​“พิชัย”ลงนาม MOU รัฐมนตรีการค้าอังกฤษ ยกระดับเป็นหุ้นส่วนทางการค้าที่แน่นแฟ้น

img

“พิชัย”ลงนาม MOU กับรัฐมนตรีการค้าสหราชอาณาจักร ยกระดับการเป็นหุ้นส่วนทางการค้าที่แน่นแฟ้น พร้อมรับรองแผนปฏิบัติการความร่วมมือที่จะเดินหน้าต่อใน 20 สาขาสำคัญ ทั้งเกษตร อาหาร ดิจิทัล การศึกษา ท่องเที่ยว ก่อนปูทางไปสู่การทำ FTA ระหว่างกันในอนาคต
         
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) ว่าด้วยการเป็นหุ้นส่วนทางการค้าที่แน่นแฟ้น (Enhanced Trade Partnership : ETP) กับนายดักลาส อเล็กซานเดอร์ (The Rt Hon Douglas Alexander) รัฐมนตรีการค้าของสหราชอาณาจักร และรับรองแผนปฏิบัติการที่ระบุถึงกิจกรรมความร่วมมือที่สองฝ่ายจะดำเนินร่วมกันใน 20 สาขาสำคัญ อาทิ เกษตร อาหาร ดิจิทัล การศึกษา การท่องเที่ยว โดยมีเป้าหมายในอนาคตที่จะมีการทำความตกลงการค้าเสรี (FTA) ไทย-สหราชอาณาจักรต่อไป
         
“การลงนามในวันนี้ แสดงถึงความมุ่งมั่นในระดับการเมืองของทั้งสองฝ่าย ที่จะขยายความร่วมมือในเรื่องการค้าและการลงทุนอย่างรอบด้าน ทั้งในเวทีสองฝ่ายและในเวทีระหว่างประเทศ และยังจะเป็นประโยชน์ต่อไทย ในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ในสาขาที่สหราชอาณาจักรมีความเชี่ยวชาญ โดยเฉพาะประเด็นการค้าใหม่ ๆ เช่น การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล การพัฒนาอย่างยั่งยืน บริการทางการเงิน การแข่งขัน และการท่องเที่ยว รวมถึงการอำนวยความสะดวกทางการค้าและการลงทุนของภาคธุรกิจ ตลอดจนยังจะเป็นพื้นฐานสำคัญต่อการเจรจา FTA ระหว่างกันในอนาคตด้วย”นายพิชัยกล่าว
         


สำหรับการทำ FTA ไทย-สหราชอาณาจักร ทั้งสองฝ่ายได้หารือถึงความเป็นไปได้ และภาคธุรกิจของทั้งสองฝ่ายก็สนับสนุนให้มีการเจรจา เพราะจะช่วยในการขยายการค้า การลงทุนระหว่างกัน
         
ทั้งนี้ ไทยและสหภาพยุโรป จะมีการสร้างโอกาสทางธุรกิจร่วมกัน โดยจัดการเจรจาจับคู่ธุรกิจในสินค้าศักยภาพของไทย เช่น ไก่แปรรูป ยานยนต์และชิ้นส่วน จักรยานยนต์และชิ้นส่วน และเครื่องจักรกล และไทยยังได้เชิญชวนให้นักธุรกิจสหราชอาณาจักรมาลงทุนในไทยเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมขั้นสูง ซึ่งจะช่วยปรับโครงสร้างการส่งออกของไทยให้ทันสมัย และเพิ่มโอกาสในการส่งออก และการจ้างงาน
         
ปัจจุบันสหราชอาณาจักรเป็นคู่ค้าอันดับ 22 ของไทยในตลาดโลก และเป็นคู่ค้าอันดับ 4 ของไทยในภูมิภาคยุโรป รองจากเยอรมนี สวิตเซอร์แลนด์และเนเธอร์แลนด์ ในปี 2566 มีมูลค่าการค้ารวมระหว่างกัน 6,740.61 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยไทยส่งออกมูลค่า 4,073.15 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นำเข้ามูลค่า 2,667.46 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เกินดุลการค้า 1,405.68 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยสินค้าส่งออกสำคัญ เช่น ไก่แปรรูป รถยนต์อุปกรณ์และส่วนประกอบ อัญมณีและเครื่องประดับ รถจักรยานยนต์และส่วนประกอบ และอากาศยาน ยานอวกาศ และส่วนประกอบ และสินค้านำเข้าสำคัญ เช่น เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ แผงวงจรไฟฟ้า เครื่องดื่มประเภทน้ำแร่ น้ำอัดลมและสุรา ผลิตภัณฑ์เวชกรรมและเภสัชกรรม และเครื่องมือเครื่องใช้เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ การแพทย์

ติดตามข่าวสารแบบฉับไว
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
ติดตามข่าวสารผ่าน Twitter
กดคลิก Follow ด้านล่าง