ผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปบุก “พาณิชย์” ยื่นหนังสือขอปรับราคาขนาดซอง 6 บาทเป็น 8 บาทแล้ว ย้ำทุกวันนี้ ต้องขายขาดทุน ขอให้พิจารณาโดยเร็ว “วัฒนศักย์”ขอพิจารณาต้นทุนก่อน ยังไม่ได้อนุมัติให้ใครขึ้น ย้ำช่วงนี้ใครฉวยโอกาสขึ้นราคา กักตุน เจอคุก 7 ปี ปรับ 1.4 แสน ไม่ปิดป้ายราคา ปรับ 1 หมื่น
         
ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ว่า วันที่ 16 ส.ค.2565 ผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ได้เดินทางมายังกระทรวงพาณิชย์ นำโดยนายพันธ์ พะเนียงเวทย์ ผู้จัดการสำนักกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ไทยเพรซิเด้นท์ฟู้ด จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปตรามาม่า และนายวีระ นภาพฤกษ์ชาติ กรรมการผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท โรงงานผลิตภัณฑ์อาหารไทย จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปไวไว ซึ่งได้รับมอบหมายจากผู้ผลิตอีก 3 ราย คือ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปตรายำยำ ซื่อสัตย์ และนิชชิน เข้ายื่นหนังสือต่อกรมการค้าภายใน เพื่อขอให้พิจารณาเร่งรัดการปรับขึ้นราคาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปจาก 6 บาทต่อซอง เป็น 8 บาทต่อซอง
         
นายพันธ์กล่าวว่า ต้องการให้กรมการค้าภายในเร่งรัดการพิจารณาปรับขึ้นราคาโดยเร็วที่สุด เพราะการจำหน่ายตอนนี้ ประสบภาวะขาดทุน ทำให้ต้องหันไปส่งออกมากขึ้น เพราะมีกำไรมากกว่า โดยปัจจุบันส่งออกเพิ่มเป็น 30-35% ของกำลังการผลิตทั้งหมด แต่จะมาบอกว่าได้กำไรจากการส่งออก แล้วไม่อนุมัติให้ปรับขึ้นราคาในประเทศ ไม่ถูกต้อง เพราะกำไรจากการส่งออก ก็มีไม่มาก แค่ 5% เท่านั้น
         


“ยืนยันว่าจะไม่มีปัญหาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปขาดแคลน และมีเพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค โดยตอนนี้เดินเครื่องผลิตเพียง 80% ของกำลังการผลิตทั้งหมด อย่างช่วงที่น้ำท่วมใหญ่ ถนนขาด มาม่าก็ยังผลิตและขนส่งไปจำหน่ายได้ ผู้บริโภคไม่ต้องกังวล”นายพันธ์กล่าว
         
นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า กรมฯ จะพิจารณาเป็นกรณี ๆ ไป โดยดูต้นทุนทั้งที่เพิ่มขึ้น และลดลง ยังบอกไม่ได้ว่าจะได้ข้อสรุปเมื่อไร เพราะต้องพิจารณาด้วยความรอบคอบ ดูว่าความสมดุลอยู่ตรงไหน ผู้ประกอบการต้องอยู่ได้ ผู้บริโภคต้องไม่ได้รับผลกระทบมากจนเกินไป ตามหลักการวิน-วิน โมเดล แต่ยอมรับว่าตันทุนการผลิตเพิ่มขึ้นจริง ทั้งแป้งสาลี น้ำมันพืช ราคาพลังงาน ค่าขนส่ง และวัตถุดิบอื่น ๆ
           
อย่างไรก็ตาม กรมฯ จะมีการติดตามการจำหน่ายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปอย่างใกล้ชิด หากพบการฉวยโอกาสปรับราคาสินค้า หรือกักตุนสินค้า จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย มีโทษจำคุก 7 ปี ปรับไม่เกิน 1.4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และกรณีไม่ปิดป้ายแสดงราคา มีโทษปรับ 1 หมื่นบาท