาเรื่องต้นทุนการขนส่งสูง แต่เนื่องจากภาวะการแข่งขันที่สูงเช่นกัน จึงปรับค่าบริการขนส่งสินค้าได้ไม่มากนัก และยังพบว่า ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ถึง 85.58% ไม่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย มีเพียง 14.42% เท่านั้น ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในช่วงที่ผ่านมา (กลางเดือน ก.ค.-ก.ย.2567) สำหรับผลกระทบที่ได้รับ ได้แก่ เส้นทางขนส่งประจำเสียหาย และทรัพย์สินบริษัทเสียหาย ส่วนความต้องการความช่วยเหลือจากภาครัฐ อาทิ ลดหรือสนับสนุนราคาน้ำมัน ตามด้วยต้องการเงินช่วยเหลือ และให้เร่งปรับปรุงเส้นทางการขนส่ง
         
นายพูนพงษ์กล่าวว่า แนวโน้มดัชนีค่าบริการขนส่งสินค้าทางถนน ไตรมาสที่ 1 ปี 2568 คาดว่าจะขยายตัวสูงขึ้นเล็กน้อย โดยมีปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญ ได้แก่ การขยายตัวอย่างต่อเนื่องของการบริโภคภาคเอกชน ภาคการท่องเที่ยว และภาคการส่งออกสินค้า ประกอบกับต้นทุนสำคัญ อาทิ ราคาน้ำมันดีเซลขายปลีกในประเทศที่สูงกว่าไตรมาสเดียวกันของปี 2567 และอัตราดอกเบี้ยที่ยังอยู่ระดับสูง และยังมีปัญหาการขาดแคลนแรงงาน และอัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือ (พนักงานขับรถบรรทุก) อาจจะปรับขึ้นตามอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ ส่งผลให้ค่าบริการขนส่งสินค้าทางถนนในประเทศปรับเพิ่มขึ้น
         
อย่างไรก็ตาม การแข่งขันด้านราคาที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น มาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการของภาครัฐ และความเสี่ยงจากการขยายตัวต่ำกว่าที่คาดการณ์ของเศรษฐกิจโลก รวมถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน ความไม่แน่นอนการดำเนินมาตรการด้านเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ อาจจะส่งผลให้ดัชนีค่าบริการขนส่งสินค้าทางถนนไตรมาสที่ 1 ของปี 2568 ไม่เป็นไปตามที่คาดได้ ซึ่งผู้ประกอบการไทย จะต้องปรับตัวให้ตอบโจทย์กับความต้องการของผู้ใช้บริการในยุคดิจิทัลให้มากขึ้น โดยการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวก ระบบการให้บริการ เพิ่มศักยภาพบุคลากร และปรับปรุงกระบวนการทำงานให้มีความเชื่อมโยงระหว่างผู้ส่งมอบและผู้ใช้บริการให้มากยิ่งขึ้น 

ติดตามข่าวสารแบบฉับไว
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
ติดตามข่าวสารผ่าน Twitter
กดคลิก Follow ด้านล่าง