กรมการค้าภายในติดตามสถานการณ์ปริมาณปุ๋ยเคมีทั้งประเทศ พบมีสูงถึง 1.43 ล้านตัน มากกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 52% ทั้งยูเรีย โพแทสเซียม แอมโมเนียมซัลเฟต ส่วนสถานการณ์จำหน่ายลด 36% เหตุเกษตรกรหันใช้ปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยชีวภาพ หรือใช้แบบผสม ด้านราคาลดต่อเนื่อง ยูเรียลงแล้ว 18% แอมโมเนียมซัลเฟต ลง 26% คาดแนวโน้มลงอีก
ร.ต.จักรา ยอดมณี รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมฯ ได้ติดตามสถานการณ์ปุ๋ยเคมีอย่างใกล้ชิด ตามนโยบายที่ได้รับจากนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ โดยพบว่า ขณะนี้ปริมาณสต็อกปุ๋ยของทุกโรงงานรวมกันมีมากถึง 1.43 ล้านตัน มากกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วประมาณ 52% โดยเฉพาะแม่ปุ๋ยและปุ๋ยสูตรหลัก ๆ มีสต็อกมากกว่าปีที่แล้ว เช่น ปุ๋ยยูเรีย (46-0-0) ปุ๋ยโพแทสเซียม (0-0-60) และปุ๋ยแอมโมเนียมซัลเฟต (21-0-0) สต็อกมากกว่าปีที่แล้วถึง 136% , 191% และ 89% ตามลำดับ
ส่วนสถานการณ์การจำหน่ายปุ๋ยของทุกโรงงานรวมกันในช่วง 10 เดือนของปี 2565 (ม.ค.-ต.ค.) พบว่า ปริมาณการใช้ปุ๋ยเคมีทั่วประเทศลดลงประมาณ 36% จากช่วงเดียวกันของปี 2564 เนื่องจากเกษตรกรส่วนหนึ่ง ได้ปรับเปลี่ยนแนวทางในการเพาะปลูก โดยใช้ปุ๋ยเคมีลดลง และใช้ปุ๋ยอินทรีย์ หรือปุ๋ยชีวภาพทดแทน หรือใช้แบบผสมผสานควบคู่กันไป เพื่อลดต้นทุนในการเพาะปลูก
“จากปริมาณปุ๋ยเคมีที่มีมากเพียงพอในขณะนี้ และปริมาณการใช้ที่ลดลง ทำให้ตลาดมีการแข่งขันราคากันมากขึ้น ประกอบกับราคาปุ๋ยเคมีในตลาดโลกได้ลดลงมาบ้างแล้ว แม่ปุ๋ยและปุ๋ยสูตรต่าง ๆ ที่จำหน่ายในประเทศ จึงได้ปรับลดราคาลง โดยราคาจำหน่ายเฉลี่ยภาคกลาง ปุ๋ยยูเรีย (46-0-0) ลดลง 18% และปุ๋ยแอมโมเนียมซัลเฟต (21-0-0) ลดลง 26% และคาดว่าราคาปุ๋ยเคมีมีแนวโน้มที่จะลดลงอีก โดยกรมฯ จะร่วมกับสำนักงานพาณิชย์ทั่วประเทศจะติดตามสถานการณ์ปุ๋ยเคมีอย่างต่อเนื่องต่อไป”ร.ต.จักรากล่าว
นอกจากนี้ กรมฯ ยังได้ลงพื้นที่และพูดคุยกับนายมานิตย์ บุญเขียว ประธานวิสาหกิจชุมชนศูนย์ข้าวและผู้ปลูกผักปลอดภัยจากสารพิษ ต.บ้านใหม่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ร่วมกับนายสงกรานต์ เพ็ชรน้ำเขียว พาณิชย์จังหวัดนนทบุรี น.ส.มณฑา เจริญสุขสุวรรณ ปลัด อบต. บ้านใหม่ นายอาคม แก้วเอี่ยว ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 และน.ส. จิรารัตน์ ผ่องแผ้ว ผู้แทนสำนักงานเกษตรอำเภอบางใหญ่ พบว่า เกษตรกรในเครือข่ายของวิสาหกิจชุมชนฯ ได้ลดการใช้ปุ๋ยเคมีลงและหันมาใช้ปุ๋ยอินทรีย์กันมากขึ้น โดยใช้วัตถุดิบที่หาได้ในพื้นที่และจังหวัดใกล้เคียงที่มีราคาไม่แพง เช่น มูลสัตว์ แกลบ รำข้าว น้ำหมัก และกากน้ำตาล เป็นต้น นำมาผสมให้ได้สารอาหารที่ขาดในดิน ตามประเภทของพืชที่เพาะปลูก ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ อบต.บ้านใหม่
ทั้งนี้ นายสมชาย จันทร์วิเหลือง เกษตรกรผู้ปลูกผักในตำบลบ้านใหม่ ได้ยืนยันว่า หลังจากที่ได้ปรับเปลี่ยนแนวทางการใช้ปุ๋ย พบว่า ผลผลิตไม่ได้ลดลง ดินไม่เสื่อมสภาพ และปัญหาแมลงลดลง ทำให้ใช้ยาฆ่าแมลงน้อยลงไปด้วย
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
กดคลิก Follow ด้านล่าง