​กรมเจรจาฯ ล่องใต้ หนุนสินค้าปัตตานี “อาหารทะเล-ผ้าบาติก” ใช้ FTA บุกตลาดต่างประเทศ

img

กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศจับมือหน่วยงานพันธมิตร ลงพื้นที่ จ.ปัตตานี ติวเข้มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน และผู้ประกอบการกว่า 150 คน เรียนรู้การทำตลาด การใช้ประโยชน์จาก FTA ส่งออก พร้อมนำกูรูช่วยวิเคราะห์สินค้า แนะนำการพัฒนาสินค้าให้โดนใจผู้บริโภค และลงพื้นที่พบปะผู้ผลิตอาหารทะเล ประมง และผ้าบาติก ก่อนคัดนำร่วมงาน FTA Fair เปิดตัวออกสู่ตลาดทั้งในและต่างประเทศ   
         
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยหลังเป็นประธานเปิดงานสัมมนา “ชี้ช่องใช้ประโยชน์ FTA ขยายการส่งออกสินค้าของดีปัตตานีไปตลาดอาเซียน” ภายใต้โครงการการสร้างเครือข่ายเชื่อมโยง 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ สู่ตลาดการค้าเสรีอาเซียน ณ โรงแรมซี.เอส. ปัตตานี ว่า กรมได้ร่วมกับมูลนิธิเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย สภาเกษตรกรแห่งชาติ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ สำนักงานพาณิชย์จังหวัด สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ และสำนักงานสภาเกษตรกร จัดสัมมนาให้ความรู้เรื่องความตกลงการค้าเสรี (FTA) กฎระเบียบทางการค้า กลยุทธ์การทำตลาด และแนวโน้มตลาดต่างประเทศ ให้กับผู้ประกอบการ วิสาหกิจชุมชน และเกษตรกรกว่า 150 ราย เพื่อแนะนำการขยายตลาดต่างประเทศ และการใช้ประโยชน์จาก FTA ในการส่งออก
         
ทั้งนี้ ในช่วงการจัดสัมมนา ยังได้เปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมงาน นำสินค้ามาจัดแสดงและจำหน่ายสินค้า โดยมีสินค้าสำคัญ เช่น ผ้าบาติก ข้าวเกรียบปลา ลูกหยี น้ำผึ้งชันโรง และขิงผง และได้ให้ผู้เชี่ยวชาญช่วยวิเคราะห์ และแนะนำการพัฒนาสินค้าให้ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดและผู้บริโภค ที่ให้ความสำคัญเรื่องสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน เพื่อนำไปปรับใช้ในการผลิตและการทำตลาดต่อไปด้วย
         


นางอรมนกล่าวว่า กรมยังได้ลงพื้นที่พบปะผู้ประกอบการ วิสาหกิจชุมชน และเกษตรกรในพื้นที่ เพื่อรับฟังข้อมูลการผลิตและจำหน่ายสินค้า เช่น ผู้ประกอบการแพปูโชคอุดมรัชฏ์ เป็นผู้ผลิตสินค้าปูม้าต้มสุกพรีเมี่ยม และเนื้อปูม้าก้อนพาสเจอไรซ์บรรจุกล่อง ซึ่งทำการประมงที่อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและไม่ทำลายระบบนิเวศ ผู้ประกอบการข้าวเกรียบปลาหรือกรือโป๊ะแบรนด์นัสรีน เป็นผู้ที่พัฒนาผลิตภัณฑ์จนสามารถส่งออกไปตลาดญี่ปุ่นได้สำเร็จ และวางจำหน่ายในโมเดิร์นเทรดทั่วประเทศ ทั้ง Big C , Max Value , TOPs และ 7-11 วิสาหกิจชุมชนโอรังปันตัย เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายปลากุเลาเค็ม มีกระบวนการผลิตเป็นเอกลักษณ์ มีรสชาติดี ไม่มีสารเจือปน และจำหน่ายสินค้าได้ กิโลกรัมละ 1,300 บาท ถือเป็นสินค้าที่มีคุณภาพและมาตรฐาน และกลุ่มผ้าบาราโหมบาติก โดยมีการดัดแปลงลวดลายจากเครื่องกระเบื้อง ถ้วยชามโบราณ ย้อมผ้าจากสีธรรมชาติ มีลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้สามารถจำหน่ายสินค้าได้ในราคาสูง และวางจำหน่ายบนเว็บไซต์ของสายการบินไทยได้
         
“กรมมีแผนจะนำสินค้าที่มีศักยภาพของจังหวัดปัตตานี เข้าร่วมจำหน่ายในงาน FTA Fair นำสินค้าไทย สู่ตลาดการค้าเสรี ซึ่งจะจัดขึ้นในเดือน ส.ค.2566 นี้ เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจและเพิ่มช่องทางจำหน่ายสินค้าแบบปลีกให้กับผู้ประกอบการ รวมทั้งการจับคู่ธุรกิจกับห้างโมเดิร์นเทรดและคู้ค้าในต่างประเทศ โดยใช้ประโยชน์จาก FTA ซึ่งปัจจุบันคู่ค้า FTA ส่วนใหญ่ ทั้งอาเซียน จีน ออสเตรเลีย และฮ่องกง ได้ยกเว้นการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากไทยแล้ว”นางอรมนกล่าว
         
ในปี 2565 ไทยส่งออกปูสด แช่เย็นแช่แข็ง นึ่งหรือต้ม และปูกระป๋อง ไปตลาดโลก มูลค่า 46 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตลาดส่งออกสำคัญ เช่น จีน ออสเตรเลีย และเกาหลีใต้ ส่งออกข้าวเกรียบที่มีเนื้อปลาเป็นส่วนผสมและปลาปรุงแต่ง มูลค่า 103 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตลาดส่งออกสำคัญ เช่น จีน ออสเตรเลีย และกัมพูชา ส่งออกปลาแห้งใส่เกลือหรือรมควัน มูลค่า 52.34 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตลาดส่งออกสำคัญ เช่น ญี่ปุ่น ศรีลังกา และสหรัฐฯ และส่งออกผ้าผืน โดยเฉพาะบาติก มูลค่า 0.71 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตลาดส่งออกสำคัญ เช่น อินเดีย ปากีสถาน และเวียดนาม

ติดตามข่าวสารแบบฉับไว
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
ติดตามข่าวสารผ่าน Twitter
กดคลิก Follow ด้านล่าง